ข่าว

พ่อ 'โฟโต้' ก้มกราบแม่ผู้เสียชีวิต ญาติไม่พร้อมรับเงินช่วยศพ ถาม ควรอภัยไหม

04 มิ.ย. 2567

พ่อ 'โฟโต้' ก้มกราบ แม่ 'โต๊ด' ผู้เสียชีวิต ขอโทษแทนลูกชายที่ก่อเหตุสลด พร้อมมอบเงินช่วยงานศพแต่ถูกปฎิเสธ ญาติถาม กับคนประเภทนี้สมควรที่จะให้อภัยไหม

กรณีนายภูริณัฐ หรือ โฟโต้ อายุ 27 ปี อดีตนักศึกษานิติศาสตร์ ม.ดัง ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีใช้อาวุธมีดฆ่า นายไพศาล ทองอ่อน อายุ 54 ปี เสียชีวิตในห้องพักคอนโดย่านงามวงศ์วาน ก่อนจะอำพรางศพแล้วหลบหนีไปพร้อมทรัพย์ของผู้เสียชีวิต ก่อนต่อมาจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักหลังหนึ่งในเขตอำเภอเมืองชุมพร 

 

เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี กัน จอมพลัง พร้อมด้วยครอบครัวผู้เสียชีวิต และนายพรชัย กาจนบรรยงค์ พ่อของโฟโต้ผู้ต้องหา ได้นัดเจรจาเพื่อขอโทษกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และมอบเงินช่วยงานศพจำนวนหนึ่ง โดยมี พ.ต.ต ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี และทนายโร หรือ น.ส.อัศวีร์ อนุวัตน์รุจิกร ทนายฝ่ายครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นสักขีพยาน ปรากฎว่าบรรยากาศในห้องเจรจา นายพรชัย พ่อขอผู้เสียชีวิต ได้คุกเข่าลงที่พื้นพร้อมยกมือไหว้และกล่าวขอโทษแทนลูกชาย 

 

จากนั้นได้ก้มกราบนางบรรจง แม่ของผู้เสียชีวิต พร้อมกับยื่นซองช่วยเหลือค่าจัดงานศพ ซึ่งนางบรรจงก็รับซองไว้ แต่ถูกนายฉัตรชัยพี่ชายของผู้เสียชีวิต นำซองกลับมาวางลงที่โต๊ะพนักงานสอบสวน และมีการสนทนาพูดคุยอีกกันสักพัก ก่อนที่นายพรชัยจะขอตัวลากลับ ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 15 นาที 

นายพรชัย พ่อผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนนำเงินมาช่วยเหลืองานศพ แต่ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเขาไม่รับ ก็ไม่เป็นไร ส่วนเหตุผลที่ไม่รับเงินช่วยงานศพนั้น เป็นเพราะอะไรตนขอไม่พูดดีกว่า วันนี้ตนได้กล่าวขอโทษและแจ้งว่าพรุ่งนี้จะไปร่วมงานศพ ตนได้กราบขอโทษทางแม่ผู้เสียชีวิตไปแล้ว พร้อมกับยื่นเงินช่วยเหลืองานศพให้แต่เขาปฎิเสธที่จะไม่รับ โดยทางครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องการให้ตนไปยื่นให้ใหม่ในพรุ่งนี้ที่งานศพวัด ซึ่งตนก็จะเดินทางไปเพราะตั้งใจจะไปร่วมงานและนำเงินไปช่วยเหลือศพอีกครั้ง 

 

หลังออกจาก ห้องเจรจา น.ส.ฝ้าย หลานสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวแทนครอบครัวว่า พ่อของผู้ก่อเหตุเข้ามากราบย่า แล้วก็มอบเงินบอกว่าช่วยทำบุญ เป็นเงินช่วยงาน แต่ทางครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะรับไว้ ตนไม่ทราบว่าในซองนั้นมีเงินเท่าไหร่แต่มันตีมูลค่าเท่ากับชีวิตอาของตนที่เสียไปไม่ได้

 

ในระหว่างที่เขากำลังจะกลับไป ย่ายังพูดกับเขาว่า ลูกของเขาทำเรื่องไม่ดี ซึ่งเขาก็ยอมรับว่าลูกชายเขาทำไม่ดีจริงๆ พร้อมกับกล่าวขอโทษ เขาบอกว่าเขามาแค่เรื่องช่วยเงินจัดงานศพ ไม่ได้พูดอะไรอย่างอื่นอีก และทางครอบครัวเราก็ไม่รับเงินเขาไว้ เพื่อแสดงกิริยาให้เห็นว่า ต่อให้นำเงินมาช่วยเหลือขนาดไหน ก็เทียบเท่าชีวิตอาของตนไม่ได้ คนหนึ่งคนต้องเสียชีวิตไปกับความรู้สึกของย่าตนอีก เรื่องคดีความและเรื่องเงินเยียวยาก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน และถ้าเขาจะขอไปร่วมงานศพทางครอบครัวตนก็ต้อนรับเหมือนแขกคนที่ไปร่วมงานตามปกติเท่านั้น 

ทางด้านนายฉัตรชัย ทองอ่อน พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เขาพูดเหมือนเขาไม่จริงใจ เหมือนเขามาทำหน้าที่แทนลูกชายให้มันผ่านๆ ไป ข่าวที่ออกมาว่าพร้อมจะมาเยียวยา แต่เมื่อมาเจอไม่เห็นมีคำว่าเยียวยาออกมาจากปากเขาเลย เขาบอกแค่ว่าจะนำเงินช่วยเหลืองานศพ ซึ่งตนก็บอกกับเขาไปว่า แม้จะเอาเงินมาช่วยทำบุญงานศพน้องชายตน แต่ทางครอบครัวก็ไม่พร้อมที่รับเงินไว้ เพราะเรื่องนี้มันตีมูลค่าชีวิตน้องชายตนไม่ได้ 

 

พอทางครอบครัวเราไม่รับ เขาก็ทำเป็นเหมือนไม่พอใจ ซึ่งยังอยู่เลยว่าถ้าคนที่คิดดีจริงๆ มันต้องมีความพยายามมากกว่านี้ แต่กับคนประเภทนี้ตนถามว่าสมควรที่จะให้อภัยไหม

 

สำหรับงานศพน้องชายตนนั้น เขาสามารถไปร่วมงานได้ ตนไม่ได้มีพฤติกรรมเหมือนลูกชายเขาที่ฆ่าคนตาย คงไม่ใครไปแทงคนตายในวัดหรอก เขาอยากไปก็ไปได้