ทั้งเสียใจ ทั้งโกรธ 'แม่เสี่ยต้น' พูดทั้งน้ำตา
'แม่เสี่ยต้น' เผยทั้งน้ำตา ไม่คิดว่าลูกสะใภ้จะทำกับ 'เสี่ยต้น' ได้ ขณะที่ครอบครัว 'เสี่ยต้น' ยื่นคัดค้านประกันตัวผู้ต้องหา
วันที่4มิ.ย.2567 ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ นายพิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น นักธุรกิจนวดไทย ที่บ้านพัก น.ส.วรรณิภา หรือ มด เมียเสี่ยต้น ใน อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม เมื่อเช้าวันที่ 16 เม.ย.2567 โดยก่อนเผาศพ ญาติของ เสี่ยต้น พบความผิดปกติของสภาพศพ ตัวดำคล้ำ มือหงิกงอ
ขณะที่ก่อนการเสียชีวิตของ เสี่ยต้น 8 วัน พบว่า เสี่ยต้น เคยถูกลอบยิง เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2567 ครั้งนั้น มด นัด เสี่ยต้น ไปที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง แต่ยกเลิกนัดกะทันหัน วันดังกล่าว เสี่ยต้น รอดคมกระสุนมาได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดท้องที่ สน.วังทองหลาง
ต่อมา วันที่3มิ.ย.2567 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 พร้อมกำลัง เข้าจับกุม มด เมียเสี่ยต้น ฐานจ้างวานฆ่า เสี่ยต้น รวมถึงจับกุม นายสาโรจน์ อายุ 25 ปี ชาวกทม. คนจัดหาอาวุธปืน และ นายวีรภัทร อายุ 25 ปี ชาว จ.นครนายก คนขี่รถจยย.ให้มือปืนไปยิง เสี่ยต้น ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้อนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน แล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ ครอบครัวของ เสี่ยต้น ประกอบด้วย น.ส.ปภาพินท์ กลีบจินดา แม่เสี่ยต้น , น.ส.ณัฐปภัษร์ ธนภัคนันท์หิรัญ หรือ เจ น้องสาว , น.ส.ปนรรฐพร อยู่พิทักษ์วงศ์ หรือ หมวย ลูกพี่ลูกน้อง และน.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง เดินทางมายื่นเอกสาร คัดค้านการประกันตัว 3 ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจจับกุมตัวได้
โดย ทนายกุ้ง กล่าวว่า วันนี้พาแม่ เสี่ยต้น มายื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาที่ตำรวจจับกุมได้ทั้งหมด3คน โดยเกรงว่าหากพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวไป ผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของ สน.วังทองหลาง และในพื้นที่ จ.มหาสารคาม
ส่วนจะยังมีความกังวลอะไรอีกหรือไม่ ทนายกุ้ง กล่าวว่า เฉพาะคดีนี้ที่จับได้ที่ สน.วังทองหลาง แต่ที่ต้องติดตามกันต่อไปคือ คดีในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ที่ เสี่ยต้น เสียชีวิต โดยยังมีความกังวลอยู่ว่าจะมีความเชื่อมโยงหรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจว่ามีความเชื่อมโยงการตาย เสี่ยต้น หรือไม่
ทั้งนี้จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ตำรวจจะต้องทำงานหนักเช่นกัน เพราะต้องไปสอบพยานบุคคล พยานแวดล้อมต่างๆ เนื่องจากด้านนิติวิทยาศาสตร์ยังต้องรอผลว่าเป็นไปได้มากแค่ไหน โดยในวันพรุ่งนี้จะไปยื่นคัดค้านที่ศาลต่อไป
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่หากผู้ต้องหาจะใช้ข้ออ้างในการประกันตัวว่าจะต้องดูแลบุตร เนื่องจากพ่อเสียชีวิตไปแล้ว ทนายกุ้ง กล่าวว่า เขามีสิทธิ์ที่จะอ้างได้ แต่การจะอนุญาตให้ประกันตัว อยู่ที่ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนหรือศาลว่ามีเหตุจำเป็นหรือไม่ เพราะคดีนี้มีอัตราโทษสูง และยังไม่สิ้นสุดคดี เนื่องจากมีคดีต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องอยู่ในพื้นที่ จ. มหาสารคาม
เมื่อถามว่า มด เมียเสี่ยต้น ให้การปฏิเสธ ทนายกุ้ง กล่าวว่า แม้จะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ก็อยากให้สู้ไป เพราะสู้ติดแน่ แพ้ติดนาน ทั้งนี้ เราเชื่อมันการทำงานของตำรวจ มีพยานหลักฐานที่ชัดเจนที่สามารถจะเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาได้ อย่างไรก็ตามแม้พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวทางครอบครัวของ เสี่ยต้น จะยื่นคัดค้านต่อ
ส่วนเรื่องเงินประกัน เสี่ยต้น จำนวน16ล้านบาท จะเป็นโมฆะหรือไม่นั้น จะต้องไปดูเงื่อนไขกรมธรรม์ในการทำประกันของ เสี่ยต้น ก่อน ว่าถ้าเสียชีวิตในลักษณะนี้จะทำให้เงื่อนไขเป็นโมฆะหรือไม่ เพราะบางกรมธรรม์ไม่มีเงื่อนไขบังคับอะไร ถ้าหากเสียชีวิตทางประกันก็จ่ายเลย
ด้าน น.ส.ปภาพินท์ แม่เสี่ยต้น กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ขอบคุณทุกคนทุกหน่วยที่ช่วยแม่เต็มที่ ทั้งนี้ ไม่อยากคุยและไม่มีอะไรจะถามกับ มด ไม่คิดว่าจะเป็นคนนี้ คิดว่าเป็นคนนอก ทั้งนี้โกรธ และอยากบอกว่า ลูกสะใภ้ทำกับลูกแม่ได้ เดี๋ยวสักวันลูกเขาก็ต้องทำกับเขาได้
ส่วนจะอโหสิกรรมให้หรือไม่ น.ส.ปภาพินท์ กล่าวว่า ขอรอให้เสร็จก่อน และ ห่วงหลาน แต่ทางญาติพี่น้องเขามีคนดูแลเยอะ หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้คุยกับหลานเลย เขาไม่ให้ติดต่อกับเราเลย เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดก็ห่วงเป็นธรรมดา ทั้งนี้ยังเชื่ออยู่ว่าลูกถูกวางยา ทั้งนี้ไม่ได้คุยกับญาติ มด ที่อยู่ จ. มหาสารคาม เลย ส่วนเรื่องประกันทางแม่ไม่มีปัญหา
ด้าน น.ส.ปนรรฐพร หรือ หมวย กล่าวว่า ช่วงเช้าวันนี้ที่เข้าไปยังหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อต้องการที่จะดูหน้า มด ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และอยากถาม มด ว่าทำกับครอบครัวตนแบบนี้ได้อย่างไร รวมทั้งมีเรื่องที่อยากให้การและให้ข้อมูลกับตำรวจเพิ่มเติมว่าครอบครัว มด ทำอย่างไรกับครอบครัวของตนบ้าง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ เสี่ยต้น ถูกลอบยิง
ส่วนสาเหตุเรื่องมือที่ 3 ของ เสี่ยต้น และ มด ที่จะเป็นชนวนเหตุ ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้นั้น มองว่าเรื่องใดผิดก็ต้องยอมรับ ยอมรับว่าเคยเห็น เสี่ยต้น พาผู้หญิงคนอื่นมาด้วยจริง ส่วน มด ที่มีข้อมูลว่ามีคนสนิทเป็นชายอื่น และ เสี่ยต้น เห็นข้อความในโทรศัพท์มือถือจนเกิดการทะเลาะวิวาทกันนั้น เรื่องนี้ต้องรอพิสูจน์ความจริงอีกครั้ง สิ่งไหนผิดก็ต้องยอมรับผิดเพราะเรื่องมือที่สามของทั้งสองคน เป็นแค่ต้นเหตุที่นำมาเป็นข้อสงสัยเท่านั้น