‘ทวี' หารือ 'ตำรวจอินโดฯ’ พร้อมเผยถึงแหวนเพชร หายจริงหรือไม่

วันที่5มิ.ย.2567 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ร่วมหารือกับ ตำรวจอินโดนีเซีย นำทีมโดย พ.ต.อ.ออดี้ ซอนนี่ ลาตูเฮรู หัวหน้าแผนกอาชญากรรมระหว่างประเทศ และเป็นตำรวจสากลอินโดนีเซีย เพื่อขอบคุณในความร่วมมือจับกุมและส่งตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด กลับประเทศไทย

 

โดย พ.ต.อ.ทวี กล่าวขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ และชื่นชมการทำงานของ ตำรวจอินโดนีเซีย ที่ติดตามตัว นายเชาวลิต มาได้โดยเร็ว ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่ดี และเป็นการยกระดับความร่วมมือในการป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติ เพราะผู้กระทำความผิดมักจะใช้ช่องโหว่หนีไปประเทศที่ไม่สามารถติดตามตัวได้

ด้าน พ.ต.อ.ออดี้ กล่าวว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ทำสุดความสามารถแล้ว และหวังว่า ประเทศไทยจะให้ความร่วมมือกับ อินโดนีเซีย ในการติดตามตัวผู้ต้องหาที่อินโดนีเซียต้องการตัวเช่นกัน หลังจากนี้คณะของตนจะอยู่ในประเทศไทยอีก 2-3 วัน เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหา ที่ อินโดนีเซีย ต้องการตัว

 

จากนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การที่นำตัว แป้ง นาโหนด มาที่ เรือนจำกลางบางขวาง เพราะเป็นคดีเด็ดขาดแล้ว ส่วนคดีใหม่ที่หนีการคุมขัง ตำรวจดำเนินการสอบสวน และจะให้มาอายัดตัวที่กรุงเทพฯ หลังจากนี้ใครจะสอบสวนอะไรก็ต้องมาอายัดตัวที่กรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัย และเพื่อประโยชน์ในการสอบสวน อีกทั้ง นายเชาวลิต ถือว่ามีสิทธิ์ตามผู้ต้องขังอื่น สามารถเข้าเยี่ยมได้ ทนายสามารถขอพบได้ และจะได้รับการดูแลเหมือนคนทั่วไป

เมื่อถามถึงเครือข่ายยาเสพติด ที่ให้การสนับสนุน นายเชาวลิต พ.ต.อ.ทวี  กล่าวว่า เรามีข้อมูลในเรื่องนี้ แต่ต้องขอประชุมร่วมกันก่อน แต่ได้พูดคุยกับทีมของเขายืนยันว่า จะไม่ให้ อินโดนีเซีย เป็นพื้นที่ในการหลบหนี โดยเฉพาะพวกค้ายาเสพติด และหากมีคนที่มาหลบหนีในประเทศไทย เราก็ต้องจับกุม นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าปัจจุบัน ยาเสพติดไม่ใช่แค่วาระของชาติ แต่เป็นวาระของนานาชาติ

 

ยกตัวอย่างคดีที่ แป้ง นาโหนด ก่อเหตุชิงตัวผู้ต้องหายาเสพติดในพื้นที่พัทลุง ซึ่งคดีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และในคำพิพากษาพบว่า มีคนเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และเป็นคดีที่ นายเชาวลิต ได้อัดคลิปขอความเป็นธรรม ทำให้หน่วยงานส่วนกลางต้องลงไปสอบสวน

 

เมื่อถามว่า แป้ง นาโหนด ระบุว่าจะได้รับความเป็นธรรมจาก รมว.ยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่ใช่จากรัฐมนตรี แต่จะได้รับความเป็นธรรมจากพยานหลักฐาน ถ้าเขาไม่เกี่ยวก็คือไม่เกี่ยว แต่ถ้าเขาเกี่ยวก็ต้องเกี่ยว ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ถ้าพยานหลักฐานถึง เราก็ดำเนินคดีต่อ

 

ส่วน แหวนเพชร ที่ แป้ง นาโหนด อ้างว่าหายไป ระหว่างถูกจับที่บาหลี พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ทาง ตำรวจอินโดนีเซีย มีหลักฐานมาโชว์ ว่ามีกล้องในการถ่ายการจับกุม พร้อมยืนยันว่าไม่มีของหาย

 

ส่วนในการเจรจา แป้ง นาโหนด ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยังไม่ได้สอบสวนอย่างเป็นทางการ เดี๋ยวถ้ามาถึงก็จะให้เจ้าหน้าที่พูดคุย และ 1 ในนั้นน่าจะเป็น เลขาธิการ ป.ป.ส. ส่วนที่ตนพูดคุยกับ แป้ง นาโหนด ก็เป็นไปตามคลิปวีดีโอที่ออกมา เขาพูดแค่นั้น แต่บางส่วนได้มีการเปิดเผยถึงบุคคลอื่น อาจทำให้เสียหายได้ เพราะยังไม่ทราบว่าเรื่องที่เขาพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะในการสอบสวนของกระบวนการยุติธรรมไทย ใครจะพูดอะไรก็ได้ แต่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ต้องมีหลักฐาน สิ่งที่นายเชาวลิตพูด เราก็ต้องรับฟัง หากมีพยานหลักฐานรองรับ ก็ต้องเชื่อเขา แต่ถ้าไม่มีเราก็แค่รับฟัง

 

เมื่อถามว่า ได้มีการเตรียมมาตรการรองรับอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้เตรียมมาตรการไว้แล้ว เพราะ นายเชาวลิตหลบหนีก็เป็นส่วนที่เราต้องไปสอบสวน ว่าหลบหนีได้ยังไง ส่วนการอยู่ในเรือนจำก็ต้องอยู่เหมือนคนอื่น มาตรฐานเดียวกับนักโทษคนอื่น ไม่มีการกลั่นแกล้ง ส่วนเรื่องฆ่าตัดตอนก็มีการดูแล ซึ่งเรือนจำต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด

 

ส่วนที่ต้องย้ายมาคุมขังที่ เรือนจำกลางบางขวาง เป็นการร้องขอของนายเชาวลิต หรือเราดำเนินการเอง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปกติจะป้องกันไม่ให้เกิดการทำผิดซ้ำสอง วันนี้เรือนจำนครศรีธรรมราช ยังสร้างไม่เสร็จ จึงอาจจะต้องไปอยู่กับคนอื่น ดังนั้นเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ต้องเอามาอยู่ที่กรุงเทพฯก่อน โดย นายเชาวลิต ไม่ได้ร้องขอ แต่ขอความเป็นธรรม และคำว่าเป็นธรรมมันกว้าง

 

เมื่อถามว่า นายเชาวลิต ค่อนข้างที่จะมีคอนเน็คชั่น จะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้ซ้ำรอย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อาจจะเป็นข้ออ้างของเขา แต่ในทางปฏิบัติจะมีใครช่วยเหลือเขาหรือไม่ หรือจะมีคอนเน็คชั่นจริงหรือไม่ เราไม่ทราบ แต่ในเรือนจำกลางบางขวาง อธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง มันมีที่คุมขังที่ให้อยู่คนเดียว และมีห้องความปลอดภัยสูงหลายห้อง

 

ด้าน พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวเสริมว่า มีความจำเป็นจะต้อง ขังเดี่ยว นายเชาวลิต เพราะไม่อยากให้พบปะกับผู้ต้องหาอื่น และเป็นความปลอดภัยของเขาด้วย เพราะเขาอาจจะมีโจทย์อยู่

 

เมื่อถามว่า สังคมมีการตั้งข้อสังเกตการนำตัว นายเชาวลิต กลับมาอย่างหรูหรา พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทาง อินโดนีเซีย เป็นผู้ดำเนินการ เพราะเราก็เคยส่งตัวผู้ร้ายให้กับเขาเช่นกัน ส่วนภาพที่เกิดขึ้นมันเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ผู้กระทำความผิดต้องได้รับการลงโทษ ดังนั้น อินโดนีเซียจะไม่ให้มีการปะปนกับคนอื่น  แม้แต่ตำรวจไทยก็ยังไม่ให้ขึ้นเครื่อง ถือว่าเขาได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว ถ้าจะมีการตั้งข้อสงสัย เราก็ต้องชี้แจงว่ามันเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาล

 

ส่วนเรื่องยาเสพติด ขอให้มีการสอบสวนก่อน เพราะหากพูดออกไปคนร้ายที่ยังจับไม่ได้ จะหนีกันไปใหญ่ ดังนั้นเรื่องของคดีเดี๋ยวจะคุยในรายละเอียด วันนี้ประเทศไทยไม่ใช่แหล่งผลิตยาเสพติด แต่เป็นทางผ่านของยาเสพติด ดังนั้นนักค้ายาเสพติดส่วนใหญ่ก็จะไปอยู่ตามชายแดน เพื่อให้หลุดรอดการจับกุม ส่วนจะเป็นขบวนการค้ายาข้ามชาติหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน

 

ขณะที่ พ.ต.อ.ออดี้ ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า การติดตามจับกุม นายเชาวลิต ทางตำรวจ อินโดนีเซีย ได้ใช้ทรัพยากรในการติดตามสืบสวนสอบสวนอย่างเต็มที่ โดยเริ่มติดตามตั้งแต่อาเจะห์ เมดาน ไปจนถึงบาหลี  ซึ่งทาง อินโดนีเซีย มีความยินดีอย่างยิ่งในการช่วยเหลือทางการไทย เพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสำนักตำรวจแห่งชาติของไทย และให้ความร่วมมือกันมาโดยตลอด

 

ส่วนทางตำรวจอินโดนีเซียทราบได้อย่างไร ว่า นายเชาวลิต ได้หลบหนีเข้าประเทศอินโดนีเซียนั้น พ.ต.อ.ออดี้ กล่าวว่า หลังจากพบข้อมูลว่า นายเชาวลิต เดินทางเข้าประเทศ อินโดนีเซีย ผ่านชาวอาเจะห์แล้ว ก็ได้เริ่มต้นกระบวนการสอบสวน โดยตามจากผู้ที่ช่วยพาเข้าประเทศ และผู้ที่ช่วยปลอมแปลงบัตรประชาชน ซึ่งขณะนี้จับกุมได้เรียบร้อยแล้ว ก่อนแจ้งข้อมูลให้กับตำรวจติดตามจับ นายเชาวลิต จนสำเร็จ