ข่าว

แม่เหยื่อ หนุ่ม 18 โผล่ เล่า ลูกสาว 13 ถูกลวงซ้อมล้างหนี้ ชวนเข้าลัทธิประหลาด

ไม่ใช่ครั้งแรก แม่เหยื่อ หนุ่ม 18 โผล่ เล่าลูกสาววัย 13 ปี ถูกลวงซ้อมล้างหนี้ ชวนเข้าลัทธิประหลาด เผยแฟนสาวที่ถูกฆ่าโหด มีพฤติกรรมคล้ายนกต่อ

6 มิ.ย.2567 กรณีหนุ่มวัย 18 ปี ก่อเหตุฆ่าแฟนสาว ตัดมือ 2 ข้าง นำศพไปทิ้งใต้ทางด่วนบางพูน จ.ปทุมธานี ล่าสุด มีการเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และล่วงละเมิดเด็กสาวอายุ 13 ปี มาแล้วเมื่อปี 2565

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

ทีมข่าวไปพบกับคุณแม่ของผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันน้องอายุ 15 ปี แต่ตอนเกิดเหตุ น้องอายุ 13 ปี เท่านั้น โดยแม่ได้เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ที่น้องโดน แซน (ผู้ก่อเหตุ) ทำร้ายร่างกาย และล่วงละเมิดนั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วง 22.00 ของวันที่ 30 ธันวาคม 2565

โดยวันนั้น ตนกับน้องพักอยู่ภายในห้อง ที่การเคหะชุมชนแห่งหนึ่ง น้องได้มาบอกคุณแม่ว่า จะขอลงไปหาผู้หญิงที่ชื่อ หมิง เพื่อคุยเรื่องงาน โดยหมิงติดต่อมาจะพาน้องไปทำงาน ผู้ช่วยทันตแพทย์ ได้เงินวันละ 400 บาท น้องจึงอยากไปทำงานเพื่อเอาเงินมาช่วยเหลือแม่ ตนก็เลยบอกว่า ให้เรียกหมิงขึ้นมาคุยบนห้องดีกว่า

 

แม่เหยื่อ หนุ่ม 18 โผล่ เล่า ลูกสาว 13 ถูกลวงซ้อมล้างหนี้ ชวนเข้าลัทธิประหลาด

 

แต่พอน้องลงมา เหตุการณ์ก็เป็นไปตามภาพวงจรปิด คือ แซน ได้ตรงเข้ามาแล้วทำร้ายร่างกายน้องทันที โดยทั้งต่อย ทั้งบีบคอ จนน้องสลบไป และพอน้องรู้สึกตัว ก็พาตัวน้องเข้าไปในป่า และทำร้ายอีก ก่อนพาขึ้นรถจักรยานยนต์ แล้วขู่ว่า จะพาไปฝังใต้ดิน

 

 

ซึ่งมารู้ทีหลังว่า เป็นศัพท์วัยรุ่นหมายถึงฆ่าฝังดิน ทั้งนี้ จังหวะที่แซนขี่รถพาน้องไป น้องได้พยายามช่วยเหลือตนเอง และร้องให้คนช่วย จนรถล้ม และหนีมาได้ ส่วนแซนก็ถูกจับ ซึ่งถ้าวันนั้นน้องช่วยเหลือตัวเองออกมาไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

หลังเกิดเหตุ ตนได้พาน้องไปร้องเพจสายไหมต้องรอด และเข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว จนตอนนี้ผ่านมา 1 ปีกว่าแล้ว แต่คดีเพิ่งได้เข้าสู่ชั้นศาลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และศาลนัดสืบพยานนัดแรกวันที่ 28 สิงหาคมนี้ ซึ่งที่ผ่านมา ตนไม่เคยได้รับการเยียวยาใดๆ เลย คู่กรณีมีการเสนอเงิน 10,000 บาท เพื่อให้ยอมความ แต่ตนไม่รับ เพราะต้องการให้ถูกดำเนินคดี และเวลาที่เจอหน้ากัน แซนก็ไม่ได้มีความรู้สึกผิดในสิ่งที่ทำไปเลย

 

 

โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้น้องได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย และยังส่งผลต่อสภาพจิตใจ มีอาการหวาดระแวง กลัวผู้ชายใส่ชุดดำ ซึ่งเป็นชุดที่นายแซนใส่วันเกิดเหตุ ต้องพบจิตแพทย์ทุกเดือน ไปโรงเรียนไม่ได้ เพราะอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่ได้ ส่วนตนเองก็ได้รับผลกระทบทางจิตใจไปด้วย จนทำงานไม่ได้ต้องออกจากงาน

 

 

และเมื่อวานนี้ พอตนเห็นชื่อในข่าว เป็นชื่อของแซนและหมิง ก็รู้สึกตกใจมาก รู้สึกแย่ และสงสารพ่อแม่ของ แซน ซึ่งสิ่งที่ลูกตนโดนกระทำ ก็รู้สึกว่ารุนแรงมากแล้ว แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ รุนแรงกว่ามาก และตนก็คิดว่า ถ้าวันนั้นลูกสาวตนไม่ช่วยเหลือตัวเองออกมา จะโดนแบบนี้หรือไม่

 

 

ซึ่งการที่เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก และรุนแรงกว่าเดิม ตนมองว่าทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ ที่ผ่านมา ตนเคยไปแจ้งที่โรงเรียนของแซน ให้คอยดูพฤติกรรม และการก่อเหตุในครั้งนี้ แซนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไมได้เป็นเยาวชนเหมือนตอนที่กระทำลูกตน ก็ยิ่งต้องรับโทษให้ถึงที่สุด

 

 

ทั้งนี้ ลูกสาวตนก็เพิ่งรู้จักกับแซนและหมิงไม่นานก่อนเกิดเหตุ โดยรู้จักเพราะไปทำงานขายของด้วยกัน และแซนก็เอาโทรศัพท์มือถือมาให้ใช้ ให้ผ่อน 800 บาท น้องผ่อนไปได้ 300 บาท เหลือ 500 บาท เป็นสาเหตุที่แซนมาทำร้ายในวันนั้น เพราะต้องการทวงหนี้ที่เหลือ นอกจากนี้ น้องยังเคยเล่าให้ฟังว่า แซนและหมิง เคยชวนเข้าลัทธิบูชาซาตาน บอกว่ามีเด็กที่โรงเรียนเข้าลัทธินี้ประมาณ 5-6 คน แต่น้องไม่ได้สนใจ เลยไม่รู้ว่าคือลัทธิอะไร

 

 

แม่ของผู้เสียหาย ฝากบอกด้วยว่า การที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องการที่จะตอกย้ำผู้เสียชีวิต หรือ ผู้ก่อเหตุแต่คิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น หัวอกคนเป็นแม่ย่อมเข้าใจ และรู้ว่าการสูญเสียในลักษณะนี้มันเจ็บปวดแค่ไหน แต่อยากให้มองว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้ง มาจากการใช้ความรุนแรงต่อกัน และอย่างให้เป็นอุทาหรณ์ในการดูแลลูกด้วย เพราะหลังเกิดเหตุ ตนก็โทษตัวเองตลอด ว่าวันนั้น ไม่น่าปล่อยลูกลงไปด้านล่างคนเดียวเลย และฝากถึงเจ้าหน้าที่ ให้ทำงานตามกระบวนการ เพื่อให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายด้วย

 

 

 

ผู้สื่อข่าวได้ไปตรงจสอบคดีที่ นายธนากรณ์ (สงวนนามสกุล) หรือ แซน ที่เคยก่อเหตุกระทำอนาจารเด็ก ในพื้นที่สนคันนายาว แต่พบว่าคดีดังกล่าวยังไม่มีคืบหน้า และมีความเกี่ยวพันกับนางสาววรัญญา  ผู้ตายด้วย

 

 

โดยคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็น เด็กสาววัย 13 ปี และเป็นรุ่นน้องของ นางสาววรัญญา ผู้ตายในคดีนี้ด้วย เหตุเกิดขึ้นเมือวันที่ 30 ธ.ค.2565 ที่ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 66 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร

 

 

โดยหลังเกิดเหตุ หญิงสาว 13 ปี ได้ขัดขืนทำให้รถจักรยายนต์ล้ม และร้องขอความช่วยเหลือ จนชาวบ้านในระแวกนั้นช่วยกันกับตัวนายแซมไว้ได้ ก่อนจะแจ้งตำรวจ สน.คันนายาวให้เข้าจับกุม ซึ่งผลการตรวจร่างกายของสาววัย 13 ปี นั้นพบร่องรอยการถูกทำร้าย และการล่วงละเมิดทางเพศจริง จึงได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา แซม  ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ,กระทำการอนาจารแก่เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี,พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาฯ,ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวและเกิดอันตราย แก่ชีวิตของผู้ที่ถูกข่มขืนใจฯ

 

 

แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป 1ปีครึ่ง พบว่าคดีดังกล่าวอยู่ในชั้นศาล และรอระหว่างซักพยานครั้งที่ 1 ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้  ซึ่งหว่างที่อยู่ในชั้นสอบสวน มีการไกล่เกลี่ยทางพ่อแม่ของนาย แซน ยื่นเสนอขอเยียวยา เพียง 10,000บาท เท่านั้นแต่ผู้เสียหายไม่ยินยอมจึงไม่มีการชดเชย หรือเยียวยาใดๆ กับผู้เสียหายเช่นกัน