ข่าว

“ไอ้แซน” ฆาตกรโหดลวงเด็ก 13 เข้าพิธีกรรม ”ลัทธิซาตาน“

“ไอ้แซน” หนุ่ม 18 ฆ่าแฟนสาว เคยถูกประวัติลวงเด็ก 13 ไปอนาจาร ก่อนพาเข้าพิธีกรรมสังเวย “ลัทธิซาตาน” ด้านพี่ชายเชื่อเป็นคอนเทนต์

กรณีพบศพเปลือยสาวนิรนาม คาดเป็นนักศึกษา หมกศพคูน้ำใต้ทางด่วนอุดรรัถยา พื้นที่ ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี โดยพบพฤติกรรมฆาตกรสุดเหี้ยม ปาดคอหลายครั้ง ตัดข้อมือทิ้ง 2 ข้าง เพื่ออำพราง ก่อนห่อผ้าปูที่นอน ใช้เข็มขัดมหาวิทยาลัยดังมัด ถ่วงดัมเบลแบกใส่ จยย. มาทิ้ง ชาวบ้านถ่ายภาพผู้ต้องสงสัย เพราะคิดว่าเอาขยะมาทิ้งไว้หน้าบ้าน ก่อนฆาตกรเลือดเย็นตะโกนบอกว่า “เอาของรักมาทิ้ง” เหตุเกิดพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา

 

ต่อมามีผู้ใช้โซเชียลเฟซบุ๊ก เพจ ล่า ได้มีการโพสต์รูปและระบุ ข้อความว่า "ขนลุก ! ฆาตรกรชอบเล่น ลัทธิพิสดาร จุดเทียน เขียนดาว หาเด็กสาวสังเวย และเคยอนาจารเด็ก 13 ให้แฟนเป็นนกต่อ

 

นายธนากร หรือ แซน อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาคดีสังหาร น.ส. วรัญญา หรือ หมิงหมิง หรือ น้องแจน  อายุ 18 ปี แฟนสาว ซึ่งเรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีนั้น ยังพบว่าเมื่อปี 2565 ฆาตกรเคยโดนคดี อนาจารเด็กอายุ 13 แพ่งตัดสินชดใช้ แฟนที่ถูกฆ่าถูกกล่าวหานางนกต่อในคดีเดียวกัน

สตอรี่พิธีกรรมของไอ้แซม แซนมีพฤติกรรมแปลก ๆ คือ การสร้างลัทธิจุดเทียนเขียนดาวลงยันต์ แล้วให้แฟนสาวชักชวนเด็กหญิงอายุ 13 ซึ่งให้ความเคารพในฐานะรุ่นพี่ เรียกลงมาให้แฟนหนุ่ม จากนั้นฝ่ายชายทำร้ายร่างกาย ทุ่มลงพื้น กระทืบ จนเด็กหญิงหมดสติ เมื่อฟื้นลากเข้ามุมตึก อนาจาร เด็กหญิงพยายามร้องระหว่างกำลังลากไปยังสถานที่ที่ฆาตรกรทำพิธีกรรม มีคนมาช่วยไว้ได้ทัน มีการโพสต์เรื่องพิธีกรรมลัทธิลงในโซเชียล มีการจุดเทียนแดง เขียนดาว รอหาเหยื่อหญิงสาวมาสังเวย โดยต้องมีการตัดข้อมือเหยื่อ

 

สำหรับคดีนี้ คดีแพ่งศาลตัดสินให้ฝ่ายชายต้อง ชดใช้ คดีอาญานัดไต่สวน 28 สิงหาคมนี้ ยชอ.49/2567

 

ขณะที่ด้านพี่สาวยืนยัน น้องไม่ได้เป็นนกต่อ และน้องจะไปเป็นพยาน ให้เด็ก 13 ค่ะ เดือนสิงหาคมนี้ แต่โดนฆ่าเสียก่อน“

ขณะที่ด้านพี่ชาย “แซม” เล่าว่า ที่ผ่านมาเท่าที่อยู่กับน้อง น้องและแฟนเป็นคนจิตใจอ่อนโยน เพราะมักจะเก็บแมวจรจัดมาเลี้ยง 5-6 ตัว ส่วนประเด็นลัทธิซาตานที่น้องเคยอัดคลิปทำพิธี ตัวเองคิดว่าน่าจะเป็นคอนเทนต์มากกว่า ส่วนเรื่องการป่วย ยืนยันว่าป่วยจริง แต่ไม่รู้เป็นหนักแค่ไหน ก็ตามสภาพที่ทุกคนเห็น คิดว่าตำรวจน่าจะตั้งใจ ที่จะนำตัวน้องชายมาสอบปากคำและดำเนินคดีอยู่แล้ว 

 

ประเด็นทะเลาะกันระหว่างน้องชายกับผู้ตาย เป็นเรื่องปกติ เพราะขนาดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน ก็ยังสามารถนำมาทะเลาะกันได้ เช่น เรื่องซักผ้า ส่วนเรื่องการใช้ความรุนแรงนั้น ตนไม่สามารถตอบได้เนื่องจากไม่ได้โตมาด้วยกัน อย่างไรก็ตามเรื่องการประกันตัวให้เป็นหน้าที่ของครอบครัว  

ข่าวยอดนิยม