ครอบครัว "หมิง" บุกโรงพัก พบตำรวจขอดูโทรศัพท์ผู้ตาย

7 มิ.ย. 2567 เวลา 09.45 น. ที่ สภ.ปากคลองรังสิต ทนายไฟศาล เรืองฤทธิ์​ พร้อมด้วย แม่กับพี่สาว ของ น.ส.วรัญญา สงวนนามสกุล  หรือ "น้องหมิ๊งหมิง" อายุ 18 ปี เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามคดี พร้อมกับมาแจ้งความพร้อมกับให้ปากคำเพิ่มเติม กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะได้เดินทางไปรับศพ ก่อนที่จะไปเชิญวิญญาณต่อ

โดยให้สัมภาษณ์ว่า “เดี๋ยวผมมีประเด็นที่ต้องถามเจ้าที่ตำรวจเพิ่มเติมหลายหลายประเด็นเลย เพราะว่าพยานหลักฐานเนี่ย ผมทราบว่านะครับ อยู่ในโทรศัพท์ ซึ่งตรงนี้ต้องถามเจ้าหน้าที่ว่า รู้ขั้นตอนไหม? เพราะมีข่าวออกมาว่า เห็นทางผู้ต้องหา พูดว่าอาจจะมีการถูกทำร้ายจากฝ่ายหญิง หรือไม่อย่างไร ซึ่งจริงๆ แล้วข้อมูลจากโทรศัพท์จะยืนยันให้ชัดเจนว่าผู้หญิงแสนดีแค่ไหน และจะมาเฉลยว่าแสนดียังไง คือเป็นผู้หญิงที่ดีมากต้องพูดได้ง่ายว่าดูแลผู้ชายและครอบครัวผู้ชายด้วย”

แต่จะไม่พูดถ้าไม่มีหลักฐาน เดี๋ยวจะขอดูจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ววันนี้ คุณแม่กับพี่สาวจะขอดูโทรศัพท์จะขอจากเจ้าที่ตำรวจ ถ้าไม่ได้ยังไงเดี๋ยวค่อยมาว่ากัน แล้วคัดสเตทเม้นท์แล้ว จะบอกว่ามันมีข้อมูลหลายอย่าง วันนี้ก็จะมีการไปรับศพโดยเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู อยู่ประจำจังหวัดปทุมธานี โดยท่านนายกและทีมงานซึ่งตรงนี้ต้องบอกว่านะครับประเด็นนี้คือทางโรงงานอยู่ประจำจังหวัดปทุมธานีขนศพให้ฟรีทั้งหมด ไปถึงอุตรดิตถ์ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แม้แต่บาทเดียว

พร้อมยืนยันว่าไม่มีการรับเงินไกลเกลี่ย ที่มีบุคคลปริศนาพยายามติดต่อมาขอไกล่เกลี่ยในเรื่องของคดีเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท

แล้วก็จะฝากไปถึงเพจต่างๆ ที่มีการกล่าวอ้างว่า ตอนนี้เคสของเด็กอายุ 18 ไม่มีค่าใช้จ่าย จะต้องหาเงินมาบริจาค อย่างไรเป็นการแอบอ้างนะครับ คุณแม่กับพี่สาวเขาไม่รู้เรื่อง แล้วก็มูลนิธิต่างๆ ใดใดที่จะให้ไกล่เกลี่ยไม่มี คดีต้องดำเนินถึงที่สุด

ส่วนที่ทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้ก่อเหตุอายุ 18 และจะได้รับโทษเพียงครึ่งนึง เพราะเป็นผู้ป่วยจิตเวชนั้น ทางทนายไพศาลเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อรูปคดีเพราะหากป่วยจิตเวชจริงต้องถึงขนาดกินขี้ได้ และศาลจะพิจารณาพยานหลักฐานก่อนเกิดเหตุเท่านั้นซึ่งผู้ก่อเหตุใช้ชีวิตตามปกติ และข้อหาฆ่าคนตายเป็นข้อหาที่เบาไป เพราะจากพยานหลักฐานคดีนี้ต้องเป็นข้อหาฆ่าโดยทรมานซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต