ข่าว

“บิ๊กก้อง” ฉุน เรือน้ำมันหายตั้งกรรมการสอบ สั่ง “รองเต่า”ลงพื้นที่ไขคดี

“บิ๊กก้อง” ฉุน เรือน้ำมันหายตั้งกรรมการสอบ สั่ง “รองเต่า”ลงพื้นที่ไขคดี

12 มิ.ย. 2567

“บิ๊กก้อง จิรภพ” ฉุน เรือน้ำมันของกลางหาย ชี้ตำรวจบกพร่อง สั่งตั้งกรรมการสอบ มอบ “รองเต่า จรูญเกียรติ” ลงพื้นที่ไขคดีด่วน

วันที่ 12 มิ.ย. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากกองบังคับการตำรวจน้ำ (บก.รน.) ว่า มีเรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่ จำนวน 3 ลำ บรรจุน้ำมันรวมกว่า 300,000 ลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี
 

ขณะนี้กำลังสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เบื้องต้นสั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.  ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วนแล้ว พร้อมกับให้กองบังคับการตำรวจน้ำ ตั้งกรรมการที่มาสอบสวนเป็นการด่วน โดยให้รายงานผลให้ตนทราบโดยเร็วที่สุด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน. ได้ทำหนังสือรายงานถึง บก.รน. ระบุว่า เรือของกลาง จำนวน 3 ลำ จอดทำการทิ้งสมอในระยะปลอดภัย ระยะห่างจากสะพานตำรวจน้ำ ประมาณ 100 เมตร ได้หายไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.00 น.
 

โดย เรือของกลาง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย


1.เรือ เจ.พี. พร้อมของกลาง น้ำมันเถื่อนประมาณ 80,000 ลิตร พร้อมลูกเรือ จำนวน 7 คน


2.เรือซีฮอต พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 150,000 ลิตรพร้อมลูกเรือ จำนวน 6 คน และ


3.เรือดาวรุ่ง พร้อมน้ำมันเถื่อนประมาณ 100,000 ลิตร พร้อมลูกเรือจำนวน 5 คน
ได้หายไปจากจุดทิ้งสมอ เนื่องจาก ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 9 มิ.ย. มีพายุเข้าในพื้นที่ อ.สัตหีบ มีกระแสลมแรง ทำให้สะพานตำรวจน้ำ ไม่สามารถรองรับนำหนักเรือของกลาง ที่จอดอยู่บริเวณหัวสะพานทั้งหมดได้ จึงให้เรือของกลางๆ รวม 5 ลำ ออกลอยลำเพื่อทำการทิ้งสมอในระยะปลอดภัย


โดยระยะห่าง จากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ ประมาณ 100 เมตร ล่าสุดตำรวจน้ำสัตหีบ ได้นำเรือตรวจการณ์ 815 และ เรือตรวจการณ์ 632 ออกทำการค้นหา เพื่อติดตามเรือของกลาง ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบเรือดังกล่าวแต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้เวลา 13.00 น. จะไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี


เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เรือทั้ง 5 ลำถูกตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. จับกุมเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเรือน้ำมันเถื่อนของกลางทั้งหมดจอดรวมกันอยู่ 5 ลำในวันที่เกิดเหตุได้เกิดพายุลมแรงจึงนำเรือทั้งหมดออกไปทอดสมอห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร


จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าตำรวจที่เข้าเวรยังมองเห็นเรือดังกล่าวเปิดไฟเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 11 ม.ย. กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. เรือทั้งหมดได้ดับไฟ จนกระทั่งช่วงเช้าจึงพบว่าเรือหายไปแล้ว 


พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า กำลังเร่งคลี่คลายคดีอย่างเร็วที่สุด โดยให้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกค้นหาทั้งทางเรือและทางอากาศ  เนื่องจากของกลางหายเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเพราะอยู่ในความควบคุมของตำรวจ และได้สั่งการให้เร่งหาลูกเรือมาสอบสวน ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผบก.รน. ตั้งกรรมการสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด และหาผู้กระทำผิดมารับผิดชอบต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรือทั้ง 3 ลำที่หายไปครั้งนี้นั้น เป็นเครือข่ายของ “โจ้ น้ำมันเถื่อน” หรือ “โจ้ ปัตตานี” ซึ่งเป็นขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ในภาคใต้ ที่หลบหนีหมายจับคดีน้ำมันเถื่อนหลายคดีอยู่ในต่างประเทศ.