ข่าว

คาด "เรือน้ำมัน" 3 ลำ หลบหนีออกน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

13 มิ.ย. 2567

"บิ๊กเต่า" ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง "เรือน้ำมัน" หาย 3 ลำ จากอ่าวสัตหีบ เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน หลบหนีออกน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

13 มิ.ย. 2567 ความคืบหน้า "เรือน้ำมัน" ของกลาง 3 ลำ บรรทุกน้ำมันรวมกว่า 3 แสนลิตร หายไปอย่างไร้ร่องรอยจากอ่าวสัตหีบ จ.ชลบุรี ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ท.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ จเรตำรวจ (สบ.8) พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว

พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน สารวัตรสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ ได้นำคณะเข้าตรวจสอบยังสะพานท่าเทียบเรือฯ จุดเกิดเหตุ และไล่ไทม์ไลน์ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำเรือปิดอ่าวไทยไล่ล่าจับกุม 5 เรือไทย ลักลอบขนดีเซลเถื่อนกว่า 3 แสนลิตร ห่างชายฝั่งสัตหีบออกไปราว 80-100 ไมล์ทะเล เรือทั้ง 5 ลำ ประกอบด้วย

คาด \"เรือน้ำมัน\" 3 ลำ หลบหนีออกน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

 

  • เรือประมงดัดแปลง ชื่อ บ.โชคบุญชู 91
  • เรือชื่อกำไรเงิน ตัวเรือเหล็กดำ ภายในตัวเรือสีเทา
  • เรือชื่อกำไรเงิน ตัวเรือเหล็กดำ ภายในตัวเรือสีเขียว (สูญหาย)
  • เรือเหล็กไม่มีชื่อ ตัวเรือสีเขียว (สูญหาย)
  • เรือประมงดัดแปลง ตัวเรือสีฟ้า ไม่มีชื่อ (สูญหาย)

 

ถูกควบคุมไว้ได้ พร้อมลูกเรือรวม 15 คน ในจำนวนนี้มี 2 ลำ ไม่มีน้ำมันในตัวเรือ จากการตรวจสอบพบน้ำมันเถื่อน หรือน้ำมันที่หลบเลี่ยงภาษีสรรพสามิต ชนิดน้ำมันดีเซลราว 325,000 แสนลิตร มีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน หากคิดภาษี 1,900,000 บาท และเป็นค่าปรับประมาณ 30 ล้านบาท

หลังจับกุมได้นำหลักฐานเรือ พร้อมลูกเรือ และของกลาง แจ้งความดำเนินคดี ในคดีอาญาเลขที่ 102/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. 2567 ส่วนเรือของกลางทั้ง 5 ลำ ได้จอดเทียบท่าไว้ บริเวณสะพานเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ โดยมีสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ เป็นหน่วยเก็บดูแลรักษาของกลาง จัดเวรยามเฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง 

คาด \"เรือน้ำมัน\" 3 ลำ หลบหนีออกน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

กระทั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2567 เวลาประมาณ 18.00 น. สภาพอากาศในทะเลมีคลื่นลมแรงอย่างมาก เกรงเรือของกลาง และสะพานอาจได้รับการกระแทกจนเกิดความเสียหาย จึงสั่งการให้นำเรือทั้ง 5 ลำ ออกไปจอดทอดสมอลอยลำ ห่างจากสะพานในระยะ 100 เมตร โดยมีตำรวจเวรยามติดตามดูแลใกล้ชิด ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้จากบนฝั่ง

ทั้งนี้ การตรวจสอบในวันที่ 11 มิ.ย. 2567 เวลา 20.00 น. ยังมองเห็นเรือเปิดไฟ แต่ต่อมาช่วงเวลา 22.00 น. เรือทั้งหมดดับไฟ กระทั่งเวลา 06.00 น. ของวันที่ 12 มิ.ย. 2567 เมื่อมีแสงสว่าง เวรยามตรวจสอบพบเรือของกลาง จอดทอดสมอเหลือเพียง 2 ลำ ส่วน 3 ลำ ได้หายไปกับน้ำมันของกลาง จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนนำไปสู่ภารกิจดารออกติดตามไล่ล่า ค้นหาเรือของกลางกลับคืนมา และเมื่อเวลาประมาณ 08.45 น. วันที่ 12 มิ.ย. 2567 ได้รับรายงานว่า มีคนเห็นเรือทั่ง 3 ลำนี้ อยู่บริเวณหลังเกาะช้าง จ.ตราด

คาด \"เรือน้ำมัน\" 3 ลำ หลบหนีออกน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) ทางสำนักงานตำรวจ ได้ดำเนินการระดมกำลังปูพรมค้นหา ทั้งทางเรือ และทางเครื่องบิน ในพื้นที่น่านน้ำอ่าวไทยจังหวัดระยอง และจังหวัดตราด แต่ยังไร้วี่แวว ซึ่งหากเป็นไปตามผู้พบเห็น สันนิษฐานว่าขณะนี้เรือทั้ง 3 ลำ ได้หลบหนีออกน่านน้ำประเทศเพื่อนบ้าน ฝั่งกัประเทศกัมพูชาไปแล้ว โดยจะมีการประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในการติดตามจับกุมเรือ-น้ำมัน ของกลาง และลูกเรือ กลับมาดำเนินคดีตามกฏหมายโดยเร็วที่สุด