ข่าว

พุ่งเป้า “เสี่ยโจ้” คนบงการ ลักเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง

พุ่งเป้า “เสี่ยโจ้” คนบงการ ลักเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง

13 มิ.ย. 2567

“บิ๊กเต่า” สงสัย “เสี่ยโจ้” อยู่เบื้องหลังลักเรือน้ำมันเถื่อน เชื่อเรือของกลางมุ่งหน้า "กัมพูชา" หลังพบพิกัดบุคคลเป้าหมายกบดานอยู่

บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ลงพื้นที่ บริเวณสะพานเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีเรือของกลางหาย

13 มิ.ย.2567 เวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ จเรตำรวจ (สบ.8) พร้อมด้วย บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.5 บก.รน. เข้ารับทราบข้อเท็จจริง และติดตามความคืบหน้า กรณี เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ของกลาง 3 ใน 5 ลำ ในคดีอาญา สูญหายไปจากอ่าวสัตหีบ บริเวณสะพานเทียบเรือตำรวจน้ำ สัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดย เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน อยู่ 3.3 แสนลิตร เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา

 

โดยมี พ.ต.ท.กอบชัย โตอ่อน สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ (สว.ส.รน.3 กก.5 บก.รน.) สถานีตำรวจน้ำ สัตหีบ รายงานผลการปฏิบัติ พร้อมชี้แจงกรณีดังกล่าว และนำคณะเข้าตรวจสอบยังสะพานท่าเทียบเรือฯ จุดเกิดเหตุ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ให้สัมภาษณ์ว่า หลังเกิดเหตุ ได้รับมอบหมายจาก ผบช.ก. ให้ตั้งคณะทำงาน ดูแลในเรื่องนี้ โดยให้ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เข้ามาสืบสวนสอบสวน ติดตามผู้กระทำความผิด เชื่อว่า มีผู้บงการสั่งการอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน

 

แนวทางการสอบสวน เรือทั้ง 3 ลำ ที่ถูกโจรกรรมไปนั้น เป็นเรือผิดกฎหมาย ไม่มีทะเบียนเรือทั้งหมด และมีน้ำมันของกลางอยู่ในลำเรือรวม 330,000 ลิตร เชื่อว่าผู้เป็นเจ้าของตัวจริง คือ เสี่ยโจ้ อยู่ระหว่างการสอบสวนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ และเตรียมออกหมายจับผู้อยู่ในเรือทั้งหมด ยังไม่แน่ชัดว่ากี่ราย  ส่วนสาเหตุที่คาดการณ์ว่าเรือทั้ง 3 ลำ จะหลบหนีมุ่งหน้าไปทางจังหวัดตราด ข้ามไปยังฝั่งชายแดนกัมพูชานั้น เนื่องจากว่า มีข้อมูลของบุคคลเป้าหมายกบดานอยู่ที่นั่น

 

ตลอดจน พื้นที่น่านน้ำ กัมพูชา ห่างจากชายฝั่งอำเภอ สัตหีบ ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ออกไปเพียงแค่ 120 ไมล์ทะล หรือ 240 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 ชม. ยังไม่มีรายงานการพบเรือที่แน่ชัด ยังคงดำเนินการค้นหาในทุกมิติอย่างต่อเนื่อง

 

ในส่วนของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจน้ำ 3 ชุดที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลของกลาง ยอมรับว่า มีความบกพร่อง ผู้ที่ละเลยไม่ปฏิบัติตาม ก็จะเข้าข่ายมาตรา 157 แต่หากพบมีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือสนับสนุนผู้กระทำความผิด ก็จะเข้าข่ายความผิดมาตรา 147 ด้วย