ข่าว

จ่อหมายจับ 17 ลูกเรือ เอี่ยวลัก “เรือน้ำมันเถื่อน” สะพัดเคลียร์หนัก 30 ล้าน

จ่อหมายจับ 17 ลูกเรือ เอี่ยวลัก “เรือน้ำมันเถื่อน” สะพัดเคลียร์หนัก 30 ล้าน

14 มิ.ย. 2567

เตรียมออกหมายจับ 17 ลูกเรือ มีเอี่ยว “เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน” 3 ลำ หาย สอบปมเคลียร์ 30 ล้าน บิ๊กเต่าชี้ตำรวจเวรบกพร่อง

เรือน้ำมันเถื่อน ของกลางที่หายไป 3 ลำ

14 มิ.ย.2567 ความคืบหน้ากรณี เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ของกลาง 3 ลำ บรรทุกน้ำมันเถื่อน 3.3 แสนลิตร หาย ไปจาก อ่าวสัตหีบ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 11 มิ.ย.2567 ต่อเนื่องเช้าวันที่ 12 มิ.ย.2567 กระทั่งมีคำสั่งให้ตำรวจน้ำ 4 นาย ไปช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก. นั้น พร้อมทั้งให้ บิ๊กเต่า พล.ต.ท.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าคลี่คลายคดีนั้น

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเนชั่น ทีวี ลงพื้นที่ อ่าวสัตหีบ เกาะติดการตามล่า เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ของกลางในคดี เครือข่ายน้ำมันเถื่อนของ เสี่ยโจ้ ปัตตานี โดยตั้งเเต่ช่วงเช้าวันนี้ โดยพบว่าเรือลาดตระเวนตำรวจน้ำ 2 ลำ กลับมาถึงสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ หลังออกปฏิบัติการค้นหา

 

โดยชุดค้นหา ได้ลาดตระเวนไปถึงเกาะช้าง จ.ตราด ตามที่มีกระแสข่าวว่า มีชาวประมงพบเห็น แต่ผลการค้นหากลับไม่พบเรือทั้ง 3 ลำ รวมถึงการใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินสำรวจตั้งเเต่เมื่อวานนี้

พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.5 กองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า มีการตรวจสอบตามเส้นทางเดินเรือที่คาดการณ์ว่าจะเป็นเส้นทางเดินเรือเดิม เพราะจะมีนายหมู่เรือ เเต่ด้วยท้องทะเลกว้างขวาง จึงยากในการตามหา 

 

สำหรับการเฝ้า เรือน้ำมันเถื่อน ยืนยันว่า มีการเฝ้ายาม 24 ชม. เเบ่งเป็น 2 ผลัด ผลัดละ2นาย ส่วนในเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ก็จะมีลูกเรือ ที่ได้รับการประกันตัวเป็นผู้เฝ้าในเรือ ตอนเช็กเครื่อง เช็กน้ำในเรือ ป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติภัยซ้ำซ้อน

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ระบุว่า ต้องหาผู้รับผิดชอบคดีนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ลูกเรือที่นำเรือหนี กับเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำที่ปล่อยปละละเลยให้ของกลางสูญหาย

 

กล้องวงจรปิดพบว่าเรือได้ปิดไฟก่อนจะหายไปในเวลา 20.10 น. ของวันที่ 11 มิ.ย.2567 จึงเชื่อว่า จะต้องมีคนสั่ง เเละนำพาไป เเละเป็นเครือข่ายกลุ่มเดิม โดยตั้งสมมติฐานไว้ ว่าจะเกี่ยวข้อง เสี่ยโจ้ ปัตตานี เพราะเป็นเจ้าของเรือ เเต่ยังไม่มีหลักฐานว่าใคร เป็นคนสั่ง เเละ เตรียมจะออก หมายจับ 17 คน ที่อยู่บนเรือทั้งหมด เพื่อมาสอบสวน

 

บิ๊กเต่า ยอมรับว่า ตำรวจบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ และผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่า สั่งให้ดำเนินคดีทุกคน เพราะมีหนังสือฝากให้ตำรวจน้ำ เฝ้าดูเเล หากไม่ปฏิบัติตาม จะต้องมีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 157 ละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ 

 

คาดแก๊ง "เสี่ยโจ้" ถ่ายน้ำมันเถื่อนกลางทะเล

 

ส่วนกระเเสข่าวที่ระบุว่า เรือน้ำมันเถื่อน ทั้ง 3 ลำ ออกจากน่านน้ำไทยไปเเล้ว มองว่าเป้าหมายพื้นที่ใกล้ที่สุด เเละเกี่ยวข้องกัน คือ กัมพูชา เเละได้วัดไมล์ทะเลเเล้ว จากจุดบริเวณนี้ ไปกัมพูชา 120 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 240 กิโลเมตร

 

โดยชั่วโมงหนึ่ง เรือจะเดินทางได้ 15 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ส่วนน้ำมันในเรือเชื่อว่าไม่ถูกทิ้งกลางทะเลเเน่นอน เพราะขบวนการดังกล่าว ต้องการน้ำมันเถื่อนไปขาย จึงอาจมีการลักลอบขนถ่ายน้ำมัน กลางทะเล

 

สำหรับ เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ที่ถูกจับมาพร้อมกันรวม 5 ลำ มีลูกเรือ เเละ ไต๋เรือ รวม 30 คน ทั้งหมดได้รับการประกันตัว วงเงินคนละ 2 เเสนบาท โดยเรือ 3 ลำที่หายไป เป็นของ เสี่ยโจ้ ปัตตานี เเละเรืออีก 2 ลำเป็นของ เสี่ยหนุ่ม เพชรบุรี ที่มีรายงานความสัมพันธ์ ว่าเป็นน้องชายเสี่ยโจ้

 

”บิ๊กเต่า“ สั่งสอบปมปล่อยเรือน้ำมันเถื่อน สินบน 6 ล.

 

ต่อมา 17.00 น. วานนี้ (13มิ.ย.2567) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ  เปิดเผยภายหลังการประชุม และ สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง นานกว่า 2 ชั่วโมงว่า ระบุว่า การสอบปากคำตำรวจเวรคืน วันเกิดเหตุ 2 นาย และผลัดก่อนหน้า 1 นาย มองว่าทางตำรวจทำหน้าที่ ไม่สมบูรณ์

 

มีการปล่อยปละละเลย ทำหน้าที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนให้ครบถ้วน จนเกิดความเสียหาย บกพร่องต่อหน้าที่ จะต้องมีการดำเนินการอย่างแน่นอน รวมถึงผู้บังคับบัญชาด้วย รวมทั้งหมด 4 นาย

 

โดยขั้นตอนจะต้องพิจารณาพฤติการณ์ของตำรวจ 4 นายว่า มีส่วนล่อแหลม ทำให้เกิดเหตุการณ์ความเสียหายครั้งนี้อย่างไร มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ขอให้เป็นเรื่องการสืบสวนให้ครอบคลุมทั้งหมด

 

ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ  รวมทั้งตั้งคณะกรรมการสืบสวนของ ปปป. คู่ขนานกับตำรวจน้ำ หากพบความผิด จะแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นเข้าข่ายความผิด ม.157 ฐานละเว้นปฎิบัติหน้าที่

 

ล่าสุดชุดสืบสวนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดและจากการซักถามพยาน  รู้แล้วว่าใครบ้างอยู่ในคืนวันเกิดเหตุ ประกอบกับ วันที่ 17 มิ.ย.2567 พนักงานสอบสวน ปอศ. จะออกหมายเรียกลูกเรือ 17 คนที่หลบหนีมารายงานตัว

 

สำหรับลูกเรือ 17 คนที่หลบหนีนั้น พบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดว่า ในช่วงเย็นวันเกิดเหตุ ลูกเรือซื้อเสบียงขนของขึ้นเรือมากกว่าทุกวัน แสดงให้เห็นว่ามีการเตรียมตัว หากหลักฐานชัดเจนจะดำเนินการออกหมายจับต่อไป

 

ส่วนเรื่องประเด็นมีเจ้าหน้าที่รับสินบน ตามรายงานข่าวหรือไม่นั้น บิ๊กเต่า บอกว่า อยู่ระหว่างขยายผล เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่จบแค่ตรงนี้ และเรากำลังตามทรัพย์สินและของกลางที่หายไป หลังจากนี้จะมีความชัดเจน รวมถึงกระแสข่าวมีการนำเงิน 6 ล้านบาทมาเคลียร์ เป็นค่าใช้จ่ายในการเอาเรือออกไปด้วย

 

รองผบช.ก. ทิ้งท้ายว่า เราเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายก็ต้องตามไล่จับ และต้องไปตามเอาเรือกลับมาคืนให้ได้ ยืนยันไม่เกินความสามารถที่จะหาเรือให้เจอว่าอยู่พิกัดไหน จะดำเนินการในทุกมิติ

 

กองปราบ ยันมีข้อมูลคดีน้ำมันเถื่อนทั้งหมด

 

ขณะที่ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีจับกุมของตำรวจ ปอศ.  ยืนยันว่า เรามีข้อมูลในคดีเรื่องน้ำมันเถื่อนทั้งหมด รู้ทั้งที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร ใครเป็นเจ้าของ 

 

ส่วนพฤติการณ์คร่าวๆ คือเรือไปรับน้ำมันจากเรือใหญ่กลางทะเลนอกน่านน้ำไทย และจะรับกลับมาขึ้นฝั่งพื้นที่อ่าวไทย จ.เพชรบุรี , จ.สมุทรสาคร และโซนภาคใต้

 

เมื่อถามว่า เบื้องหลังเชื่อมโยงถึง “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนหรือไม่ รองผบก.ป.กล่าวว่า ตำรวจมีหลักฐาน ตลอดจนเส้นทางการเงินว่า จะเชื่อมโยงกันหรือไม่ เบื้องต้นพบหลักฐานบางส่วนเชื่อมโยงกัน



สะพัด! เคลียร์หนัก 30 ล้าน เปิดทางขนน้ำมันเถื่อน

 

ชาวบ้านรายหนึ่งที่สนิทกับลูกเรือที่อยู่ใน เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน ของ เสี่ยโจ้ เพราะจะขึ้นมาดื่มเหล้าบนฝั่งทุกวัน บอกว่า ตอนนี้ยังมีลูกเรือในเรือของ เสี่ยโจ้ อีกหนึ่งคน ที่ไม่ได้ไปกับเรือทั้ง 3 ลำ ชื่อ นายเล็ก เขาถูกยึดมือถือไม่สามารถติดต่อได้

 

เเต่วันที่เพื่อนๆ นำเรือออกไป นายเล็ก บอกว่า ไม่ได้ไปด้วย เพราะจะกลับบ้านที่ จ.สมุทรสาคร จะรอให้คดีจบเเละจะขึ้นศาล ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้

 

นอกจากนี้นักข่าว ยังได้รับข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้คนที่อยู่ใน เรือน้ำมันเถื่อน ให้ข้อมูลกับชาวบ้านว่า  เขาเคลียร์กันไว้นานเเล้ว

 

มีการตกลงกันว่า จะจ่ายลำละ 6 ล้านบาท รวม 30 ล้านบาท เเต่ท้ายที่สุด ตกลงจ่ายกันที่ 1 ล้านบาท เเละนำเรือ 3 ลำออกไปก่อน เเล้วนำน้ำมันไปขาย

 

จากนั้นนักข่าวนำข้อมูลไปสอบถามกับทาง บิ๊กเต่า เรื่องการจ่ายสินบน จะมีจริงหรือไม่ ซึ่งทาง บิ๊กเต่า ได้สั่งตรวจสอบแล้ว เพราะบางที คนบนเรือ อาจจะพูดไปเรื่อย  เเต่ตำรวจจะตรวจสอบในทุกมิติ

 

เปิด 3 ปมสงสัย เรือน้ำมันเถื่อนอันตรธาน

 

คดีนี้ มีการตั้งข้อสังเกต ความน่าสงสัยในหลายปม เราขมวดมาให้ดังนี้

  1. กรณีการให้ประกันตัวผู้ต้องหา ที่เป็นลูกเรือน้ำมันเถื่อน ทั้งที่เป็นการจับกุมนอกราชอาณาจักรไทย
  2. การปล่อยให้ลูกเรือที่เป็นผู้ต้องหา มาดูแลเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง ทั้งที่ยังมีน้ำมันของกลางอยู่ในเรือ จนเกิดการลักของกลางขึ้่น
  3. การปล่อยให้ เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ ออกไปขนถ่ายน้ำมันกลางทะเล โดยที่ตำรวจเฝ้าเวรยามไม่รับรู้

 

สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องใหญ่ในแวดวงตำรวจไทย แทบจะเรียกได้ว่า ไม่เคยเกิดคดีน้ำมันเถื่อน ที่มีความสลับซับซ้อน ในระดับนี้มาก่อน