หนุ่มสุดช้ำ! เมียเก่าพาผัวใหม่ บุกกระทืบจนสลบคาบ้าน ก่อนฟื้นคืนสติในห้องขัง | คมชัดลึก

14 มิ.ย. 2567 นายธีรวัช หรือ "เบิร์ด" อายุ 28 ปี เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกอดีตแฟนสาว พาแฟนหนุ่มคนใหม่ พร้อมพวก มารุมทำร้ายจนหมดสติก่อนฟื้นคืนสติในห้องขังของโรงพัก แต่กลับถูกตำรวจปรับดำเนินคดีข้อหาทะเลาะวิวาท

นายธีรวัช เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึก ต่อเนื่องเช้าวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเมามาก จึงเดินทางกลับไปนอนที่บ้าน ซึ่งปกติตนจะนอนค้างที่ทำงานตลอด แต่วันดังกล่าวตนไม่สามารถเข้าห้องพักของที่ทำงานได้ จึงตัดสินใจเดินทางกลับบ้านของตัวเอง และนอนหลับไป ก่อนจะมารู้สึกตัวอีกทีเมื่ออดีตแฟนสาวที่เลิกรากันไปแล้วนานกว่า 5 เดือน พาแฟนใหม่เข้ามารุมทำร้าย

ตนไม่สามารถต่อสู้ตอบโต้ได้ เนื่องจากเมามาก ก่อนจะถูกลากมาที่หน้าบ้าน และเห็นว่ามีการเรียกเพื่อนแฟนใหม่ของอดีตแฟนสาว มาสมทบอีกสองราย ทั้งหมดมาช่วยรุมทำร้ายตนเองทำให้หมดสติไป และรู้สึกตัวอีกครั้งในห้องขังของ สภ.ธัญบุรี และถูกตำรวจดำเนินการแจ้งข้อหาทะเลาะวิวาท ปรับ 500 บาท

นายธีรวัช บอกว่า รู้สึกงงมาก เพราะนอนพักอยู่ในบ้านพักของตัวเองแท้ๆ และถูกคนบุกมาทำร้ายจนหมดสติ เมื่อฟื้นมากลับถูกตำรวจดำเนินการแจ้งข้อหาทะเลาะวิวาท ซ้ำเมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนตรงข้ามบ้านพบว่า ตนเองถูกกลุ่มเพื่อนของแฟนใหม่ของอดีตแฟนสาวเข้ามารุมทำร้าย และลากมาทิ้งที่หน้าบ้าน จึงรู้สึกไม่รับความเป็นธรรมที่ถูกตำรวจแจ้งข้อหาแบบนี้

นายธีรวัช เล่าต่อว่า ตนกับแฟนสาวคบหาดูใจกันมาได้ประมาณ 3 ปี โดยตนได้ซื้อบ้านหลังนี้แล้วย้ายมาอยู่กับอดีตแฟนสาวรายนี้ได้ประมาณปีกว่า ก่อนจะเลิกรากันไปได้ประมาณ 5 เดือน หลังเลิกรากันแฟนสาวย้ายออกจากบ้านไป โดยมีการแบ่งภาระการดูแลบ้านเป็นของตนเองทั้งหมด

เมื่อช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา อดีตแฟนสาวติดต่อมาอ้างว่าไม่มีที่อยู่เนื่องจากกำลังถูกให้ออกจากที่พัก ตนจึงยอมให้แฟนสาวมาพักอาศัยที่บ้าน แต่กำชับว่าห้ามเอาบุคคลอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เด็ดขาด และตลอดระยะเวลาที่แฟนสาวอยู่ที่บ้าน ตนเองก็จะไปอยู่ที่ทำงาน ไม่ได้กลับไปที่บ้านหลังนั้นเลย จนวันเกิดเหตุไม่สามารถเข้าห้องพักในที่ทำงานได้ จึงกลับมาที่บ้าน แล้วถูกทำร้ายดังกล่าว

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องประสานไปทาง ผกก.สภ.ธัญบุรี ให้เข้ามาช่วยตรวจสอบ เพราะผู้เสียหายถูกทำร้ายร่างกายภายในบ้านพักของตนเอง และจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานโฉนดที่ดิน และหลักฐานเอกสารการกู้เงินจากธนาคาร พบว่าชื่อผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ทั้งหมดเป็นชื่อของผู้เสียหายเพียงคนเดียว ไม่มีชื่ออดีตแฟนสาวเข้ามาเกี่ยวข้อง เหตุใดตำรวจจึงยอมรับและเชื่อคำให้การว่ามีการบุกรุกเมาเข้าไปทะเลาะวิวาท ทั้งๆ ที่เป็นบ้านของตนเอง

ส่วนตัวแฟนใหม่ของอดีตแฟนสาวรายนี้เข้าข่ายการบุกรุก และทำร้ายร่างกายเช่นเดียวกับเพื่อนที่เข้ามาสมทบในการร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายด้วย ซึ่งต่อจากนี้จะต้องให้ผู้เสียหายไปดำเนินการในส่วนนี้เพิ่มเติม แต่ทราบว่าผู้เสียหายได้มีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์กะถังตำรวจไว้บ้างแล้ว แต่ทางตำรวจยังไม่มีมีการดำเนินการทางคดี ด้วยตนเองจะประสานงานกำชับกับทางตำรวจอีกครั้ง

เมียเก่า-ผัวใหม่ โต้หนังคนละม้วน
 

ต่อมาเพจสายไหมต้องรอด ได้พานายธีรวัช ผู้เสียหายเดินทางมาที่ สภ.ธัญบุรี เพื่อมาติดตามความคืบหน้าทางคดีปรากฏว่า หลังตำรวจได้นัด น.ส.วิลาวัลย์ หรือ มาย อายุ 29 ปี แฟนเก่าของนายเบิร์ด และนายสมพร หรือเบส อายุ 27 ปี แฟนใหม่ของ น.ส.มาย มาสอบปากคำเพิ่มเติม

น.ส.มาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองคบหากับนายเบิร์ด และได้จดทะเบียนสมรส ก่อนมีการหย่า และเลิกรากันช่วงเดือน ต.ค. 2566 กระทั่งตนไปมีสามีใหม่ ระหว่างนั้นนายเบิร์ด ถูกตำรวจจับข้อหาลักทรัพย์ เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ด้วยความที่ตนกลัวว่า ถ้านายเบิร์ด ออกจากคุกแล้วจะไม่มีที่อยู่ จึงพูดคุยกับนายเบิร์ด เพื่อจะเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยตนจะจ่ายค่าผ่อนบ้านให้ระหว่างนี้

พร้อมทั้งยืนยันว่า นายเบิร์ดเป็นคนอนุญาตให้ตน และนายเบส เข้ามาอยู่กับตนในบ้านหลังนี้ได้ แต่หลังจากที่นายเบิร์ด พ้นโทษมา ก็ไม่ได้มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ โดยกลับมาเพียงครั้งเดียว เพื่อมาขนข้าวของและกลับไปอยู่ที่ออฟฟิศ กระทั่งวันเกิดเหตุ นายเบิร์ดส่งข้อความมาหาตน บอกว่า "ตอนนี้อยู่ในห้อง อาบน้ำรอเรียบร้อยแล้ว" พร้อมบอกให้ตนกลับมาที่บ้าน ตนเห็นท่าไม่ดี จึงไปหานายเบิร์ดที่ออฟฟิศ เพื่อไปสอบถามเพื่อนของนายเบิร์ดว่า "เกิดอะไรขึ้น ทำไม่นายเบิร์ดกลับมาที่บ้านหลังนี้" โดยเพื่อนของนายเบิร์ดบอกกับตนว่า นายเบิร์ดเมาคุยไม่รู้เรื่อง เพื่อนร่วมห้องที่ทำงานจึงไม่ให้เข้าไปนอนด้วย นายเบิร์ดจึงกลับมาที่บ้านหลังนี้

เมื่อตนและนายเบสกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่านายเบิร์ดนอนอยู่ในห้องแล้ว ตนจึงจัดที่นอนให้นายเบิร์ดนอนหน้าห้อง เพื่อที่ตนกับนายเบสจะเข้าไปนอนด้านในห้องนอน โดยที่นายเบส ได้เข้าไปในห้องก่อน ส่วนตนยังอยู่กับนายเบิร์ดที่หน้าห้อง แต่หลังจากนั้นตนก็ถูกนายเบิร์ดขึ้นคร่อมพยายามข่มขืน ตนจึงเรียกนายเบส เพื่อขอความช่วยเหลือ พอนายเบสออกจากห้อง จึงเกิดการชุลมุนกันขึ้น โดยที่นายเบสได้ลากนายเบิร์ด ออกมานอกบ้าน เพราะกลัวทรัพย์สินของตัวเองที่อยู่ภายในบ้านจะเสียหาย

ยืนยันว่า นายเบิร์ดไม่ได้ถูกทำร้ายจนสลบ และไม่ได้มีการลากออกมาทำร้ายร่างกายนอกบ้านด้วยแต่อย่างใด พร้อมทั้งยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ ที่ตัวเองคบหากับนายเบิร์ดก็มักจะถูกนายเบิร์ดทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง จนตัวเองทนไม่ไหวถึงขั้นขอหย่าร้าง ซึ่งตัวเองก็อาการป่วยทางจิตเวชด้วย

ด้าน นายเบส ยืนยันว่า บาดแผลของนายเบิร์ดไม่ได้เกิดจากการที่ตนเข้าไปทำร้ายร่างกาย แต่เกิดจากการที่ประตูรั้วบ้านล้มใส่นายเบิร์ดเองจากการชลมุน และตลอดเวลาที่ตนเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้นายเบิร์ดเป็นคนอนุญาตให้เข้ามาอยู่เอง พร้อมทั้งยืนยันว่าผู้ชายอีก 2 คน ที่นายเบิร์ดอ้างว่า ตนเป็นคนโทรศัพท์เรียกให้เข้ามาทำร้ายร่างกายนายเบิร์ดเป็นเพื่อนของตัวเองนั้น ไม่เป็นความจริง แต่ทั้งสองคนเป็นพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และขับรถมาช่วยเหลือ เพราะแฟนของตนบอกว่า ถูกข่มขืน

 

ผู้เสียหาย ยัน คู่กรณีพูดโกหก
 

จากนั้น นายเบิร์ด ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง หลังจากได้ฟังสัมภาษณ์ของ น.ส.มาย และ นายเบส ว่า สิ่งที่ทั้งสองคนพูดไม่เป็นความจริง ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการพยายามไปข่มขืนอดีตแฟนสาว แต่ตนเองสลบไปตั้งแต่แรกแล้ว ก่อนจะถูกล็อกคอและลากมาที่หน้าบ้าน ส่วนที่ทั้งสองคนอ้างว่าบาดแผลของตัวเองเกิดจากรั้วบ้านล้มใส่ไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกัน

หลังจากนั้นเพจสายไหมต้องรอดได้พานายเบิร์ดมาที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยนายเบิร์ดได้พาผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมกับชี้จุดที่ตัวเองนอนอยู่หน้าห้องและจุดห้องนอนของแฟนสาว ระหว่างนั้นเองทางด้านของ น.ส.มาย ก็ได้เดินทางมาที่บ้านหลังเดียวกันเพื่อที่จะมาเก็บข้าวของออกจากบ้านหลังนี้

ผู้สื่อข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณปากทางเข้าหน้าซอยบ้านจุดเกิดเหตุ โดยห่างจากบ้านจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร ซึ่งในภาพกล้องวงจรปิดตอนเวลา 00.27 ของวันที่ 10 มิ.ย. สามารถจับภาพขณะนางสาวมาย และนายเบส ยืนอยู่บริเวณปากซอยหน้าหมู่บ้าน และจากนั้นมีรถจักรยานยนต์สองคัน โดยมีคนขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน ขี่เข้ามาหาทั้งสอง ซึ่งผู้สื่อข่าวคาดว่าเป็นเพื่อนของนายเบส ที่เข้ามาช่วยทำร้ายร่างกายนายเบิร์ด ตามที่นายเบิร์ดให้สัมภาษณ์

 

 

ชมคลิป