ข่าว

”พ่อ - แม่“ ใจสลายเข้าดูร่างลูกน้อยวัย 3 ขวบหลังจมน้ำดับปริศนา

”พ่อ - แม่“ ใจสลายเข้าดูร่างลูกน้อยวัย 3 ขวบหลังจมน้ำดับปริศนา

16 มิ.ย. 2567

พ่อแม่ปล่อยโฮ ใจสลายหลังเข้าดูร่างสภาพลูกน้อยวัย 3 ขวบ ที่ตั้งปมข้อสงสัย “ใครอุ้มน้องมาจมน้ำ“ ครอบครัวไม่เชื่อว่าน้องอลิสจะเดินมายังหนองน้ำได้ด้วยตนเอง

กรณีเด็กหญิง 3 ขวบ ที่พ่อแม่นำไปเข้าเรียนที่ศูนย์อบรมเด็ก ก่อนจะได้รับแจ้งว่าจมน้ำเสียชีวิตที่หนองน้ำกลางทุ่งนาทางทิศใต้ ห่างออกจากศูนย์เด็กไปราว 800 เมตรและเมื่อญาติพี่น้องในหมู่บ้านทุกคน ไปดูที่เกิดเหตุ ต่างก็ไม่เชื่อว่าเด็ก 3 ขวบ จะเดินมาถึงต่างเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรมอำพลางศพเด็ก ขนาดผู้ใหญ่เดินไปก็จะต้องใช้ระยะเวลานานและเหนื่อยมาก ทุกคนจึงสรุปว่า “ใครอุ้มน้องมาจมน้ำ”  

 

ล่าสุดที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ นางสาวพุทธมาลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี มารดาของเด็กหญิง 3 ขวบ พร้อมด้วย นายปริญญา (สงวนนามสกุล)  อายุ 26 ปี ( เสื้อสีเทา ) พ่อของเด็กหญิง 3 ขวบ พร้อมด้วยญาติ ได้เดินทางมาที่ห้องดับจิต รพ.ศรีสะเกษ ภายหลังจากได้รับแจ้งว่าศพน้องได้ผ่านกระบวนการผ่าเพื่อพิสูจน์หาหลักฐานเรียบร้อยแล้ว แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันอาทิตย์ คุณหมอหยุดราชการ จึงจะได้มีการนัดหมายใหม่ในวันจันทร์ แต่ก็ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ผู้ที่แลห้องดับจิต ให้สามารถอนุญาตให้พ่อแม่ คุณยาย คุณตา เข้าไปดูศพของน้องได้ 

เมื่อทุกคนพบร่างของน้องอลิส ที่นอนอยู่บนเปล รพ.หน้าตายังอมยิ้ม ดูดี ผิวยังเป็นสีชมพู เหมือนน้องกำลังนอนหลับปกติ พ่อแม่ ตา ยาย ถึงกลับปล่อยโฮออกมา เสียงดั่งลั่นไปทั้งห้อง ทนดูน้องต่อไม่ได้ จนต้องขอออกมาร้องไห้อยู่ข้างนอก กลัววิญญาณน้องตกใจ ซึ่งหากญาติประสงค์ที่จะนำร่างน้องอลิส ออกไปบำเพ็ญกุศลก็สามารถที่จะกระทำได้ แต่ปรากฏว่า วันนี้ ทั้งพ่อแม่ และยาย ตา ญาติ สรุปกันว่า ขอฝากร่างของน้องไว้ที่ตู้เย็นห้องดับจิตเอาไว้ก่อนจนกว่าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสามารถสืบติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายได้ก่อนจึงจะมาขอรับศพของน้องอลิส ไปบำเพ็ญกุศลศพทันที ขณะที่ที่บ้านได้มีบรรดาญาติพี่น้อง คนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะที่คนที่รักน้องอลิส เคยเลี้ยง เคยป้อนข้าว เคยเล่นกับน้อง ได้มารวมตัว นั่งเล่าเรื่อง มาคอยให้กำลังใจแก่พ่อแม่ ตายาย ที่เสียใจในการจากไปของน้องอลิส ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก 

ขณะเดียวกันคุณป้าสมร ได้พากันไปหาหมอร่างทรง หมอดู ซึ่งทำให้ทุกคนแปลกใจมากเพราะพอเข้าทรง คำแรกที่หมอได้ทักกลุ่มบรรดาญาติๆ ที่ไปนั่งฟังร่วมกัน ว่า เงิน 20.-บาทของน้องอลิสที่อยู่ในกระเป๋า ยังอยู่ไหม มีใครเอาเงินของน้องไปหรือเปล่า ทำให้ทุกคนขนลุกแปลกใจมาก หมอทรง อยู่ห่างไกลจากอำเภอยางชุมน้อย มากกว่า 50 กิโลเมตร แต่ทราบว่า เงินน้องอลิส อยู่ในกระเป๋าสะพายที่นำไปเรียนที่ศูนย์ มี 20.- บาท และเมื่อทุกกลับมาบ้าน มาเปิดกระเป๋าสะพายของน้องอลิส ก็พบว่า มีเงินธนบัตรใบละ 20.-บาท 1 ใบ อยู่ในกระเป๋าจริง ๆ  แต่ที่สำคัญหมอร่างทรงยังบอกว่า มีภูมิผีเจ้าที่ที่ดูแลสระน้ำหนองน้ำกลางทุ่งตรงนั้น รั้งดวงวิญญาณของน้องอลิสเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับมาบ้านได้ด้วย 

 

จากนั้นคุณยายเบา ที่เป็นยายทวด ที่ดูแลเลี้ยงดูน้องอลิส ในยามที่พ่อแม่ไปทำงาน ได้ชักชวนลูกหลาน ให้นำรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง พายายทวดไปยังโพนต้นตาล จุดที่ทุกคนเชื่อว่าแรง มีเจ้าที่อยู่ โดยคุณยายทวด ได้เตรียมเงินเหรียญ ทั้งเหรียญสิบ เหรียญบาท เหรียญสองบาท เหรียญ 5.-บาท ไปโปรยทาน โดยเชื่อว่า เป็นการขอขมา เป็นการจ่ายค่าผ่านทาง เพื่อให้ภูมิผี ปล่อยตัวดวงวิญญาณของน้องอลิส ให้สามารถเดินทางกลับมาบ้านได้ ตามเหรียญที่คุณยายทวดโปรยทาน เป็นเส้นนำทางให้ในครั้งนี้ ต่างก็ทำไปตามความเชื่อทุกวิถีทาง ที่จะให้ได้ทราบว่า น้องอลิส ถูกใครกระทำหรือไม่ ทำไมจึงเดินไปจมน้ำเป็นระยะทางไกลขนาดนั้น ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งหาหลักฐานในที่เกิดเหตุ และพยายแวดล้อมทุกทางอยู่ในขณะนี้