มิจฉาชีพ แกล้งถูกรถเหยียบเท้า ข่มขู่รีดไถเงิน
เตือนภัย มิจฉาชีพ ใช้มุกแกล้งถูกรถเหยียบเท้า เพื่อข่มขู่รีดไถเงิน 1,000 บาท เจ้าของรถเรียกประกันกลับโวยลั่น
กรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น part6 เผยแพร่คลิปภาพเตือนภัยมิจฉาชีพ จากกล้องหน้ารถ จากภาพจะเห็นว่าชายขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ110ไอ สวมหมวกกันน็อกสีฟ้า จอดรถข้างๆของรถยนต์ผู้เสียหาย รอสัญญาณไฟจราจรอยู่ที่สี่แยกสะพานควาย ขณะที่สัญญาณไฟขึ้นสีเขียวรถจักรยานยนต์ดังกล่าวกลับไม่ยอมขับออกไปและ อ้างว่าถูกรถยนต์เหยียบเท้าจะเรียกเก็บเงิน1000บาท
โดยระบุข้อความว่า
#เรื่องจากกลุ่มเตือนภัยมิจฉาชีพ..เนียนอ้างรถเหยียบเท้า..ผู้หญิงที่ขับรถควรระมัดระวังมุกเดิมๆที่มิจฉาชีพใช้
เตือนภัย"มุกรถเหยียบเท้า"มิจฉาชีพ(หมวกฟ้า)อ้างขับรถทับเท้าเรียกเงิน 1,000 พอจะเรียกประกันรู้ตัวไม่ได้เงินออกลูกนักเลงโมโหข่มขู่ด่าทอหยาบคายสารพัด ระวังด้วยแยกสะพานควาย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อผู้เสียหาย เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าว นายเอ(นามสมมุติ)ได้เล่าว่า
เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 12 มิถุนายน 67 เวลาประมาณ 22.00น. ขณะนั้นตนขับรถมาจอดรถติดไฟแดงอยู่ที่แยกสะพานควาย โดยตนสังเกตุเห็นว่าจักรยานยนต์คันอื่นจะจอดอยู่บริเวณด้านหน้ารถของตน แต่จักรยานยนต์ดังกล่าวได้ขับมาจอดอยู่ข้างรถของตนที่ด้านขวา ขณะที่สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวรถทุกคันก็ต่างพากันขับขี่ออกไปจากสี่แยก แต่ตนก็ยังไม่ออกรถและจอดรอให้รถจักรยานยนต์ดังกล่าวขับออกไป แต่รถจักรยานยนต์ดังกล่าวกลับไม่ยอมขี่ออกไป ตนจึงได้เคลื่อนรถออก โดยในขณะที่ตนขับรถออกไป จักรยานยนต์ดังกล่าวได้ร้องตะโกนโวยวายและขับตามมาเรียกให้ตนจอด ให้ลงมาดูและจะให้รับผิดชอบ ขณะนั้นบริเวณที่จักรยานยนต์เรียกให้ตนจอดนั้นมืดและเปลี่ยว ตนจึงขอโทษและขับรถต่อไป แต่จักรยานยนต์ดังกล่าวก็ไม่ยอมและขับตามมา ตนจึงบอกให้เข้าไปจอดในปั๊มบางจาก ภายในซอยอินทามระ4 โดยรถจักรยานยนต์ดังกล่าวก็ได้ขับตามมา จอดปิดท้ายรถของตนและโวยวายว่าตนขับรถเร็วจะรีบไปไหน ตอนจึงตัดสินใจโทรเรียกประกัน แต่จักรยานยนต์ดังกล่าวอ้างว่าต้องรีบไปส่งพระ จะให้ชดใช้ค่าเสียหายเลย ตนจึงเสนอชดใช้ค่าเสียหายในราคา 500 บาท แต่จักรยานยนต์ดังกล่าวไม่ยอมและจะขอเก็บค่าเสียหาย 1000 บาทตนจึงมองว่ามันเยอะเกินไปและบอกว่าให้รอประกันมา
ต่อมาจักรยานยนต์ดังกล่าวจึงบอกว่าไม่เอาเงินก็ได้และด่าหยาบคายและข่มขู่ตนว่าให้ระวังไว้ จากนั้นจักรยานยนต์ดังกล่าวก็ขับรถออกไปและตะโกนให้อวัยวะเพศแก่ตน หลังจากนั้นก็ได้มีคนในปั้มเข้ามาพูดคุยกับตน และบอกกับตนว่าน่าจะเป็นพวกมิจฉาชีพตนจึงได้เซิร์ชเซิร์ชข้อมูลดูใน อินเตอร์เน็ต ปรากฏว่าพบข้อมูลกรณีเดียวกับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นบ่อย จากนั้นตนจึงโหลดข้อมูลจากกล้องหน้ารถและเก็บข้อมูล หลักฐาน และพบพิรุธหลายอย่าง วันต่อมาวันที่13มิ.ย67 ตนจึงได้เข้าแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงบันทึกประจำวันและบอกกับตนว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพจริง เพราะ เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยพบเจอกรณีดังกล่าวแบบนี้มาแล้ว
ทั้งนี้ตนอยากฝากเตือนภัย ถ้าหากพบเจอเหตุการณ์แบบนี้อย่าลงจากรถและให้ขับไปที่สถานีตำรวจเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ประกันภัย ช่วยเคลียร์ปัญหา