ปอศ. เตรียมหารืออัยการ "ถอนประกัน – ออกหมายจับ" 17 ลูกเรือขนน้ำมันเถื่อน
ตำรวจ "ปอศ." เตรียมหารืออัยการ ขอ "ถอนประกัน - ออกหมายจับ" 17 "ลูกเรือ" หลบหนี หลังพบว่าไม่เดินทางมารายงานตัวตามนัด
17 มิ.ย. 2567 ความคืบหน้าการติดตาม เรือน้ำมันเถื่อน ของกลาง 3 ลำ พร้อมน้ำมัน 3.3 แสนลิตร ที่ หาย ไปจาก อ่าวสัตหีบ เมื่อกลางดึกวันที่ 11 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา ต่อมาพบ เรือน้ำมันเถื่อน ของกลาง ทั้ง 3 ลำ อยู่ที่น่านน้ำมาเลเซีย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2567 โดยตำรวจไทยกำลังนำกลับมาดำเนินคดีนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก. ปอศ. ) เปิดเผยว่า วันนี้เรียก ลูกเรือ ที่เป็นผู้ต้องหา 28 คน ในคดี น้ำมันเถื่อน 5 ลำ ที่ก่อนหน้านี้จับกุมเมื่อวันที่ 19 มี.ค.2567 ให้มารายงานตัว
หลังทราบเรื่องว่า มี ลูกเรือ บางส่วนนำ เรือน้ำมันเถื่อน หนีไปจากจุดที่ควบคุม ทางเราจึงได้ประสานไปยังทนายความที่เป็นนายประกันให้นำหมายเรียกให้ผู้ต้องหาทั้ง 28 คน มารายงานตัวในวันนี้ เพื่อตรวจสอบว่ามีใครบ้างที่หายไป
วันนี้ ลูกเรือ มาเพียง 11 คน และมีอีก 2 คน ที่ไม่ได้มา แต่ไม่ได้ลงเรือไปกับอีก 3 ลำที่หลบหนี เป็นคนไทยและเมียนมา ได้กำชับทางทนายความให้รีบพามารายงานตัว ส่วนที่หลบหนีไปกับเรือของกลาง 15 คน หลังจากนี้จะไปหารือกับอัยการสูงสุด เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักรว่าจะ ออกหมายจับ หรือไม่
เมื่อถามว่าเหตุใด ในคดีแรกถึงให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 28 คน พ.ต.อ.ชัชวาล กล่าวว่า เนื่องจาก เรือน้ำมันเถื่อน ชำรุดต้องสูบน้ำออกตลอดเวลา หากจะต้องใช้บุคลากรอื่นมาดูแลจะไม่ครอบคลุม จึงมีการพิจารณาให้ประกันทั้งหมดในวงเงิน 3.1 ล้านบาท และให้มาดูแลเรือ ทนายได้สัญญาว่าจะไม่หลบหนี ส่วน ลูกเรือ ที่หลบหนีไปนั้นจะมีการ เพิกถอนประกัน และเตรียม ออกหมายจับ
ส่วนคดีลักเรือไปนั้น เป็นหน้าที่ของกองปราบปรามในการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ว่า มีพฤติการณ์ลักเรือหรือไม่ หลังจากผู้ต้องหารายงานตัวเสร็จแล้วจะประสาน ตำรวจกองปราบปรามไปขยายผลว่า มีส่วนร่วมกับการลักเรือหรือไม่ หากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงทางกองปราบ จะแจ้งข้อหาลักเรือ รวมถึงผู้ต้องหา 15 คนที่หนีไปด้วย
ส่วนการจับกุมในคดีแรก เรือ 5 ลำ มีข้อมูล เรือและน้ำมันของกลาง เกี่ยวข้องกับ เสี่ย จ. หรือไม่ พ.ต.อ.ชัชวาล ยอมรับว่า มี ส่วนใหญ่คนที่ทำธุรกิจตรงนี้จะเป็นเจ้าของทั้งเรือและน้ำมัน อย่างไรก็ตามต้องรอการสืบสวนจากกองปราบปรามอย่างละเอียดอีกครั้ง ในการสอบครั้งแรกมีการส่งทนายความมานั่งประกบผู้ต้องหาจำนวนมาก และนายประกัน ทนายความไม่ยอมให้ข้อมูลกับตำรวจว่าเงินประกันตัวได้มาจากที่ใด
แต่ยืนยันว่าตำรวจได้ทำสำนวนอย่างลึกและละเอียด แต่ไม่ขอเปิดเผยเรื่องในสำนวนมากนัก เพราะอาจกระทบต่อรูปคดี ขอให้เชื่อในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทั้งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางและอัยการสูงสุดทำอย่างเต็มที่ร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ตั้งแต่เรือหายไปทางผู้บังคับบัญชาได้เข้ามาตรวจสอบสำนวน ยังไม่พบว่ามีส่วนใดที่บกพร่อง มีเพียงการควบคุมเรือเท่านั้นที่บกพร่อง ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว
ส่วน 15 คน ที่หลบหนีไป หากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลากเรือไป จะถูกเพิ่มโทษในข้อหาเกี่ยวกับการ ลักทรัพย์ หรือ ป.อาญา 142 ต้องให้พนักงานสอบสวนในคดีหลักพิสูจน์ จากพยานหลักฐานเช่น วงจรปิดจากท่าเรือ และการพิสูจน์ผู้ที่มีส่วนร่วมกับการนำรถของกลางออกไป
พ.ต.อ.ชัชวาล ตั้งข้อสังเกต การที่ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้นานขนาดนี้ มีคำถามที่ต้องตอบว่า เกิดจากผู้ต้องหาอย่างเดียวหรือไม่ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ หรือ ทุกอย่างประกอบกัน
ส่วนการประสานติดตามตัวเสี่ย จ. กลับมานั้น เป็นหน้าที่ของกองปราบ และที่ผ่านมามีการประสานข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ในคดีกับทางกองปราบโดยตลอด แต่เรามีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลบางอย่างไว้ เนื่องจากเชื่อว่าทางผู้กระทำความผิดเป็นผู้อิทธิพล และไม่แน่ใจว่าคนรอบตัวอยู่กับเขาบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้
ส่วนการจับกุมในคดีแรกนั้น ทางศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน (ศ.ปนม.ตร.) สั่งการให้ตำรวจน้ำ และเจ้าหน้าที่อีกหลายส่วนเข้าจับกุมโดยใช้เรือของตำรวจน้ำ เมื่อจับคนได้จึงนำเรือเข้ามาเทียบท่าที่ ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และส่งไปดำเนินคดีที่กองกำกับการ 2 ปอศ. เพราะมีการร้องทุกข์กล่าวโทษเกี่ยวกับการลักลอบ นำเข้าและเกี่ยวข้องกับภาษีศุลกากรเป็นหลัก
เป็นการจับกุมในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลมาก ห่างจากเส้นฐาน 200 ไมล์ทะเล หรือกว่า 100 กิโลเมตรบนบก จึงดำเนินการในคดีนอกราชอาณาจักร ส่วนเขตราชอาณาจักรไทยอยู่ที่ประมาณ 12 ไมล์ทะเล จะต้องสรุปสำนวนภายใน 6 เดือน ขณะนี้ผ่านมาแล้วสองเดือน
เชื่อว่ากลุ่มนี้มีผู้ให้คำแนะนำในการลักลอบทำผิดกฎหมายเป็นอย่างดี คือ ให้โยกย้ายขนถ่ายน้ำมันในพื้นที่ที่ไกลมาก ทำให้การลงครั้งนี้ต้องมีการปรึกษากับทางอัยการอย่างรอบคอบ เพื่อทำสำนวนให้มีความละเอียดรัดกุมมากที่สุด เบื้องต้น ผู้กล่าวหามองว่าน่าจะนำน้ำมันมาจำหน่ายในประเทศไทย และมีพยานหลักฐานประกอบในสำนวนด้วย