ข่าว

เผยปมเหตุ พ่อช้ำหนัก ลั่นไกใส่ลูกชายทั้ง 2 คน ประชดรัก ลูก 6 ขวบดับสลด

เผยปมเหตุ พ่อช้ำหนัก ลั่นไกใส่ลูกชายทั้ง 2 คน ประชดรัก ลูก 6 ขวบดับสลด

17 มิ.ย. 2567

เผยปมเหตุ พ่อเครียดหนัก ลั่นไกใส่ลูกชาย 2 คน ลูกคนเล็กดับ พี่ชายโคม่า คาดประชดรักเมียหอบลูก 2 เดือนหนีซบรักใหม่ แม่หนูน้อยทราบข่าวแล้วแต่ยังไม่ตอบแชท

17 มิ.ย.2567 จากกรณีเกิดเหตุสลด พ่อวัย 48 ปี ใช้อาวุธลั่นไกใส่ลูกชาย 2 คน วัย 6 ปี และ 11 ปี ก่อนยิงตัวเองตาม อาการสาหัสทั้ง 3 ราย โดยเหตุเกิดที่บ้านพัก ม.1 ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกู้ชีพ รพ.ศรีสังวร นำตัวผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลเป็นการด่วน ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ตกอยู่ 1 กระบอก

 

 

 

เบื้องต้นบุตรชายวัย 6 ปีเสียชีวิตแล้ว ส่วนคนโตวัย 11 ปี ยังสาหัสโอกาสรอดเพียง 20% เหตุก้านสมองตาย ส่วนผู้เป็นพ่ออาการดีขึ้นพ้นขีดอันตราย

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดศรีนิโครธาราม หมู่ 5 ต.คลองตาล อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ณ ศาลาทักษิณานุปทาน (ศาลา 3) ซึ่งเป็นที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพเด็กชายวัย 6 ปี ลูกชายผู้ก่อเหตุ มีบรรดาญาติๆ และเพื่อนบ้านช่วยกันเตรียมจัดงาน ท่ามกลางความโศกเศร้าไปตามๆ กัน

เบื้องต้น มีรายงานว่า พ่อซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ พ้นขีดอันตราย รู้สึกตัวแล้ว โดยมีบาดแผลทะลุคางไปยังตาข้างซ้าย ในส่วนของลูกชายคนโตวัย 11 ปี ยังมีอาการสาหัสโดยกระสุนเข้าขมับขวา 1 นัด มีอาการก้านสมองตายโอกาสรอดเพียง 20 % และถูกนำส่งไปรักษา รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก

 

 

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงกลางวันวานนี้ (16 มิ.ย 2567) นายดนัย เพิ่งพาลูกชายทั้งสองคน ไปแจ้งความที่ สภ.ศรีสำโรง ว่า ภรรยา คือ นางจันทร์จิรา สงวนนามสกุล อายุ 29 ปี หนีตามชายอื่นไป พร้อมกับลูกชายคนเล็ก วัย 2 เดือน คาดว่า นายดนัย เกิดอาการเครียดจัด เพราะตรวจสอบในมือถือ พบภาพที่เพิ่งถ่ายรูปกับลูกชายทั้งสองคน มีข้อความว่า "เราจะไปอยู่ด้วยกัน" จึงตัดสินใจยิงลูกชายคนโตและคนกลาง ขณะกำลังนอนหลับ ก่อนที่จะใช้ปืนกระบอกเดียวกันลั่นไกใส่ตัวเองตายเพื่อหนีความผิด

 

 

เบื้องต้นได้อายัดตัวนายดนัย ผู้เป็นพ่อที่กำลังรักษาตัวที่ รพ.ศรีสังวร อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย โดยแจ้งข้อหา ฆ่าและพยายามฆ่า เตรียมดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป

ด้านนายพนม สงวนนามสกุล ซึ่งเป็นอาของผู้ก่อเหตุกล่าวว่า ก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรจึงทำแบบนี้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องในครอบครัวของหลานชาย ไม่แน่ใจ แต่ปกติเขาเป็นคนขยัน เป็นคนทำงาน รักครอบครัว ดูแลครอบครัวดี

 

 

ก่อนเกิดเหตุทราบว่า ภรรยาเขาหนีไปจากบ้าน พร้อมนำลูกคนเล็กวัย 2 เดือนหนีไปด้วย หายไป 3-4 วันแล้ว ก่อนหน้านี้ภรรยาก็หนีไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่หลานชายก็ไปตามกลับมากระทั่งครั้งนี้ก็หนีไป พร้อมกับลูกชายวัย 2 เดือน ตนเองก็สงสารเด็กและครอบครัวกับเหตุการณ์สลดนี้

 

 

ขณะที่นายประเทือง สงวนนามสกุล วัย 59 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า มาเจอตอนเกิดเหตุพอดี ผู้ก่อเหตุเป็นคนดีทำงานก่อสร้าง และเป็นช่างไฟฟ้า ถือว่าเป็นลูกหลานใช้งานทำไฟฟ้ากันประจำ นิสัยดีมาก ช่วยเพื่อนบ้านกันทุกคน มีงานในหมู่บ้าน งานไฟฟ้านี่มาช่วยทุกงาน ก็เสียใจมากเลยเพราะเขาเป็นคนดีมาก

 

 

ส่วนนายประเสริฐ สงวนนามสกุล อายุ 38 ปี เพื่อนร่วมงานไฟฟ้า และงานก่อสร้างบอกเล่าว่า คืนวันเกิดเหตุ ตนเองได้รับโทรศัพท์จากนายดนัย (ผู้ก่อเหตุ) โทรหาตัวเองตอนเวลา 03.58 น. ส่งเสียงคุยไม่รู้เรื่อง พูดจาอ้อแอ้ๆ ไม่เป็นคำ ตัวเองเลยโทรหาผู้ใหญ่บ้านแล้วเข้าไปบ้านนายดนัยด้วยกัน เพราะเดาว่า จะมีอะไรหรือเกิดเหตุอะไรหรือเปล่า

 

พอไปถึงบ้านนายดนัย ก็พบเหตุการณ์สลดดังกล่าว โดยผู้ใหญ่บ้านเข้าไปในบ้านเพียงคนเดียว และเห็นภาพเหตุการณ์ของ 3 พ่อลูก จมกองเลือด ตนเองไม่กล้าเข้าไป เพราะถ้าเห็นเลือดได้กลิ่นเลือดตัวเองจะมีอาการคลื่นไส้

 

ตอนรับโทรศัพท์ คิดว่าเขาแค่ร้องให้ฟูมฟาย ไม่ได้คิดจะเกิดเหตุอย่างนี้ ไม่เคยเห็นสองสามีภรรยาทะเลาะกันเลย ทำงานด้วยกันทุกวัน โดยนิสัยผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยดี ไม่มีอะไร 

 

 

ณะที่ครูประจำชั้นเด็กชายวัย 6 ปี ผู้ตายและเพื่อนครูรุดเคารพศพเด็กชายด้วยความอาลัย และ แจ้งต่อญาติๆ ว่า ได้ส่งข้อความไลน์ไปให้แม่ดูข้อความว่า ลูกชายเสียแล้ว แต่ผู้เป็นแม่มีการเปิดอ่านไลน์ แต่ไม่มีข้อความตอบกลับใดๆ

 

ด้านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต.สุโขทัย ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พร้อมช่วยเหลือครอบครัวในการมอบงบช่วยเหลือฉุกเฉิน เบื้องต้นจำนวนเงิน 3,000 บาท กับการจัดงานศพเด็กชายผู้เสียชีวิตแล้ว

 

นอกจากนี้ อาของนายดนัย เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ผู้เป็นแม่ที่หอบลูกวัย 2 เดือนหนีไปด้วยกันนั้น ได้หนีตามผู้ชายไปจริง เป็นผู้ชายที่มีการคบหาและติดต่อทางโซเชียล ทราบมาแน่นอนแล้ว แต่ขณะนี้ยังหาตัวไม่เจอ และติดต่อไม่ได้เลยไม่รู้ว่า ไปอยู่ที่ใด