ลูกชายฉุนหนัก ขอเงินแม่ไม่ได้ คว้ามีดแทงแม่ดับ พ่อสาหัส

18 มิ.ย. 2567 เวลา 00.20 น.  ร.ต.อ.วิโรจน์ ปราบปรี ร้อยเวร สภ.ป่าบอน  จังหวัดพัทลุง  ได้รับแจ้งเหตุแทงกันตาย ภายในบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่ที่ 11 ต.โคกทราย อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นาถพล บุญสนิท ผกก.ป่าบอน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน

 

 

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นางพลูทรัพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี (แม่) มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ลำตัว หน้าท้อง และแขนทั้ง 2 ข้าง  ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายคือ นายอมร  (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ผู้เป็นพ่อถูกแทงเข้าที่ชายโครงด้านซ้าย และด้านขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลป่าบอน เป็นการด่วน แต่เนื่องจากผู้บาดเจ็บอาการสาหัส จึงส่งตัวรักษาอาการต่อที่ โรงพยาบาลพัทลุง

 

 

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นมือมีดในครั้งนี้ ไม่ใช่ใครอื่นคือ นายสมโภช (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี  ซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติเคยติดยาเสพติด โดยก่อนเกิดเหตุ นายสมโภช ได้เกิดมีปากเสียงกับ พ่อและแม่อย่างรุนแรง เนื่องจากมาขอเงิน แต่แม่ไม่ให้ กระทั่งผู้เป็นพ่อเห็นเหตุการณ์ จึงได้ว่ากล่าวตักเตือน จนทำให้นายสมโภช เกิดความโมโห และได้ใช้อาวุธมีดปลายแหลมที่พกติดตัว กระหน่ำแทงนายอมร ผู้เป็นพ่อ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ขณะเกิดเหตุ ผู้เป็นแม่ คือ นางพลูทรัพย์ ได้วิ่งเข้ามาห้ามปราม  กระทั่งถูกลูกชายใช้อาวุธมีด กระหน่ำแทงเข้าตามลำตัวด้วยเช่นกัน  จนทำให้ทั้งพ่อและแม่ ต้องวิ่งหนีตายออกจากบ้าน  ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ  โดยผู้เป็นแม่ ซึ่งถูกแทงเข้าจุดสำคัญ และมีอาการสาหัส จึงได้วิ่งตกข้างทางจนเสียชีวิต ขณะผู้เป็นพ่อ เพื่อนบ้านสามารถช่วยเอาไว้ได้ทัน พร้อมกับรีบนำตัวส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาล

 

หลังเกิดเหตุ นายสมโภช ลูกชาย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซูกิ สแมชสีฟ้า หมายเลขทะเบียน 517-สตูล หลบหนีไป พร้อมด้วยอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ

 

ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าบอน ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบในบริเวณจุดเกิดเหตุ  จึงได้ประสานงานกับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ร่วมกันออกติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

 

เนื่องจากผู้ก่อเหตุ เป็นบุคคลอันตราย ประกอบกับมีอาวุธมีดติดตัวอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ฯ เกรงว่า ผู้ก่อเหตุอาจจะลงมือก่อเหตุซ้ำอีก ทั้งนี้ หากผู้ใดพบเห็นบุคคลในภาพ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยด่วน เพื่อจะได้จับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

 

 

ขณะที่ นางเพ็ญศรี สงวนนามสกุล อายุ 60 ปี น้าสาวผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า มือมีดรายนี้ เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว  ซึ่งที่ผ่านมามักเสพยาอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่มีอาการ หรือ คุ้มคลั่งอะไร และพูดคุยดี ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่จะไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ซึ่งหากมีเวลา ก็จะทำงานตัดหญ้า ดูวัวตลอดทั้งวัน

 

 

ช่วงเกิดเหตุ ภายในบ้านมีด้วยกัน 3 คน จึงไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น กระทั่งมาพบว่า นายอมร (น้าชาย) นอนจมกองเลือดอยู่ จึงรีบนำตัวส่ง โรงพยาบาลป่าบอน ส่วนนางพูลทรัพย์ (น้าสะใภ้) ก็นอนเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ 

 

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้บรรดาญาติๆ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่มีใครคาดคิดว่า จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้

 

 

ล่าสุดเวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ได้จัดแบ่งกำลัง ออกติดตามจับกุม และแอบซุ่มเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ที่บ้านจุดเกิดเหตุ รับแจ้งจากชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงว่าพบนายสมโชน์ ผู้ก่อเหตุที่ใช้มีดแทงแม่เสียชีวิต พ่ออาการสาหัส ขี่รถจักรยานยนต์อยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ

 

 

ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ รีบนำกำลังเข้าตรวจสอบ พบว่าผู้ก่อเหตุได้ย้อนกลับมาที่บ้านและซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน จึงได้เข้าแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ ได้พร้อมอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งวางอยู่ใกล้ตัวและรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขับขี่หลบหนีจอดอยู่หน้าบ้าน

 

ตรวจสอบร่างกายพบบาดแผล ซึ่งเกิดจากอาวุธมีด ที่ใช้ทำร้ายพ่อแม่ สอบถามผู้ต้องหารับว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ใช้อาวุธมีดทำร้ายพ่อแม่จนมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตในคดีนี้จริง เนื่องจากถูกพ่อแม่ดุด่าตักเตือน และมีอาการหลอนยาด้วย หลังเกิดเหตุเกรงกลัวความผิดจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี แต่ระหว่างหลบหนีพบเห็นชาวบ้านแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรเหมือนจะเข้าทำร้าย จึงย้อนกลับมาที่บ้าน เพื่อจะมาเอาเงินทรัพย์สิน และเสื้อผ้าเพื่อจะหลบหนีต่อไป

 

แต่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาซุ่มดักรออยู่ และถูกจับกุมตัวได้ เบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบปัสสาวะของผู้ก่อเหตุ พบว่ามีผลเป็นบวก สอบถามผู้ก่อเหตุรับว่าได้เสพยาบ้ามาก่อนที่จะก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าบอน จึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย