ข่าว

“บิ๊กเต่า” เตรียมออกหมาย ผู้บงการคดีเรือน้ำมันเถื่อนในสัปดาห์หน้า

18 มิ.ย. 2567

“บิ๊กเต่า” เตรียม! ออกหมาย ผู้บงการคดีเรือน้ำมันเถื่อนของกลางหายปริศนา ในสัปดาห์หน้า ยืนยันการจับกุมเรือน้ำมันของกลางไม่ได้จัดฉาก

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.

18 มิ.ย.2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ  ปานแก้ว (บิ๊กเต่า)  รองผู้บัญชการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.)  กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ 8 ผู้ต้องหาขโมยเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง ว่า  ผู้ต้องหาให้การที่เป็นประโยชน์ แต่ยังมีผู้ต้องหาบางส่วนเกรงกลัวอิทธิพลของ “เสี่ยโจ้” จึงไม่กล้าให้การเพราะกลัวว่าครอบครัวจะได้รับอันตราย ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้บงการหรือเจ้าของเรือตัวจริงก็คือบุคคลเดียวกับที่สื่อมีการนำเสนอ
 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ (บิ๊กเต่า) กล่าวต่อว่าไต้ก๋งเรือให้การรับสารภาพ ว่าได้รับการประสานทางโทรศัพท์ดาวเทียมกับผู้บริหารและเจ้าของเรือที่เป็นที่เจ้าของเรือขนาดใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของเรือทั้ง 3 ลำ ซึ่งผู้บริหารหรือเจ้าของเรือหรือคนที่เรียกให้เอาน้ำมันไปส่ง ก็มีความชัดเจนตามกระแสข่าวที่ออกว่าเป็น "เสี่ยโจ้" ส่วนความผิดครั้งนี้จากการสอบสวน ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะพิจารณาการออกหมายจับ "เสี่ยโจ้" หรือไม่ในสัปดาห์หน้า

คดีเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง

นอกจากนี้จากการสอบปากคำยังพบว่า 3 ใน 8 ผู้ต้องหา ซึ่งในจำนวนนี้มีหนึ่งคนที่เป็นไต้ก๋งเรือได้รับคำสั่งจากเจ้าของเรือให้นำเรือออกจากฝั่งท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ ในวันที่ 11 มิ.ย. เพื่อเอาเรือและน้ำมันไปขายกลางทะเลให้กับเรือขนาดใหญ่สามารถบรรจุน้ำมันได้ 1-2 ล้านลิตร ที่ลอยอยู่กลางทะเลเพื่อรับซื้อน้ำมันจากทั้ง 3 ลำ ก่อนที่จะมีลูกเรือ7 คน จากเรือทั้ง3ลำ หนีขึ้นเรือลำดังกล่าวไปด้วย จากนั้นกลุ่มลูกเรือที่เหลื จะนำเรือ ทั้ง 3 ลำ มุ่งหน้าไปเขรมและเปลี่ยนสภาพเรือ หลังจากนั้นกลุ่มลูกเรือก็ได้รับคำสั่งให้มุ่งหน้า ไปที่จ.ปัตตานี

โดยมีเรือ เจ.พี เป็นเรือนำทาง เพราะเป็นเรือลำเดียวที่มี GPS ซึ่งผู้ต้องหาได้นำ GPS แอบซ่อนไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ถูกจับกุมพร้อมยืนยันว่าการจับกุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นการจัดฉากหรือสร้างภาพ หรือมีการประสานกับทางผู้บงการ เพื่อส่งมอบเรือคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่ 
 

ตรวจสอบเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง

พล.ต.ต. จรูญเกียรติ (บิ๊กเต่า) ระบุว่า สำหรับการขโมยเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง มีการวางแผนมาแล้วก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง แต่ไม่สำเร็จ จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้สบโอกาส ช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวน และจากการโทรสั่งการของผู้บงการและนำเรือออกไปโดยที่ไม่มีใครเห็น

 


ส่วนการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจสัตหีบทั้ง 4 นาย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะเสร็จภายใน 7 วัน ยอมรับว่าวงการค้าน้ำมันเถื่อนมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นขบวนการที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง แต่ยืนยันว่าถ้าหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ บุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องหรือกระทำผิดชัดเจนก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ในส่วนของความเสียหายเสียที่เกิดขึ้นต่อรัฐทางบช.ก. ทางตำรวจจะมีการฟ้องละเมิด และจะต้องมีการฟ้องแพ่งกับบุคคลที่มีการกระทำความผิด เพื่อนำเงินไปชดใช้เให้กับรัฐ