![สลด 2 ชายหญิง นอนเสียชีวิตใน "รถเก๋ง" ใกล้ที่ทำงาน คาด ขาดอากาศหายใจ สลด 2 ชายหญิง นอนเสียชีวิตใน "รถเก๋ง" ใกล้ที่ทำงาน คาด ขาดอากาศหายใจ](https://media.komchadluek.net/uploads/images/md/2024/06/ZfF5vrr68k9JVG7R0xiG.webp?x-image-process=style/lg-webp)
สลด 2 ชายหญิง นอนเสียชีวิตใน "รถเก๋ง" ใกล้ที่ทำงาน คาด ขาดอากาศหายใจ
สลด 2 ชายหญิง นอนเสียชีวิตใน "รถเก๋ง" ใกล้ที่ทำงาน คาด ขาดอากาศหายใจ เนื่องจากน้ำมันหมด และไม่พบบาดแผลตามร่างกาย
เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ สน.คลองตัน ได้รับแจ้งมี ผู้เสียชีวิต ภายใน "รถเก๋ง" 2 รายที่จอดอยู่ปากซอยพัฒนาการซอย 12 เขตสวนหลวง กทม. จึงเข้าตรวจสอบเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู ที่บริเวณปากซอยพัฒนาการ 12 บริเวณทางเท้าพบรถนั่งส่วนบุคคลยี่ห้อมาสด้า สีขาว จากการตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิต 2 ราย แบ่งเป็นหญิง 1 คนและชาย 1 คน นอน เสียชีวิต อยู่ภายรถที่บริเวณด้านหน้า ตรงเบาะคนขับและที่นั่งข้างคนขับรถ
ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นางวิลัยพร แต่งกายใส่ เสื้อยืดคอกลมสีดำ กระโปรงยืนยาวสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่ฝั่งคนขับ (อาชีพแดนเซอร์) และ นายวิโรจน์ แต่งกายใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์สีดำมีกระเป๋าคาดอก 1 ใบนอนเสียชีวิตอยู่ฝั่งข้างคนขับ (อาชีพเด็กเสิร์ฟ)
พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากพนักงานวิทยุว่าพบศพผู้เสียชีวิตภายใน "รถเก๋ง" จึงเดินทางเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบภายในรถมี ผู้เสียชีวิต 2 คน โดยทั้งคู่ทำงาน ร้านอาหาร แห่งหนึ่งใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ
จากการสอบถามพยานที่เกี่ยวข้องรวมถึงตรวจสอบภาพจาก กล้องวงจรปิด พบว่าหลังเลิกงาน เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ทั้ง 2 คน ได้เดินมาที่รถ ซึ่งปกติแล้วหลังเลิกงานฝ่ายหญิงมักจะนอนในรถเป็นประจำอยู่แล้ว จากการสันนิษฐานคาดว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งคู่น่าจะสตาร์ทรถนอน แล้วขาดอากาศหายใจ เนื่องจากตรวจสอบเกน้ำมันรถพบว่ารถน้ำมันหมด รวมถึงไม่พบบาดแผลบนตัวของทั้งคู่
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้พบศพคือพี่ชายของผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง เนื่องจากพบความผิดปกติหลังพยายามติดต่อน้องสาวแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงเดินมาตรวจสอบที่รถและพบศพดังกล่าว ส่วนร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 นำส่งนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนมอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลต่อไป