ข่าว

"บิ๊กเต่า" ยัน "เสี่ยโจ้" บงการ"เรือน้ำมัน"หาย เร่งสอบปมแชทหลุดดีลตำรวจ

19 มิ.ย. 2567

"บิ๊กเต่า" ยัน เสี่ยโจ้ ผู้บงการหลัก เร่งตรวจสอบแชทหลุดคุยตำรวจ เชื่อของจริง เตรียมเรียกตัวมาสอบ ย้ำหากพบใครผิดต้องรับกรรม

19 มิ.ย.,2567 เวลา 11:00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี ลักเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง 3 ลำ จากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า กรณีที่สื่อมวลชนสงสัยว่านายเล็กคือใครและมีตัวตนหรือไม่ ยืนยันว่ามีตัวตนจริง เป็นผู้จัดการส่วนตัวของเสี่ยโจ้ ปัตตานีและเป็นคนไทย ช่วงที่มีการจับกุม เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา นายเล็กมีความพยายามเข้าหาเจ้าหน้าที่ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่ยินยอม ซึ่งจากการตรวจสอบคำให้การและทางเทคนิค เชื่อว่านายเล็ก มีความเชื่อมโยง กับเหตุการณ์เรือหายในครั้งนี้และเป็นเจ้าของเงินที่ใช้ประกันตัว ลูกเรือทั้ง 28 คน ซึ่งน่าจะได้รับคำสั่งจากเสี่ยโจ้ อีกทอดหนึ่ง

 

ส่วนความคืบหน้าการสอบปากคำลูกเรือทั้ง 8 คน "เป็นที่น่าพอใจ ยอมรับว่าการสอบปากคำคราวนี้ไต้ก๋งเรือ เปิดทางแสงสว่างให้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้รู้ว่า คดีนี้มีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งในรูปคดี วันนี้ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ คดีมีความชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไรมากขึ้น ไต้ก๋งเรือถือเป็นพยานปากสำคัญ และเป็นผู้ให้แสงสว่างในการคลี่คลายคดี"

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังยอมรับว่า คดีนี้การลักเรือของกลาง ทั้ง 3 ลำ ถือเป็นการตบหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างแรง ดังนั้นเราต้องดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเด็ดขาด ตำรวจที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องรับสิ่งที่ตามมาให้ได้ ก่อนหน้านี้มีความสุขสบาย นั่งอยู่บนกองเงินกองทองก็ไม่ว่ากัน แต่ตอนนี้เมื่อถึงเวลากรรมตามสนองคุณ ต้องยอมรับสภาพให้ได้ เมื่อวานจากการสอบปากคำไต้ก๋งเรือทั้ง 3 ลำทำให้เราได้ความเชื่อมโยงคดีแรกวันที่ 19 มี.ค. กับ คดีเรือหาย มีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งหลังจากนี้จะต้องหารือกับทางอัยการถึงมาตรการดำเนินการหลังจากนี้ 

        

“พื้นที่ทางทะเล หรือท้องทะเล ถือเป็นแดนสนธยา ที่มีผลประโยชน์เข้าไปมีเกี่ยวข้องอย่างมากมายและการตรวจสอบเข้าไปไม่ถึง เพราะเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ บนบกเราสามารถตรวจสอบได้มากกว่า แต่ทางทะเลตรวจสอบได้แต่ไม่หมด จึงเป็นแดนสนธยาที่มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงมีบุคคลที่เข้าไป รับผลประโยชน์ จำนวนมาก

 

"ส่วนกรณี แชทไลน์เสี่ยโจ้กับตำรวจบางนาย หลุดไปยังสื่อมวลชน จากการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่า เป็นแชทไลน์จริง แต่ขอเวลาให้ตำรวจกองปราบและปปป.ทำงานก่อน ซึ่งจะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ให้สังคมได้อย่างแน่นอน ส่วนผู้กำกับอักษรย่อ น.เตรียมเรียกตัวสอบปากคำในประเด็น แชทไลน์หลุด ดังกล่าวแล้ว"

ทั้งนี้ระหว่างให้สัมภาษณ์ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ขอร้องสื่อมวลชน พร้อมยกมือไหว้ โดยขอให้สื่อมวลชนและผู้สื่อข่าว โดยเฉพาะสื่อบางสำนัก นำเสนอข่าวตามความเป็นจริงตามที่ตำรวจให้ข้อมูล เท่านั้นไม่ใช่ นำเสนอบางประเด็น ขยี้เสียจนประชาชนหรือสังคมเกิดความสงสัยและตีความไปอย่างเสียหาย ซึ่งอยากขอร้องว่าให้นำคดีบ้านกกกอกมาเป็นบทเรียน คดีดังกล่าว สื่อมวลชนบางสำนักทำให้ผู้ร้ายกลายเป็นฮีโร่เป็นพระเอกมีฐานะร่ำรวยขึ้นมาภายในเพียงไม่กี่เดือนแต่สุดท้ายในที่สุดก็ต้องถูกดำเนินคดีเพราะหนีความจริงไปไม่พ้น คดีนี้ก็เช่นเดียวกันควรเสนออย่างจงไปจงมาไม่ควรนำเสนอ บิดเบือน หรือขยี้ จนรูปคดีเสียหาย