ข่าว

ตำรวจยศใหญ่ "พล.ต.ต." ร่วมวงสนทนา แชทหลุด "เสี่ยโจ้"

"บิ๊กเต่า" ยอมรับแชทหลุด ตำรวจคุย "เสี่ยโจ้" เจรจา "เรือน้ำมันเถื่อน" เป็นของจริง มีระดับ "รองผบช.สอบสวนกลาง" ถึง 2 คน ด้าน "ผู้การตำรวจน้ำ" ขอความเป็นธรรม ถูกกล่าวหารับส่วย 1 ล้าน เผยเอกสารตั้งแต่ปี 2555

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวน เปิดเผยถึงมีแชทหลุดระหว่างผู้กำกับอักษรย่อ น. กับ "เสี่ยโจ้" ในคดี "เรือน้ำมันเถื่อนหาย" ว่า จากการตรวจสอบเชื่อได้ว่า แชทดังกล่าวเป็นแชทจริง โดยเป็นการสนทนาระหว่างข้าราชการตำรวจ 4-6 คน ซึ่ง 1 ในนั้น เป็นทหารเรือ เพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันกับตัวเองก่อนที่จะมีการโอนย้ายไปเป็นตำรวจน้ำ 

 

ส่วนที่เหลืออีก 5 คน แบ่งเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 2 คน , รองผู้บังคับการสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 2 คน , ผู้กำกับการ น. 1 คน ยืนยันตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตัวเองในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน อยากเรียกร้องให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอหน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนแลข้าราชการตำรวจที่ถูกกล่าวหา เพื่อพิสูจน์ความจริง ซึ่งส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะพิจารณาว่า คณะกรรมการชุดใดจะมีความเหมาะสม

 

ส่วนโพยส่วยที่เปิดเผย จ่ายเงินให้กับ 10 หน่วยงาน 1 ในนั้นจ่ายให้ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ 1 ล้านบาท

พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ยืนยัน ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง  จึงอยากขอความเป็นธรรม พร้อมกับชี้แจงว่า เอกสารพบเป็นเอกสารเก่าที่เคยมีการตรวจยึดได้มานานแล้วเมื่อปี พ.ศ.2555 ตรวจยึดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ส่วนจะจริงหรือไม่ ตัวเองไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากเป็นหน่วยงานของตัวเอง แต่ยินดีให้หน่วยงานอื่นเข้ามาตรวจสอบ 

 

ส่วนที่ตำรวจน้ำปล่อยให้เรือน้ำมันเถื่อนของกลางหายไป 3 ลำ จากการตรวจสอบพบ ข้าราชการ 3 นาย มีความบกพร่องทำให้ราชการเสียหายอย่างรุนแรง หลังจากนี้จะส่งผลสรุปให้ ซึ่งขณะนี้น้ำมันเถื่อนของกลางที่ตรวจพบในเรือ คงเหลืออยู่ที่ 18,000 ลิตร 

 

ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า คดีแรกเรือน้ำมันเถื่อนอยู่ในความรับผิดชอบของบก.ปอศ. และ อัยการสูงสุดเนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร กองบังคับการปราบปรามมีหน้าที่ในการสืบสวนขยายผลและนำพยานหลักฐานไปสนับสนุนพยานหลักฐานในคดีที่บก.ปอศ. รับผิดชอบอยู่ 

 

ส่วนคดีเรือหายวันนี้ทางกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ควบคุม นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 รายไปฝากขังเรียบร้อยแล้ว และจะขยายผลนำน้ำมันไปขายใคร เพื่อหาคนที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังเร่งรวบรวมข้อมูล เพื่อนำเสนอศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลัง เป็นผู้สั่งการให้นำเรือ ซึ่งเบื้องต้นมีประมาณ 3-4 คน ที่เข้าข่ายกระทำความผิด แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ ส่วนจะมีเสี่ย จ. ด้วยหรือไม่ ขอไม่ระบุตัวบุคคลว่าเป็นใคร

ข่าวที่น่าสนใจ