พิรุธชัดแจ้ง “พ่อแม่” ไม่เชื่อเจ้าของร้านอาหาร อ้างทำปืนลั่น | คมชัดลึก

21 มิ.ย.2567 ความคืบหน้า เหตุ นายธัชชัย หรือต้น อายุ 40 ปี เจ้าของร้านอาหาร กึ่งผับแห่งหนึ่ง ย่าน เกษตรนวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร ก่อเหตุ ยิง นายนาษ การ์ดของร้านเสียชีวิต โดยอ้างว่า ปืนลั่น  โดยนายธัชชัย เข้ามอบตัวหลังเกิดเหตุ  เมื่อกลางดึกวันที่ 20 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา

 

จากพยานหลักฐาน พบ พิรุธ ในที่เกิดเหตุหลายอย่าง ทั้งอ้างว่ากล้องวงจรปิดเสีย กระสุนเข้าจุดตายที่ศีรษะ และนำอาวุธปืนไปทิ้งน้ำ  

 

เวลา 11.20 น. ตำรวจคุมตัว นายธัชชัย ไปฝากขังที่ศาลอาญา โดยเจ้าตัวไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

ต่อมา นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด  พร้อมด้วย นายวาริน และนางรจนา พ่อแม่ ของ นายนาษ การ์ด ของร้านอาหารกึ่งผับ ที่ถูกเจ้าของร้าน คือ นายธัชชัย อายุ 40 ปี ยิงศีรษะ เสียชีวิต เข้าพบ พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก. สน.โคกคราม เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม

 

เพราะไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา ที่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจยิง แต่ผู้เสียชีวิตไม่พอใจที่ถูกด่าทอเรื่องการแต่งกาย และการไปยุ่งกับเด็กเสิร์ฟในร้าน จนชักปืนออกมา พอผู้ก่อเหตุเห็นจึงเข้าไปแย่ง ทำให้ ปืนลั่น ใส่นายนาษ เสียชีวิต

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่รอเข้าพบ ผกก. สน.โคกคราม น้าสาวของผู้ เสียชีวิต มีอาการไม่เป็นตัวของตัวเอง และพูดว่า "มันจะฆ่าผม มันจะฆ่าผม" ทำให้นายวาริน พ่อผู้เสียชีวิต เชื่อว่าน่าจะเป็นวิญญาณของลูกชาย ที่ต้องสื่อสาร ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ ปืนลั่น ธรรมดา

 

ด้าน นางรจนา แม่ผู้เสียชีวิต เผยว่า ไม่เชื่อว่า คำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุเป็นความจริง เนื่องจากปกติลูกชายไม่ได้เป็นคนก้าวร้าว มีความเมตตา เป็นคนขี้สงสาร มีน้ำใจนักกีฬา เพราะลูกเป็นนักกีฬามวย เคยขึ้นชก 50 ครั้ง แต่ที่เลิกเพราะเคยมีเหตุที่ฟันศอกคู่ต่อสู้ จนศีรษะแตก ทำให้ลูกรู้สึกผิดอยู่ในใจ และไม่ชอบการทำร้ายแบบนั้น จึงเลิกต่อยมวย 

 

ส่วนผู้ก่อเหตุมีนิสัยพูดจาโผงผาง เคยพูดกับตนประมาณว่า อย่าถือสาคำพูดเขาเลย เพราะเป็นคนพูดแบบนี้ แต่ไม่ได้ไปฆ่าใครหลอก ตอนที่เอาลูกไปฝากทำงานตอนแรก เข้าใจว่าจะให้ลูกทำงานเป็นช่างเชื่อม แต่จู่ๆก็ให้ลูกไปตัดผม เป็น การ์ด ของร้าน งานแบบนั้นลูกไม่ชอบอยู่ เพราะไม่ชอบผับ ไม่ชอบสถานบันเทิง  และอยากให้เขารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น และชดใช้กรรมที่ทำไว้

 

ขณะที่ นายวาริน กล่าวว่า ต้องการมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกชาย เพราะจุดเกิดเหตุ เป็นถิ่นของผู้ก่อเหตุ เกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ประกอบกับเมื่อเช้า ได้คุยกับ พนักงานสอบสวน ตนบอกว่าไม่เชื่อคำกล่าวอ้าง ของผู้ต้องหาว่า ปืนลั่น  เพราะกระสุนเข้าที่ศีรษะ

 

และพบพิรุธ ที่อ้างว่ากล้องวงจรปิดเสีย ไหนจะเรื่องที่นำปืนไปทิ้งอีก ถ้าไม่มีเจตนาอื่นจะเอาปืนไปทิ้งทำไม แต่ตนกลับถูกพนักสอบสวน ตะคอกกลับ "อย่ามารู้มาก" ทำให้กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม 

 

ส่วนเหตุการณ์ที่วิญญาณลูกชายมาสื่อสารในร่างน้าสาว เชื่อว่าเป็นลูกชายอย่างแน่นอน ด้วยท่าทาง การแสดงสีหน้า เป็นสิ่งที่ลูกชายชอบทำเป็นประจำ

 

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  กล่าวว่า ข้ออ้างที่มีพิรุธต่างๆ ทุกคนมีสิทธิพูด แต่คดีนี้คนเสียชีวิต ต้องได้ความชัดเจนให้กับทางครอบครัวผู้สูญเสียด้วย