พร้อมของกลางในคดี
1.อาวุธปืน แบลงค์กันดัดแปลงลำกล้องสีเงิน ด้ามจับสีน้ำตาล จำนวน 1 กระบอก
2.อาวุธปืน แบลงค์กันดัดแปลงลำกล้องสีเงิน ด้ามจับสีดำ จำนวน 1 กระบอก
3.กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 5 นัด
พฤติการณ์ นายอภิวัฒน์ หรือแซม ได้มีการค้าขาย อาวุธปืน เถื่อนกับกลุ่มเพื่อน ในช่องทางกลุ่มแชท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนทราบว่า นายอภิวัฒน์ หรือแซม นั้นได้มีการทำอาวุธปืนเถื่อน ทำการค้าขายในกลุ่มเพื่อนและมีอาวุธปืนเถื่อนจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. จึงได้ทำการขอหมายค้นเพื่อทำการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวที่นายอภิวัฒน์ หรือแซม พักอาศัยอยู่ ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. เข้าทำการตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.255/2567 เข้าตรวจค้นบ้านพัก นายอภิวัฒน์ หรือแซมได้พยายามทำการปีนกำแพงหลังบ้านและวิ่งหลบหนี แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถไล่ติดตามและทำการจับกุมควบคุมตัวนายอภิวัฒน์ฯ ไว้ได้ จากนั้นได้นำตัวมานำตรวจค้น ผลการตรวจค้นภายในบ้าน พบอาวุธปืนแบลงค์กันดัดแปลง จำนวน 2 กระบอก และกระสุนปืน ขนาด .380 บรรจุอยู่ภายในอาวุธ อีกจำนวน 5 นัด
จากการตรวจสอบประวัติทางคดี พบดังนี้
1.ปี 2556 โดนจับคดีลักทรัพท์ในเวลากลางคืน ในพื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ
2.ปี 2556 โดนจับคดีพยายามฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.เมืองนนทบุรี
3.ปี 2558 โดนจับคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่น ในพื้นที่ สน.บึงกุ่ม
ในชั้นจับกุม นายอภิวัฒน์ รับว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ถูกตรวจพบเป็นอาวุธปืนของตนเองจริง โดยที่ผ่านมาจะขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ กระบอกละ 10,000-15,000 บาท ขายไปแล้ว 3-4 กระบอก จากนั้นได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.บึงกุ่ม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง