ข่าว

ดีเอสไอ ไล่เส้นเงินคนใกล้ชิด “ชนินทร์” ซุกทรัพย์สิน ฟันฟอกเงิน

ดีเอสไอ ไล่เส้นเงินคนใกล้ชิด “ชนินทร์” ซุกทรัพย์สิน ฟันฟอกเงิน

24 มิ.ย. 2567

ดีเอสไอ ไล่บี้เส้นทางการเงินคนใกล้ชิด “ชนินทร์” 11 ราย มั่นใจมีผ่องถ่ายซุกซ่อนทรัพย์สิน คดี "หุ้นSTARK" อีกเพียบ

พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ดีเอสไอ

24 มิ.ย. 2567 ภายหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) นำโดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีฯ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน คดี หุ้นSTARK นำกำลังคณะพนักงานสอบสวน กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เจ้าหน้าที่กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กองปฏิบัติการพิเศษ พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการ ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เพื่อควบคุมตัว นาย ชนินทร์ เย็นสุดใจ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2145/2566 ลงวันที่ 5 ก.ค.66 

 

ก่อนนำตัวไปยังอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำการสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนควบคุมตัวไว้ภายใน 48 ชม. ที่ห้องคุมขังผู้ต้องหา ชั้น 6 และเตรียมนำตัวส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษในวันที่ 24 มิ.ย.2567 เวลา 13.30 น. เพื่ออัยการส่งฟ้องต่อศาลอาญาตามขั้นตอน นั้น

ล่าสุด พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผอ.กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน เปิดเผยว่า สำหรับวานนี้ (23 มิ.ย.) พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายชนินทร์ (ผู้ต้องหา) ไปทั้งสิ้น 2 ชม. เสร็จสิ้นกระบวนการในช่วงบ่าย จากนั้นเป็นการพูดคุยสอบถามและติดตามความคืบหน้าของคดีในส่วนของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม

 

ประเด็นที่ใช้ในการสอบปากคำ ส่วนใหญ่เป็นไปตามที่สำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เคยกล่าวโทษบุคคลทั้ง 10 ราย มีทั้งบุคคลและนิติบุคคล ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ว่าบุคคลทั้งหมดได้ร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริง เป็นต้น

 

ดังนั้น ก.ล.ต. กล่าวโทษอย่างไร ดีเอสไอ ก็ใช้ในการแจ้งข้อกล่าวหาตามพฤติการณ์นั้น ๆ แต่โดยรวมแล้วจะอยู่ในมูลฐานความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชนฯ ข้อหายักยอกทรัพย์และข้อหาฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งนาย ชนินทร์ ก็ได้มีการแก้ข้อกล่าวหาด้วยวาจาและนำเอกสารประกอบแสดงชี้แจงในบางประเด็น

 

ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวทางทนายความของผู้ต้องหา เคยมีการมอบให้พนักงานสอบสวนมาก่อนแล้ว ในช่วงที่ตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ในราชอาณาจักร โดยเป็นการยื่นเอกสารผ่านทนายความ เราจึงรับฟังแต่ยังไม่นำใส่สำนวน ทั้งนี้ ในส่วนประเด็นใดที่นาย ชนินทร์ ไม่ประสงค์แก้ข้อกล่าวหา ก็ได้แจ้งว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น อาทิ ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหารายอื่น ๆ

 

เมื่อถามว่า นาย ชนินทร์ ให้ปากคำเกี่ยวกับบุคลากรรายอื่น ๆ ภายในโครงสร้างกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท สตาร์คฯ หรือบรรดาลูกน้องบ้างหรือไม่ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ เผยว่า ผู้ต้องหายังไม่ได้มีการกล่าวถึงกรรมการบริษัทมากนัก แต่ให้การเพียงแค่ว่าตนเองเป็นผู้บริหารจริง แต่ไม่ใช่ผู้บริหารสูงสุดขององค์กร เพราะตนเองและนายวนรัชต์ ก็มีสถานะเป็นกรรมการบริษัท ถือว่ามีอำนาจเท่ากัน

 

ต่อข้อถามว่ากรณีที่ทนายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายชนินทร์ ระบุว่าการสั่งฟ้องที่เกิดขึ้นกับลูกความตนเอง ยังไม่เป็นธรรม เพราะยังมีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องเส้นทางการเงิน และการบริหารจัดการใน บริษัท สตาร์คฯ แต่ไม่ถูกสั่งฟ้องนั้น ใช่กรณีของนายชินวัฒน์ หรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเพราะพยานหลักฐานไปไม่ถึง พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ ชี้แจงว่า ทนายความไม่ได้มีการระบุชื่อออกมาว่าหมายถึงใคร แต่ยืนยันว่าในชั้นการสอบสวนของดีเอสไอ เราได้ดำเนินการเต็มที่แล้ว ทั้งการรวบรวมพยานหลักฐาน พยานเอกสาร และการสอบปากคำพยานต่าง ๆ ส่วนกรณีที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ก็ถือเป็นดุลพินิจของอัยการ

 

ส่วนประเด็นที่ดีเอสไอจะดำเนินการขยายผลไปยังเรื่องการฟอกเงินของบรรดาผู้ต้องหาในคดีหุ้นสตาร์คนั้น พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ เผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้มีการรับเป็นอีกหนึ่งคดีพิเศษ โดยเป็นการสืบสวนสอบสวนเรื่องฟอกเงินทางคดีอาญา จะเป็นการขยายผลไปในเรื่องความเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันว่าบุคคลใดมีการรับโอนเงินจากกลุ่มผู้ต้องหาคดีสตาร์ค

 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีนี้ ได้มีการโอนเงินหรือผ่องถ่ายไปที่ใคร โดยที่บุคคลนั้นยังไม่ถูกดีเอสไอดำเนินคดีหรือไม่ หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหาฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และเมื่อเสร็จสิ้นก็จะดำเนินการส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการคดีพิเศษ

 

“ส่วนกลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรกที่ดีเอสไอเล็งเห็นว่าอาจมีการข้องเกี่ยวในเรื่องเงินที่มาจากการกระทำความผิดในคดีหุ้นสตาร์คนั้น เราจะไปดูในส่วนของบุคคลใกล้ชิด มีความสนิทสนมกับบรรดาผู้ต้องหาทั้ง 11 ราย เพื่อดูว่าแต่ละรายได้มีการจำหน่าย จ่ายโอน ทรัพย์สิน หรือผ่องถ่ายเงินไปยังที่ไปยังทางใดหรือไม่” พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ ระบุ

 

พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ อธิบายถึงสาเหตุที่สำนวนการฟอกเงินคดีใหม่นี้จะไม่ถูกส่งไปยัง ปปง. ว่า เนื่องจากคดีการฟอกเงินจะมีอยู่ด้วยกันสองส่วน คือ 1.ส่วนแรก ปปง. จะดำเนินการในเรื่องของการยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดี โดยการยึดทรัพย์ของ ปปง. เพื่อสำหรับศาลแพ่งมีคำสั่งเฉลี่ยคืนผู้เสียหายในคดี

 

และ 2.ส่วนของดีเอสไอ จะดำเนินการเฉพาะในส่วนของบุคคลที่รับเงินโอนเงินกับกลุ่มผู้ต้องหา ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรืออ้อมกี่ทอดก็ตาม เนื่องจากไม่ได้มีหนี้สินเกี่ยวพันกันจริง แต่มีเจตนาการฟอกเงินที่ได้จากการกระทำความผิด ซึ่งจะเป็นโทษคดีอาญา มีอัตราโทษจำคุก จะไม่เกี่ยวกับทาง ปปง. ที่ทำในเรื่องคดีแพ่ง

 

พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ กล่าวด้วยว่า ในกรณีที่มีรายงานว่านายชนินทร์ ได้มีการโยกเงินกว่า 8,000 ล้านบาท ไปซุกซ่อนอยู่ที่อังกฤษนั้น ในเรื่องดังกล่าวดีเอสไออยู่ระหว่างการตรวจสอบและจะประสานข้อมูลกับสำนักงาน ปปง. พร้อมย้ำชัดว่า ปปง. ทำคดีทางแพ่งส่วนดีเอสไอทำคดีทางอาญา

 

ทั้งนี้ ในเวลา 13.30 น. พนักงานสอบสวนเตรียมนำตัวนายชนินทร์ ออกจากห้องคุมขังชั้น 6 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ ถ.รัชดาภิเษก ตามขั้นตอนต่อไป