ข่าว

“เซลล์สาว” ร้อง “จ่าทหารเรือ” เบี้ยวขายลาบูบู้ เหยื่อกว่า 70 คน

“เซลล์สาว” ร้อง “จ่าทหารเรือ” เบี้ยวขายลาบูบู้ เหยื่อกว่า 70 คน

24 มิ.ย. 2567

“เซลล์สาว” ตัวแทนผู้เสียหายกว่า 70 คน ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูก “จ่าทหารเรือ” หลอกขาย “ลาบูบู้” เสียหายเฉียดล้าน

เซลล์สาวร้องถูกจ่าทหารเรือ หลอกขายลาบูบู้

24 มิ.ย. 2567 เวลา 12.00  น. น.ส.กัลย์ลภัส อายุ 30 ปี เซลล์สาว ขายยา เป็นตัวแทนผู้เสียหาย เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด หลังสั่งซื้อตุ๊กตาดัง ลาบูบู้ ผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่กลับไม่ได้รับของ มีผู้เสียหายกว่า 70 ราย ความเสียหายกว่า 8 แสนบาท

 

น.ส.กัลย์ลภัส เล่าว่า ได้สั่งซื้อ ลาบูบู้ จากหญิงสาวโปรไฟล์ดีคนหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊ก โปรไฟล์เป็นถึง จ่าทหารเรือ มีแฟนเป็นตำรวจกองปราบ โดยโพสต์ขาย ลาบูบู้ ผ่านกลุ่มค้าขายของเล่นตุ๊กตา ลาบูบู้ ตั้งราคาขายถูกกว่าเจ้าอื่นๆ โดยใช้โปรไฟล์และเฟซบุ๊กจริงในการโพสต์ขาย และหน้าโปรไฟล์ของผู้ก่อเหตุมีการรีวิวจากลูกค้าจำนวนมาก ว่าได้รับของจริง และมีคนสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนมาก ประกอบกับพี่สาวของตัวเองเคยซื้อ ลาบูบู้ กับเจ้านี้มาแล้วด้วย

จึงเชื่อใจและสั่งซื้อ ลาบูบู้ 3 ตัว ซื้อในราคาตัวละ 990 บาท ค่าส่ง 60 เป็นเงิน 3,030 บาท สั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2567 ทางแม่ค้าแจ้งว่าสินค้าจะพร้อมส่งในวันที่ 13 มิ.ย.2567 แต่เมื่อถึงวันที่ 13 มิ.ย.2567 ทางผู้ก่อเหตุได้แจ้งกับทางลูกค้า ว่าติดธุระราชการ จึงขอเลื่อนไปวันที่ 17 มิ.ย.2567

 

จนกระทั่งเย็นวันที่ 17 มิ.ย.2567 ผู้ก่อเหตุออกมารับสารภาพว่าไม่มีของจะส่งให้ จึงได้ขอเงินคืน ผ่านไปประมาณ 2 - 3 ชม. ทางผู้ก่อเหตุได้โทรมาขอเจรจาว่า ตอนนี้คงไม่มีเงินคืน อยากจะขอเวลาสักหน่อย เพื่อหาเงินมาใช้คืนให้กับลูกค้า ก่อนที่ จ่าทหารเรือ จะเงียบหายไป  จึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.สุทธิสาร ก่อนจะมีการแจ้งไปยังต้นสังกัดของ จ่าทหารเรือ ผู้ก่อเหตุดังกล่าว

 

ทางเราได้พยายามรวบรวมผู้เสียหายในครั้งนี้โดยมีผู้เสียหายกว่า 70 ราย รวมความเสียหายได้ กว่า 8 แสนบาท

 

ต่อมาวันที่ 20 มิ.ย.2567 ผู้ก่อเหตุได้มีการเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยปิดกั้นคอมเมนท์ และโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ไม่ได้โกงเพียงแต่ยังรอของอยู่เท่านั้น ส่วนใครต้องการคืนเงินให้ติดต่อมา แล้วจะมีการคืนเงินให้ โดยได้มีการโพสต์เหมือนกับสลิปการคืนเงินให้กับลูกค้าบางส่วนให้ดูมีความน่าเชื่อถือ

 

แต่ความเป็นจริงในจำนวนผู้เสียหาย 70 กว่ารายนั้น ได้รับการคืนเงินเพียงแค่คนเดียว เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา แถมได้เงินคืนเพียงครึ่งเดียว จำนวนเป็นเงิน 1,000 บาท จากยอดสั่งซื้อ 2,000 บาท เหตุที่เขาได้เงินคืนมาเนื่องจากลูกป่วย จึงโทรไปอ้อนวอนผู้ก่อเหตุเลยได้รับโอนคืนมา 1,000 บาทนั่นเอง

 

วันนี้จึงขอเป็นตัวแทนผู้เสียหายมาขอความช่วยเหลือ ต่อ นายเอกภพ เพื่อให้ช่วยเร่งรัดนำตัวผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ด้านนายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสนี้เดี๋ยวจะรวบรวมผู้เสียหายเพื่อนำเข้าแจ้งความต่อกองปราบ ให้ช่วยเร่งรัดคดีโดยเร็ว และในส่วนของผู้ก่อเหตุที่รับราชการ ทหาร นั้น ทางเพจจะส่งเรื่องไปสอบถามต้นสังกัด  เพื่อให้ช่วยดำเนินการตามระเบียบของหน่วยงานต่อไป