ข่าว

"ทนายอนันต์ชัย" นำทัพ แจ้ง 6 ข้อหาหนัก “ลัทธิเชื่อมจิต” เด็ก 8 ขวบ ก็ไม่เว้น

"ทนายอนันต์ชัย" นำทัพ "ต่อต้านลัทธิเชื่อมจิต"บุกกองปราบ แจ้ง 6 ข้อหาหนัก 60 แอดมิน เด็ก 8 โดนด้วย ยังเชื่อ น้องเป็นแค่เหยื่อ แย้ม กลุ่มเชื่อมจิตแค่ขู่ เหมือนสุภาษิต "หมาเห่าหน้าร้านค้า"

จากกรณีทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย นางชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ,นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และกลุ่มต่อต้านลัทธิเชื่อมจิต เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเชื่อมจิต เพิ่มเติมอีก 6 ข้อหา โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.เด็ก 8 ขวบ เชื่อมจิต 2.กลุ่มแอดมิน จำนวน 60 คน 3.ทนายเชื่อมจิต

 

25 มิ.ย. 2567 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า เมื่อวานได้เดินเข้าประชุมร่วมกับสำนักพุทธ ลัทธิเชื่อมจิตเป็นลัทธิ ไม่ใช่บุคคลและได้มีการแจ้งความดำเนินการกับกลุ่มดังกล่าว ยืนยันว่าสำนักพุทธได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ตามพ.ร.บ.สำนักพุทธมาตรา 14 
 


โดยวันนี้จะมาแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มแอดมิน 60 คน ที่กล่าวอ้างว่าจะดำเนินคดีกับสื่อ 4 สื่อ และผู้ร่วมรายการ โดย 4 สื่อ ประกอบด้วย 
1.โหนกระแส 
2.เปิดปากกับภาคภูมิ
3. คนดังนั่งเคลียร์ 
4.อาจารย์ยิ่งศักดิ์

บุคคลที่แจ้งคือแอดมินสาวคนเดียว ส่วนคนอื่นไปด้วยกันหมดแต่ไม่แจ้งเพราะไม่กล้าแจ้ง ซึ่งฝ่ายเราได้ดำเนินการแจ้งความไปแล้ว 60 คน 

 

ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า จะแจ้งความ กับบุคคล 3 กลุ่มคือ เด็ก 8 ขวบ เชื่อมจิต , กลุ่มแอดมิน จำนวน 60 คน ,ทนายเชื่อมจิตใน 6 ข้อหา 

ประกอบด้วย

1 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), (2), (5)

2.ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343, 83, 84, 86, 90, 91

3.พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

4.พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 มาตรา 5 และมาตรา 8

5.พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 มาตรา 13

6.ประมวลกฎหมายรัษฎากร มาตรา 40 (8), 37 ทวิ

 

 

 

 

ทนายอนันต์ชัย กล่าวต่อว่า ตามที่ฟังมายังไม่ได้มีการดำเนินคดีเพราะเอกสารยังไม่พร้อมเป็นการแจ้งเพื่อให้เป็นข่าว เพื่อที่จะปิดปาก เพราะวันนั้นทราบว่าจะมีการรเปิดประเด็นเรื่องของที่ดิน และมาเป็นพยานที่ป.ป.ช. ดังนั้นสบายใจได้ยังไม่มีการดำเนินคดีกับพวกคุณ(สื่อมวลชล) แต่เป็นการแจ้งเป็นหลักฐานเพื่อขู่เหมือนสุภาษิตที่บอกว่า "หมาเห่าหน้าร้านค้า"

 

 อีกเรื่องคือวันนี้ที่มายังคิดว่าน้องเป็นเหยื่อแต่รู้หรือไม่ทุกครั้งที่กลุ่มเชื่อมจิต ดำเนินคดีกับสื่อมวลชน หรือดำเนินคดีกับตน และผู้เห็นต่างจะอ้าง พ.ร.บคุ้มครองเด็ก 2546 มาตรา 27 ทุกครั้ง เพื่อเป็นโล่ป้องกันศาล โดยศาลสั่งให้ทั้ง 3 ราย เข้าแสดงพยานหลักฐานในวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นระบบไต่สวน คือระบบที่ศาลแสวงหาข้อเท็จจริง

 

ส่วนเรื่องพยานหลักฐาน ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า ตนได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ด้านกลุ่มเชื่อมจิตฟ้องในเรื่องพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เพราะมีการแพร่ภาพสดเห็นหน้าเด็ก แต่กลับพาเด็กมาออกสื่อโดยไม่ได้ปิดบังใบหน้า แสดงว่า กลุ่มลัทธิเชื่อมจิตทำได้ แต่กลุ่มต่อต้านทำไม่ได้ เพราะมีพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก เป็นปราการป้องกัน

 

ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า เราต้องทะลายปราการนี้ให้ได้ โดยใช้มติมหาเถระสมาคม ซึ่งบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่วันนี้เราแจ้งความดำเนินคดีกับพ่อ-แม่ ,หมอ,แอดมิน,ทนายเชื่อมจิตแล้ว "วันนี้จะมาถึงเราจำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีกับเด็กไม่คิดว่าวันนี้จะมาถึง"

 

ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดจะดำเนินคดีกับเด็กแต่ได้มีการแพร่ภาพสดโดยเด็กเชื่อมจิตเป็นผู้ระบุว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับตนจึงตัดสินใจดำเนินการ 

 

 

แต่เนื่องจากมีมาตราบัญญัติเอาไว้ว่าหากเด็กกระทำผิดไม่จำเป็นต้องรับโทษ แต่ให้เข้าสู่ระบบการ พ.ร.บคุ้มครองเด็ก 2546 นั่นหมายความว่าถ้าเราดำเนินคดีกับเด็กเป็นผู้กระทำความผิด แต่ไม่ต้องรับผิดและจะมีกระบวนการของเจ้าหน้าที่พม. เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

 

นอกจากนี้ ช่วงบ่าย ทนายอนันต์ชัย กล่าวเพิ่มเติมในรายการโหนกระแสระบุว่า ที่ต้องดำเนินคดีกับเด็กเชื่อมจิตด้วยเพราะทุกครั้งที่แม่พามาออกสื่อมักจะมีการระบุว่า น้องเป็นคนสั่งให้ทำ หรือบอกให้ทำ ซึ่งแปลว่าแม่พยายามจะสื่อว่าน้องสามารถตัดสินใจได้แล้ว