ข่าว

“แทนคุณ จิตต์อิสระ” แฉ “ทนายเชื่อมจิต” ไม่เคยจ่ายภาษี

“แทนคุณ จิตต์อิสระ” แฉ “ทนายเชื่อมจิต” ไม่เคยจ่ายภาษี แนะควรพาเด็กปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง ด้าน “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” เผย ไม่ได้ทำเพราะรักแต่สงสารเด็ก ยัน ไม่เคยประสงค์ร้าย

25 มิ.ย.2567 เวลา 10.00 น. ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย นางชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ,นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และกลุ่มต่อต้านลัทธิเชื่อมจิต เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มเชื่อมจิต เพิ่มเติมอีก 6 ข้อหา โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.เด็ก 8 ขวบ เชื่อมจิต 2.กลุ่มแอดมิน จำนวน 60 คน 3.ทนายเชื่อมจิต 

 

นายแทนคุณ จิตต์อิสระ กล่าวถึงประเด็นที่ ทนายเชื่อมจิตออกมาเรี่ยไรเงินจากประชาชน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเอาเงินส่วนนั้นมาสู้คดี ตนมองว่าขัดต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดี โดยวันนี้ก็ได้นำหลักฐานส่วนนี้มาแจ้งความกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.)

 

มีหลักฐานชัดเจนที่หน้าเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการปลอมขึ้น เนื่องจากยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และในคอมเมนต์ใต้โพสต์เรี่ยไรเงิน ยังมีการระบุสลิปโอนเงินจากผู้บริจาค เป็นเงินจำนวน 0.99 บาท บ้าง 2 บาทบ้าง และสูงถึง 500 บาท ถึงบางยอดจะไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ผิด พ.ร.บ.เรี่ยไร

 

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานการเสียภาษีของบริษัท สำนักงานกฎหมายและทนายความ ของทนายเชื่อมจิต กรณีไม่พบการเสียภาษี จึงนำหลักฐานส่วนนี้มาให้ทาง ปอศ.ตรวจสอบ

ด้าน นางชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง กล่าวว่า เธอเคยร้องเรียนให้สอบมรรยาททนายความ ของทนายเชื่อมจิตว่ามีการกระทำผิดหรือไม่ โดยร้องเรียนไปตั้งแต่เดือน ธ.ค. 66 แต่เรื่องยังไม่มีความคืบหน้า และแม่เด็ก 8 ขวบเคยพูดว่า "บอกว่ารักน้องทำไมทำกับน้องแบบนี้"  จะบอกว่า เราไม่ได้รักน้อง แต่ทำเพราะสงสารน้อง สงสารที่พ่อแม่ที่บอกว่ารักน้องทำกับน้องแบบนี้ ควรจะรักลูกให้ถูกทาง ตอนนี้พวกคุณกำลังทำร้ายเด็กคนนึงอยู่ และน้องมีอาการหนักขึ้นทุกวัน เราแค่อยากช่วยเด็กคนนึง ไม่มีวัตถุประสงค์ทำร้ายเด็กเลย "เราไม่ได้รัก เราแค่สงสาร เท่านั้นเอง"

 

ทนายอนันต์ชัย  กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ต้องขอบคุณ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ที่กำลังดูเรื่องนี้อยู่ ท่านได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ตอนนี้ฝากความหวังไว้ที่ บก.ปอท. ในเรื่องของคดี จากใจคนเป็นพ่อที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ ควรปรึกษายุวประสาท เป็นแพทย์เฉพาะทางให้ช่วยรักษาเด็ก และตัวแม่เองถ้ายอมมาสารภาพต่อสังคม ตนจะยอมถอนแจ้งความให้ในส่วนตนเอง เพื่อตัวของเด็กเอง และต้องสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เพราะสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง

 

นายแทนคุณ กล่าวเพิ่มเติมในส่วนของพัฒนาการของเด็ก 8 ขวบ ควรจะต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพราะจากการไลฟ์สดสอนธรรม น้องนิ่งได้ไม่เกิน 3 นาที จากภาษากายค่อนข้างเครียด เหมือนจะต้องทำตามคำสั่งให้เสร็จตลอด มีปัญหาทางพัฒนาการแน่นอน และเด็กถูกใช้เป็นเครื่องมือการตลาด สร้างสตอรี่ที่เป็นเท็จ “ในอนาคตเด็กจะอยู่ยากมากๆ เป็นไปไม่ได้ถ้าจะไม่โดนทักจากคนภายนอก ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงพอถ้าโดนโจมตีในอนาคต ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการกระทำของผู้ที่เป็นพ่อเป็นแม่” นายแทนคุณกล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ