ข่าว

“จ่าคิงส์” ไหว้ขอโทษ ดาราสาว “อาย วราไพรินทร์”

สุดท้าย “อาย วราไพรินทร์” ดาราสาว บริสุทธิ์จริงไม่ได้ฉ้อโกงใคร “จ่าคิงส์” ยกมือไหว้ พร้อมแถลงขอโทษ ที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลให้ดี

อาย วราไพรินทร์ 26 มิ.ย.2567 กรณี จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ และ นายณัฐปกรณ์ สุดชา หรือ ทนายเจส พากลุ่มผู้เสียหาย กว่า 20 คน เข้าพบพนักงานสอบสวน กองปราบปราม เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2566 และ 12 ก.พ.2567 เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ดาราสาว อาย วราไพรินทร์ ธนวริสพร นักแสดงจากซีรี่ส์ดัง ในข้อหา ฉ้อโกง ประชาชนด้วยการจัดคอร์สอบรม และชักชวนทำธุรกิจส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไ ปวางจำหน่ายในห้างดังที่ดูไบและประเทศบาห์เรน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท ที่ กองปราบปราม 

ต่อมา วันที่ 20 ก.พ.2567 นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พา อาย วราไพรินทร์ เข้าพบพนักงานสอบสวน กองปราบปราม โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ มาประกอบการชี้แจงยืนยันความ บริสุทธิ์ ใจ โดยเปิดเผยว่า “มีการประกอบธุรกิจส่งออกจริง และในเรื่องความผิดพลาดการบริหารงาน ก็มีการชดเชยให้กับลูกค้าแล้ว”

 

นายรณณรงค์ กล่าวว่า ทาง กองปราบปราม ยังไม่ได้รับเป็นคดี ส่วนตัว อาย วราไพรินทร์ ก็จะให้การเพิ่มเติม ตนดูแล้วไม่น่าจะเป็นการ ฉ้อโกง  ซึ่งร้านก็มีจริง สินค้า/ของ ที่นำไปขายก็จริง แค่ขายได้ไม่ตามยอดเท่านั้น

 

ทั้งนี้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายออกมาให้ข่าวมีการแถลงข่าวฝ่ายเดียว ทำให้ข้อมูลที่สื่อมวลชนนำไปรายงาน ไม่ครบถ้วน เพื่อความเป็นธรรม ทั้งสองฝ่ายจึงนัดแถลงข้อมูลที่ถูกต้องในวันนี้

 

เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จ่าคิงส์ กล่าวว่า อยากขอโทษ อาย วราไพรินทร์ ที่ไม่ได้ตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน และเอกสารก็ครบแล้ว ถอนแจ้งความแล้ว ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนของตน ที่เวลามีคนมาร้องขอความช่วยเหลือต้องเช็ก ข้อมูลหลักฐานให้ดีๆ ก่อนนำข้อมูลนั้นมาเผยแพร่ ขอโทษจากใจจริง แบบลูกผู้ชาย ทำผิดก็ต้องยอมรับผิด

 

ด้าน อาย วราไพรินทร์ กล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้รับผลกระทบหนักพอสมควร  ได้รับความเสียหายที่ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของหน้าที่การงาน และหน้าตาชื่อเสียงในสังคม โดยตลอดระยะเวลาที่เป็นข่าว ตนโดนตราหน้าว่าเป็น ดาราโกง ต้มตุ๋น มิจฉาชีพ ลูกค้ายกเลิกงานของตนทุกชิ้น  มีผลกระทบต่อพาร์ทเนอร์ ธุรกิจอื่นๆ จะไม่ขอร่วมงานกับตน จนกว่าทุกอย่างจะเคลียร์ และตนไม่กล้าออกไปเจอเพื่อน ไม่กล้าออกไปสังคม เพราะตนกลัวว่าจะโดนเพื่อนมองในทางที่ไม่ดี

 

เหตุการณ์ที่ตนรับไม่ได้ คือรับเป็นพรีเซนเตอร์ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่ง แล้วมีบุคคลมาคอมเมนต์ บอกว่าทำไมถึงเอามิจฉาชีพมาเป็นเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์นี้ ทำให้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ดีเห็นเจตนาดีของ จ่าคิงส์ ที่ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตนเสียหาย เพียงแค่ต้องการที่จะช่วยเหลือคนอื่น แต่ไม่ตรวจสอบให้ดีเอง ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แน่นอนว่าตนอาจจะถูกกลั่นแกล้ง จากบุคคลที่ไม่ได้ชอบตน บุคคลเหล่านั้นชอบทักไปก่อกวน และพยายามขัดขวางเรื่องธุรกิจของตนทุกอย่าง

 

สุดท้ายนี้ตนขอให้ จ่าคิงส์ ทบทวนบทเรียนครั้งนี้ และให้ จ่าคิงส์ ช่วยเหลือบุคคลอื่นๆต่อไป และตนก็จะกลับไปทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด หวังว่าทุกอย่างจะประสบความสำเร็จและเป็นไปในทางที่ดี ทั้งด้านของจ่าคิงส์และก็ตนต่อไป

ข่าวที่น่าสนใจ