ข่าว

ตั้งคณะกรรมการสอบสวน "ครูดนตรี" ล่วงละเมิด ให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ตั้งคณะกรรมการสอบสวน "ครูดนตรี" ล่วงละเมิด ให้ออกจากราชการไว้ก่อน

26 มิ.ย. 2567

ครูดนตรี สถาบันดังล่วงละเมิดเด็ก นานกว่า 2 ปี ถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเตรียมถอดบทเรียน ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก





จากกรณีด.ช. อายุ 14 ปี นักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนชื่อดัง ย่านเอกมัย ที่ถูกครูล่วงละเมิดทางเพศนานกว่า 2 ปี ข่มขู่ห้ามไม่ให้บอกใคร ซ้ำยังมีพฤติกรรมซาดิสต์ ทำร้ายร่างกายหลายครั้ง จนเด็กทนไม่ไหว ตัดสินใจบอกผู้ปกครองตามที่มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้



วันนี้ (26มิ.ย.2567) เวลา 14.30 น. นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงานสายไหมต้องรอด และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันประชุมหารือถึงเรื่องที่เกิดขึ้น รวมถึงมาตรการการเยียวยาผู้เสียหาย 

 

 

ภายหลังการประชุมร่วมกันกว่า 1 ชั่วโมง คณะประชุมได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า เบื้องต้นได้จัดตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งจะให้รายงานผลทุก ๆ 7 วัน และให้ครูคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนโดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะประสานสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาให้พิจารณาพักใช้ใบอนุญาตชั่วคราว 
 





โดยหลังจากนี้ จะถอดบทเรียนและจะกำชับไปยังทุกโรงเรียนที่อยู่ภายใต้สังกัด สพฐ. ว่า ต่อไปนี้หากมีกิจกรรมหลังเลิกเรียน หรือครูต้องอยู่ลำพังกับลูกศิษย์ จะต้องมีผู้ควบคุมเข้ามาสังเกตุการณ์ ห้ามปล่อยให้ลูกศิษย์อยู่ตามลำพังกับอาจารย์

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ตกลงร่วมกันว่าจะมีการเยียวยาสภาพจิตใจผู้เสียหาย โดยจะประสานนักจิตวิทยา กรมสุขภาพจิต เข้ามาดูแล ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้เสียหาย ก็ยืนยันว่า มีความประสงค์ที่จะศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ต่อ เพราะผู้เสียหายชื่นชอบวิชาดนตรี

 

ด้าน นายสมศักดิ์ สนกนก ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนมารับตำแหน่งได้เพียง 6 เดือน ซึ่งตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ตนมาเป็น ผอ. ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ปกครองหรือนักเรียนคนใดมาร้องเรียนที่โรงเรียนแต่อย่างใด และตนเพิ่งมาทราบเรื่องราวทั้งหมดวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ผู้เสียหายมาเล่าให้ผู้ปกครองฟัง โดยหลังเกิดเรื่องตนก็ได้ชี้แจงไปที่สำนักงานเขตฯ เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


 
ส่วนแชทที่ปรากฏในสื่อว่ามีบุคลากรในโรงเรียนคุยกับผู้ปกครองของผู้เสียหายในลักษณะเจรจาขอไกล่เกลี่ยนั้น ทาง ผอ.เพิ่งมาทราบเรื่องจากข่าว และยังไม่ได้เรียกบุคคลดังกล่าวมาพูดคุยแต่อย่างใด เนื่องจากตอนนี้มีกิจกรรมในโรงเรียนค่อนข้างเยอะ แต่ยืนยันว่าบุคลากรดังกล่าวกระทำการโดยพละการ ไม่ได้มีการปรึกษาคณะผู้บริหารโรงเรียนแต่อย่างใด 

 

ทั้งนี้ ตนในฐานะ ผอ. ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้ปกป้องครูตามที่เป็นข่าว เพราะทันทีที่ทราบเรื่องตนก็ได้รีบรายงานไปที่สำนักงานเขตโดยทันที