ไม่รอด ตำรวจบุกรวบแก๊งสาวสอง บังคับสาว 22 ขัดดอกใช้หนี้
ไม่รอดทั้งแก๊ง ตำรวจบุกรวบแก๊งสาวสอง บังคับสาว 22 ปี ค้าบริการใช้หนี้ ฟัน 8 ข้อหาค้ามนุษย์ ผู้ต้องหาโต้กักขังหน่วงเหนี่ยว
กรณี นางสาวเอ นามสมมุติ อายุ 22 ปี ถูกสาวประเภทสอง รูปร่างใหญ่ พร้อมพวกรุมทำร้าย บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยพัทยาพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยกล้องวงจรปิดแลชาวบ้านบันทึกคลิปไว้ได้
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.35 น. ของวันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่องจาก กลุ่มผู้ก่อเหตุยังบังคับให้ค้าบริการใช้หนี้แทน หลังจากที่ไปเซ็นค้ำประกันไว้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างการ ติดตามตัวผู้ก่อเหตุตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น .
ล่าสุด 27 มิ.ย. 2567 เมื่อเวลา 01.00 น. พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รองผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา ร.ต.อ.ศราวุฒิ สุดสวาท รอง สว.กก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ตำรวจภาค2 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวนกลาง ปราบปรามการค้ามนุษย์
บุกไปจับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยาเลขที่ 343,344,345,346,347/2567 โดยนำกำลังไปจับกุมได้ที่ร้านสักลาย ภายในซอยรุ้งแลนด์ พัทยาใต้ ม.10 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้งหมด 5 ราย ประกอบด้วย
- นายภูวนัย (สงวนนามสกุล) หรือ เก๋ (เมชิ) อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด
- นายกิตติธร นัย (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี
- น.ส.ดวงกลม นัย (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี
- น.ส.ดวงพลอย (สงวนนามสกุล) ชาวจังหวัดจังหวัดกำแพงเพชร
- นายนเรศ นัย (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี
ขณะกำลังนั่งเล่นเกมกันอย่าง เพลิดเพลิน ก่อนควบคุมตัวทั้งหมด มาสอบสวนยัง สภ. เมืองพัทยา
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่า ไม่มีใครกักขังหน่วงเหนี่ยว น.ส.เอ ผู้เสียหาย แต่อย่างใด โดยจากสภาพร้านสัก เป็นร้านห้องกระจก เปิดให้บุคคลเข้าออกอย่างเสรี ไม่มีการใช้เชือกมัด หรือล่ามไว้ น.ส.เอ ยังคงออกไปซื้อข้าว ซื้อน้ำ หรือทำธุระส่วนตัวได้ตามปกติ ส่วนเรื่อง เงินกู้จำนวน 90,000 บาท และ 30,000 บาท นั้น เป็นเรื่องของ น.ส.เอ ที่ไปกู้เงินกับบุคคลอื่น ไม่เกี่ยวกับพวกตน และไม่เคยบังคับขู่เข็ญให้ น.ส.เอ ไปกับลูกค้า เพื่อหาเงินมาใช้หนี้
น.ส.เอ ยินยอมด้วยตนเอง พวกตนไม่สามารถไปบังคับได้ สำหรับเรื่องบุกไปทำร้ายร่างกายนั้น เป็นเรื่องของการทวงเงินจำนวน 5,000 บาท เป็นเงินค่าห้อง ที่นายเก๋ (เมชิ) สำรองจ่ายให้ น.ส.เอ ก่อน แต่ น.ส.เอ ไม่ยอมชดใช้ จึงพาพวกบุกไปทวงที่ห้องพัก น.ส.เอ ยอมออกมาเคลียร์ ฝ่ายพวกตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจเอง เพื่อให้ไปเรียก น.ส.เอ มาไกล่เกลี่ย ตามภาพคลิปวิดีโอที่ปรากฎ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ถูกแจ้งทั้งหมด 8 ข้อหา ได้แก่
1.สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์ โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือ ส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ หลอกลวง เพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป และได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน
2.ร่วมกันค้ามนุษย์ตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยเป็นธุระจัดหา พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ หลอกลวง เพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี
3.ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใด เพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้น จะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ
4.ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจารซึ่งหญิง โดยใช้อุบายหลอกลวง ยู่เข็ญ ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใดๆ
5.ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกชมขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือ จำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
6.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
7.ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
8.ร่วมกันบุกรุกตั้งแต่สองคนขึ้นไป ส่วน นายภูวนัย หรือ เก๋ อายุ 21 ปี ถูกแจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์ เพิ่มอีก 1 ข้อหา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดโดยละเอียดอีกครั้ง ก่อนควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป