ข่าว

ยืน 3 ศาลประหาร "บรรยิน" ฆ่าอำพราง "เสี่ยชูวงษ์"

ยืน 3 ศาลประหาร ‘บรรยิน’ฆ่าอำพราง’เสี่ยชูวงษ์’ ่ความผิด ร่วมกันอุ้มฆ่า อำพรางศพ พี่ชายผู้พิพากษาหญิงอดีตเจ้าของสำนวนโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ หลังศาลชั้นต้นพิพากษา ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืนประหารชีวิต

บรรยิน ถูกจับกุมดำเนินคดี




คดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมกับพวก 6 คน ร่วมกันอุ้มฆ่า อำพรางศพ พี่ชายผู้พิพากษาหญิงอดีตเจ้าของสำนวนโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ พิพากษาประหารชีวิต แต่นายบรรยินให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า นายเอนก คำชุ่ม ทนายความฝั่งญาติ นายชูวงษ์ กล่าวว่าวันนี้ช่วงเช้า ศาลอาญาพระโขนงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้ โดยศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิตนายบรรยิน เเต่ในรายละเอียดต้องรอคัดคำพิพากษามาดูอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่ศาลอาญาพระโขนง ถ.สรรพาวุธ ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ กับพวก และพนักงานอัยการ ร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-5 ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ หลายสมัย เป็นจำเลย


ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7)

 

บรรยิน ผู้ต้องหาคดีสำคัญ

 

คดนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 นายชูวงษ์ อายุ 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม. ชนต้นไม้ มี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้างๆ โดยชนต้นไม้ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.


เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ถึงแก่ความตาย ซึ่งโจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แต่ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย ให้การปฏิเสธอ้างเป็นอุบัติเหตุ เหตุเกิดที่ ต.บางโฉลง กับ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และแขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเกี่ยวกัน

 

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 64 การกระทำของจำเลยกับพวก จึงเป็นการร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิด เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ คบคิดกับพวกด้วยการวางแผนและลงมือฆ่าผู้ตาย ปกปิดการกระทำโดยสร้างเรื่องและอำพรางคดีว่าสาเหตุการตายของผู้ตายเกิดจากอุบัติเหตุ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7) ประกอบมาตรา 83 ให้ลงโทษประหารชีวิต

 

ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ 

 

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2565 ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงที่ยื่นอุทธรณ์มาฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน