ข่าว

“สตม.” ไล่ล่าล็อกตัว หัวหน้าแก๊งนางาโทโมะ ก่อเหตุที่ญี่ปุ่น 111 คดี

“สตม.” เช็กบิลต่างชาติก่อคดีใหญ่ รายแรก "หัวหน้าแก๊งนางาโทโมะ" ก่อเหตุโชกโชนที่ญี่ปุ่น 111 คดี อีกรายสาวจีนโกงแชร์ 150 ล้าน รวมถึง 2 หนุ่มแดนโสม โกงแชร์รถหรู 109 ล้าน

27 มิ.ย.2567 เวลา 13.30 น. สตม. นำโดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม. และ พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม. แถลง จับกุม ผู้ต้องหารายสำคัญ

 

รายแรก จับกุม นายมิโยชิ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ชาวญี่ปุ่น หัวหน้ากลุ่มโจรกรรมและ หัวหน้าแก๊งมอเตอร์ไซต์นางาโทโมะ ได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยพบว่า อยู่ในประเทศไทยเกินกำหนด

 

จึงประสานสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ตรวจสอบประวัติ พบว่ากระทำความผิดในประเทศญี่ปุ่น ในช่วงปี 2565 ในคดีโจรกรรมและบุกรุก ในพื้นที่ 5 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น รวม 111 คดี มูลค่าความเสียหายรวม 13,000,000 เยน (ประมาณ 3 ล้านบาท)

โดยคดีนี้ พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส. สตม. เกรงว่านายมิโยชิ จะก่อคดีโจรกรรมในประเทศไทย จึงให้ กก.1 บก.สส. สตม. เร่งสืบสวนติดตามหาตัวนายมิโยชิ

 

พบข้อมูลว่า นายมิโยชิ กำลังจะลักลอบเดินทางออกไปยังประเทศกัมพูชาทางชายแดนด้าน จ.สระแก้ว จึงได้นำกำลังไปสกัดกั้นตามแนวชายแดน จนนายมิโยชิต้องกลับมาหลบซ่อนตัวในกรุงเทพฯ

 

โดยนายมิโยชิ อำพรางตัวโดยใช้ชื่อตัวเองเช็คอินตามโรงแรมหรู แต่ให้เพื่อนเข้าพักแทน

 

หลังจับกุม จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดี ในข้อหา เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และจะได้ดำเนินการส่งกลับไปยังประเทศญี่ปุ่นต่อไป

 

รายที่สอง จับกุม น.ส.ฮู อายุ 24 ปี สาวจีน ได้ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ถนนพัทยาสาย 2 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่ามีประวัติคดี โกง แชร์ลูกโซ่ กว่า 150 ล้านบาท และข้ามแดนผิดกฎหมาย จึงประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจําสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย

 

โดยพฤติการณ์ พบว่า น.ส.ฮู อ้างว่าจะมีการระดมทุนเพื่อเข้าไปซื้อหุ้นของแอปพลิเคชั่นหนึ่ง มีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อยอมลงทุนซื้อหุ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 150 ล้านบาท  

 

สอบสวน น.ส.ฮู รับว่า ลักลอบเข้าประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เขตติดต่อ จ.เชียงราย จึงนำส่ง สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีในข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเมื่อคดีสิ้นสุดจะได้ผลักดันส่งกลับไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป

 

รายที่สาม กก.4บก.สส. สตม. จับกุม นายฮาน (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี และนายคิม (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี สัญชาติ เกาหลีใต้ ได้ที่ ริมถนน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่

 

หลังพบว่าเป็นไกด์เถื่อน และมีประวัติคดี โกง แชร์รถหรู มูลค่าความเสียหายกว่า 109 ล้านบาท รวมทั้งอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุดด้วย นำส่งส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดี

 

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคน รับว่า จะรับนักท่องเที่ยวชาว เกาหลีใต้ ที่จะเข้ามาเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ โดยมีรายได้ต่อครั้ง ในการรับงานขั้นต่ำคือ 10,000 - 15,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนวันและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องดูแล โดยจะมีการโพสต์บนโซเชียลในการเป็นไกด์ส่วนบุคคล ทำมาแล้วประมาณ 2 เดือน

 

จากการตรวจสอบประวัติ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐ เกาหลีใต้ ประจําประเทศไทย และฝ่ายประสานงานการตำรวจไทย-เกาหลีใต้ กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าทั้งคู่เป็นผู้กระทำผิดในคดี แชร์รถหรู มีผู้เสียหายกว่า 60 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 109 ล้านบาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ