ข่าว

"บิ๊กโจ๊ก" ไม่ได้จ้างคนใต้กดดัน ก.พ.ค.ตร. แซะ นายกฯ โม้ บอกจะให้ความเป็นธรรม

"บิ๊กโจ๊ก" ยืนยันไม่ได้จ้าง ไม่ปลุกระดม "ชาวใต้" กดดันผลสอบ ก.พ.ค.ตร. เผยเป็นคนใต้ ถูกรังแกต้องสู้ด้วยตัวเอง แซะ "นายกฯ" โม้ บอกจะให้ความเป็นธรรม ป่านนี้ยังไม่เห็นอะไร

สมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมให้กำลังใจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคมและกรรมการบริหารสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ โดยเชิญพี่น้องประชาชนและพี่น้องสมาชิกชาวใต้ ทั้ง 14 จังหวัดประชุมสมาคม 

 

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ขอขอบคุณชาวปักษ์ใต้ที่มาให้กำลังใจ เพราะขณะที่ตนเองแต่งเครื่องแบบ ไม่เคยเห็นปรากฎการณ์แบบนี้ แต่พอถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน สามารถกินข้าวหรือเดินริมฟุตบาท ข้ามแยกไฟแดง ประชาชนที่ตนเองไม่รู้จักก็จอดรถเปิดกระจกให้กำลังใจ สิ่งนี้จึงเป็นการบ่งบอกว่า ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา จากงานที่ตนทำเพื่อแผ่นดิน เมื่อไรที่ตำรวจทำงาน ประชาชนจะรู้ จึงขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้ตนเอง
 

ส่วนประชาชนที่มา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ไม่มีการจัดตั้ง เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีการทำโพล ก็พบว่าประชาชน 78% เชื่อมั่นว่าตนเองได้กลับ สิ่งเหล่านี้ คือ พลังบริสุทธิ์ นิสัยตนเองไม่ชอบจัดตั้ง วันนี้การจัดตั้งหรือไม่นั้น โกหกกันไม่ได้ จึงยืนยันว่า ไม่ได้ไปจัดตั้ง ไม่ได้ไปจ่ายเงินจ้างให้เขามาแน่นอน และตนเองไม่ได้เป็น สส. สว. ไม่ได้เป็นนักการเมือง

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

ส่วนจะเป็นการเอามวลชนไปกดดันการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร. หรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่ได้มีความคิดเช่นนั้น ในโซเชียลทุกวันนี้ประชาชนให้กำลังใจตนเองเยอะมาก และตนเองเชื่อมั่นว่า ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ ถ้าตำรวจถูกดำเนินคดี ประชาชนจะสาปแช่ง แต่ตนเองถูกดำเนินคดีประชาชนอยากให้กำลังใจ อยากให้กลับไปทำงาน แม้จะรู้ว่าองค์กรตำรวจต้นทุนต่ำ แต่ตนเองก็ภูมิใจในตัวเองว่าได้บังคับใช้กฎหมายให้ประชาชนเกิดความเท่าเทียมกัน ทำให้วันนี้ไม่มีอะไรให้ตนเองต้องไปจัดตั้ง

 

ปกติการประชุมสมาคมตนเองไม่ได้มาร่วม แต่ตอนนี้มีเวลาว่างเยอะ จึงได้เอามาใส่ใจรายละเอียดสมาคมชาวปักษ์ใต้ให้มากขึ้น มาทำสิ่งที่บรรพชนสร้างเอาไว้และในยุคของตนเองก็จะรีโนเวทสมาคมใหม่ทั้งหมด ซึ่งสมาคมทำไว้เพื่อลูกหลาน

"การต่อสู้ของตนเอง ไม่ได้เป็นการดึงสมาคมชาวปักษ์ใต้มาเกี่ยวข้อง เป็นลักษณะนิสัยของคนใต้ที่ไม่ทิ้งกัน รักใครรักจริง ถ้าถูกรังแกก็จะต่อสู้ และเมื่อผมถูกรังแกก็จะต้องต่อสู้ เพราะผมไม่ได้ไปยกมือไหว้ใคร ขอร้องใคร ไม่ได้เอาสมาคมมาเกี่ยว แต่เป็นศักดิ์ศรีของคนใต้ ไม่ใช่ว่าผมแพ้แล้วคนจะใต้จะแพ้ แต่ผมเป็นความหวังของคนใต้ จึงต้องต่อสู้ว่าความยุติธรรมอยู่ที่ไหน และคนใต้เป็นนักต่อสู้ จบกฎหมายเยอะ เมื่อผมเป็นลูกชาวใต้ ก็ต้องเดินตามรอยของผู้ใหญ่ และวันนี้คนใต้มีความเข้มแข็งและรักกัน ไม่ทิ้งกัน" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

 

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ออกมาให้ความเห็นไปในทิศทางเข้าข้าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่คนอื่นๆออกมาให้ความเห็นต่างนั้นมองอย่างไร มองว่า การที่ออกมาให้กำลังใจก็เป็นเรื่องดี และการแสดงความคิดเห็นเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องที่สังคมก็ฟังไป สุดท้ายการตัดสินอยู่ที่กระบวนการของกฎหมาย ของ ก.พ.ค.ตร. ก็ต้องให้กระบวนการเขาว่าไป
   
ทั้งนี้หากใครจะฟ้องตนเองกลับ ก็ไม่มีปัญหา แต่การจะฟ้องใครอยู่ที่พยานหลักฐาน ซึ่งตนเองก็ฟ้องไปตามพยานหลักฐาน ถ้าไม่กระทบสิทธิใครก็คงไม่ฟ้อง


จากนั้นพี่น้องชาวปักษ์ใต้ดอกไม้มามอบให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เจ้าตัวกล่าวช่วงหนึ่งว่า การที่ตนเองถูกกระทำโดนรุมกินโต๊ะจีน แต่ท่านไม่ต้องห่วง วันนี้กำลังต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของตัวเอง หากไม่ต่อสู้ แล้วต่อไปจะไปให้ความยุติธรรมกับคนใต้และคนภาคอื่นได้อย่างไร วันนี้เรื่องความยุติธรรมเป็นเรื่องใหญ่ ในเมื่อไม่ได้รับจากระบบก็ต้องได้รับจากการต่อสู้ ท่านจะเห็นว่า "แป้ง นาโหนด" ก็เป็นคนใต้บ้านเรา ที่ต้องหนีมันเกิดจากความยุติธรรม  


พร้อมยกตัวอย่าง บางประเทศไม่มีทะเลแต่มีกองทัพเรือ เหมือนกับประเทศไทยที่ไม่มีความยุติธรรมแต่ก็มีกระทรวงยุติธรรม ดังนั้นตนเองต้องเป็นต้นแบบของความยุติธรรม อย่างเช่นที่เคยทำหน้าที่ทุกครั้ง สำหรับตนเองจะเป็นอะไรก็ได้ เป็นชาวบ้านธรรมดาก็ได้ แต่ต้องถูกต้องและเป็นธรรม หากไม่ถูกต้องก็ต้องต่อสู้ 
    

"ซึ่งที่นายกรัฐมนตรี บอกว่า จะให้ความเป็นธรรมผม แต่สิ่งที่นายกฯพูดแค่วลี วาทกรรม ถ้าภาษาใต้คือ โม้ ทุกวันนี้ไม่เห็นทำอะไรเลย ที่เคยบอกว่าจะแก้หนี้นอกระบบ ทุกวันนี้คนยังอยากผูกคอตายอยู่เลย วันนี้สิ่งที่เป็นคนต้องการคือ ความโปร่งใส ดังนั้นจึงฝากถึงชาวใต้ว่า ไม่ต้องกังวลใจ และยืนยันจะเดินหน้าต่อสู้เพื่อความยุติธรรมแน่นอน" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวทิ้งท้าย 

ข่าวที่น่าสนใจ