เล่าทั้งน้ำตา "รถผู้ต้องหา" ถูกตร.ไล่จับกุม "ชนกำแพงบ้าน" ไร้คนรับผิดชอบ

29 มิ.ย.2567 กรณีเพจโชเซียลฮันเตอร์โพสต์คลิปและข้อความว่า เร็ว แรงส์ ทะลุกำแพง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่รถสายตรวจ ตำรวจ สภ.ปลายบาง จ. นนทบุรี ขับรถสายตรวจไล่ติดตาม รถผู้ต้องหา ก่อนที่ รถผู้ต้องหา จะเสียหลักพุ่ง ชนกำแพงบ้าน หลังหนึ่ง ซึ่งเปิดเป็น ร้านบ้านเครปริมคลอง ได้รับความเสียหาย กำแพงถูกชนเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่

 

เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ร้านบ้านเครปริมคลอง เลขที่ 104/2 หมู่ 2 เชิงสะพานคลองยายส่อน ต.ศาลากลาง อ. บางกรวย จ. นนทบุรี พบกับ น.ส.นิภา อายุ 34 ปี เจ้าของร้านเครป เป็นภรรยาเจ้าของบ้าน พาเดินสำรวจกำแพงบ้านที่ถูกรถชน จนได้รับความเสียหาย

โดยพบว่ากำแพงหน้าบ้าน ตั้งอยู่เชิงสะพานคลองยายส่อน ได้รับความเสียหาย แตกเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ เสากำแพงและคานปูนแตกได้รับความเสียหายทั้งหมด

 

น.ส.นิภา เปิดเผยทั้งสะอื้นว่า เปิดร้านเครปมา 2 ปี วันเกิดเหตุ วันที่ 25 มิ.ย.2567 เวลา 07.00 น. ขณะตนอยู่บนบ้าน ตอนแรกได้ยินเสียงดังของไซเรนรถ ตำรวจ มาก่อน สักพักได้ยินเสียงดังโครม และเสียงคนตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่าหยุดๆ ตนจึงเปิดหน้าต่างดู พร้อมกับถ่ายคลิปไว้ เมื่อลงมาดูเห็นรถยนต์ของคนร้าย พุ่ง ชนกำแพงบ้าน แล้ว

 

 

ได้สอบถามคนขับรถจยย.ที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่าเห็นรถตำรวจไล่กวดกับรถยนต์คันนี้มาจากทางวัดบัว แล้วขับรถย้อนศร ก่อนที่รถยนต์จะมาพุ่งชนรั้วบ้านตน มีคนเห็นเหตุการณ์บอกว่ารถ ตำรวจ ชนท้าย รถผู้ต้องหา จนเสียหลักพุ่ง ชนกำแพงบ้าน ตนอย่างแรง

 

จากนั้นคนในรถ 2 คน วิ่งหลบหนีเข้าไปในซอย 1 คน แล้ววิ่งตรงไปบนถนนอีก 1 คน แล้วมีเสียงปืนดังขึ้นที่ท้ายซอย โดยที่คนร้ายวิ่งหลบหนีไปได้

 

หลังเกิดเหตุด้วยความตกใจ จึงได้เดินไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับ ถามหาความรับผิดชอบที่ รถผู้ต้องหา ชนกำแพงบ้าน พังเสียหาย โดยทางตำรวจบอกให้ตนรอให้ทางตำรวจตามจับคนร้ายให้ได้เสียก่อน แล้วจะให้ฝ่ายคนร้ายเป็นฝ่ายที่ต้องมาชดใช้ให้

 

ตนก็ยิ่งสงสัยหนักอีกว่า ในเมื่อคนร้ายหนีไปแล้ว จะให้ทำยังไง แล้วกำแพงจะได้ซ่อมเมื่อไหร่ ตนเป็นแค่ชาวบ้านจะไปรู้เรื่องอะไร ทำไมตำรวจไม่คิดจะมาช่วยเหลือซ่อมแซมกำแพงให้

 

เหตุการณ์ผ่านมา 4 วันแล้ว อายที่คนผ่านไปผ่านมาก็มองกำแพงบ้านพังแล้วยังไม่ได้ซ่อม  ลูกค้าที่จะมาซื้อเครปก็ไม่กล้ามาซื้อ ทุกข์ใจและกังวลมาก เหมือนถามหาความรับผิดชอบกับใครก็ไม่ได้ อย่างน้อยมาช่วยซ่อมแซมรั้วกำแพงบ้านไม่ให้น่าเกลียดก็ยังดี

 

ด้าน นายวิชัย อายุ 52 ปี เล่าว่า หลานสาวตนอายุ 6 ปี กำลังจะไปโรงเรียนตอนเช้า ยืนอยู่ตรงโรงรถท้ายซอยตำรวจไล่กวดไล่ยิงคนร้ายเข้ามาในพื้นที่บ้านของตน ซึ่งบ้านตนมีทั้งแม่ทั้งหลานสาวอยู่ ถามว่าเรื่องแบบนี้มันสมควร มันถูกต้องตามหลักการไหม ถ้าเกิดมีใครช็อกหรือกระสุนพลาดไปถูกใคร ใครจะรับผิดชอบ ขนาดกำแพงรั้วบ้านพังแค่นี้ตำรวจยังไม่รับผิดชอบเลย มันถูกต้องไหมที่จะให้เจ้าของบ้านมาซ่อมเอง

 

ขนาดคำขอโทษยังไม่มีสักคำ ทั้งๆที่เข้ายิงปืนใส่บ้านแบบนี้

 

ทั้งนี้เบื้องต้น ทราบว่า รถที่พุ่งชนกำแพงบ้าน เป็นคนร้ายที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในพื้นที่