ข่าว

"บิ๊กเต่า เผย ไม่สนใจ ปมฟ้องหมิ่นฯ ลั่น ให้กรรมทำงาน"

01 ก.ค. 2567

"บิ๊กเต่า เผย ไม่สนใจ ปมโดนฟ้องหมิ่นประมาท ลั่น ให้กรรมทำงาน" มุ่งหน้าทำงานเพื่อประชาชน เชื่อ ผลงานจะกู้ชื่อตำรวจ

จากรณีที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล ไปศาลอาญากรุงเทพใต้ เนื่องจากศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่ยื่นฟ้อง พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ปรากฏว่าทนายความของ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ได้เลื่อนเป็นครั้งที่ 2 พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์  จึงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าวว่า พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ "เก่งแต่นอกศาล"นั้น

 

พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนทำงานเพื่อส่วนรวมมาทั้งชีวิต ให้พูดถึงส่วนรวมจะต้องบอกว่าอยากให้ข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ "อย่าไปหวั่นไหวกับเหตุการณ์อะไรที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของปัจเจกคนเพียงคนเดียวมาทำให้องค์กรเสียหาย หากเราไปมุ่งหรือมองอยู่อย่างนี้จะทำให้เราไม่เป็นอันทำงานหรือสุขภาพจิตไม่ดี คนถ้าไม่ดีก็ขอให้กฎหมายบ้านเมืองว่าไป"

 

ส่วนเราคิดว่าเป็นตำรวจอาชีพที่ไม่ใช่อาชีพตำรวจก็ทำงานต่อไป อย่าไปคิดหรืออย่าไปท้อใจ เราสู้กับผู้ร้ายและคนกระทำผิดมาเยอะแล้ว ตำรวจที่คิดหรือทำไม่ดี วันนี้กฎหมายหรือบาปกรรม กำลังทำงาน ก็ปล่อยให้มันทำงานไป อย่าไปสนใจอะไรมากมุ่งหน้าทำงานให้พี่น้องประชาชน งานหรือผลงานต่างๆ จะเป็นสิ่งกอบกู้ชื่อเสียงของตำรวจให้ดีขึ้นถึงไม่ดีขึ้นก็เข้าใจมากขึ้น เราต้องอยู่กับคำติฉินนินทา แต่พวกเราก็ต้องมีความอดทน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในหน้าที่การทำงาน

 

 

 

“ผมกับเขาไม่ได้มีสาเหตุโกรธเคืองกัน คุยได้ทุกเรื่อง เมื่อก่อนผมทำงานด้านการปราบทุจริตจะเห็นว่าผมตั้งใจทำงาน มีหลายเรื่องที่ไปนั่งประชุมและเป็นคณะทำงานด้วย แต่หน้าที่คือหน้าที่เราต้องรักษาองค์กรเอาไว้ หากจะโกรธจะเกลียดก็ต้องอยู่ในใจ แต่หากทำถูกต้องและเรียกให้ไปช่วยทำ ผมก็ไปอยู่แล้วเพราะเป็นหน้าที่ จะโกรธจะเกลียดเอาไว้ทีหลังนอกจอ แต่ในจอเราตำรวจอาชีพเราก็ต้องทำ“ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว

 

ถามว่าจะเผาผีกันหรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ บอกว่า ถ้าตาย ก็เอาพวงหรีดไปให้ และใส่ซองไปงานด้วย เพราะผมเป็นลูกผู้ชายตัวจริง ตายไปเพราะจะได้อโหสิกรรมกัน หากป่วยคงไม่ไปเยี่ยม เพราะมีญาติพี่น้องดูแล แต่ถ้าจะสั่งเสียอะไรก็บอกกัน