"บิ๊กต่อ-บิ๊กต่าย" แถลง ผลงานครั้งใหญ่ ยุทธการ "พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767" | คมชัดลึก

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นำแถลงข่าวผลปฏิบัติการ "พิทักษ์ประชาราษฎร์ 767" ปราบกลุ่มผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและแก๊งอาชญากรรมทั่วประเทศ พร้อมนำของกลางจากการตรวจยึดมาแสดง

 

โดยการปฎิบัติงานดังกล่าวผู้บัญชาการได้ สั่งการให้ทุกกองบัญชาการตำรวจทั่วประเทศออกปฎิบัติงาน ทั้งตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาค1-9 ดำเนินการกวาด ล้างอาชญากรรมทั้ง 183 จุด เป้าหมายการจักกุมผู้กระทำผิด 200 ราย

 

ซึ่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นตัวกลางหลักในการประสานงานและกวาดล้างจับกุม โดยเมื่อวานนี้พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ์ เป็นผู้สั่งการผ่านห้อง Realtime Crime Center  

สำหรับผลปฏิบัติการดังกล่าว ได้ดำเนินการเข้าจับกุมเป้าหมายทั้งแก๊งอาชญากรรม แก๊งเงินกู้ทวงหนี้โหด  ผู้มีอิทธิพลซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่น กลุ่มฮั้วประมูล  และบุกรุกที่สาธารณะ

 

โดยผลปฏิบัติการที่สำคัญ อาทิ แก๊งฮั้วประมูลกำนันนก ,เครือข่ายศักดิ์ ปากรอ ซึ่งผลการปฎิบัติงานของแต่ละกองบัญชาการเป็นดังนี้ 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จำนวน 6 เป้าหมาย และ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-7  จำนวน 13 เป้าหมาย

โดยผลจากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 87 ราย ตรวจยึดของกลางได้ดังนี้

ปืนไม่มีทะเบียน 745 กระบอก  

ปืนมีทะเบียน 134 กระบอก

อาวุธสงคราม 2 กระบอก

วัตถุระเบิด 3 ลูก

 ไซเลนเซอร์ 2 อัน

กระสุนปืน 6,936 ลูก

แมกกาซีน 40 อัน

ยาบ้า 7 ล้านเม็ด

ยาไอซ์ 545.98 กรัม

ยาเค 114.41 กรัม

ยาอี 403 กรัม

รถยนต์ 40 คัน

รถจักรยานยนต์ 79 คัน

สมุดบัญชี 13 เล่ม

บัตรกดเงินสด 3 ใบ

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า นอกจากปฏิบัติการอาชญากรรมและกลุ่มผู้มีอิทธิพลแล้ว จะมีการปราบปรามยาเสพติดรายใหญ่อีกด้วย ถือเป็นปฏิบัติการรายใหญ่ที่สุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการปราบปรามอาชญากรรมอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ ทางตำรวจยังได้เฝ้าจับตาดูบรรดา influencer อาชญากรรมรุ่นใหม่ ที่พยายามโฆษณาหรือเล่าเกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งอาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนและคนรุ่นใหม่ ทางตำรวจสืบสวนมีข้อมูลของแก๊งอาชญากรรม influencer เหล่านี้ไว้หมดแล้วและจะดำเนินการขยายผลจากกลุ่มต่อไป 

 

ทางด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการประกาศชนท้ายปราบปรามอาชญากรรม และผู้มีอิทธิพลทุกรูปแบบอย่างจริงจัง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยิ่งพบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์และพิทักษ์ประชาราษฎร์ ซึ่งจะมีปฏิบัติการในลักษณะแบบนี้อย่างต่อเนื่อง

ปฎิบัติการในครั้งนี้ถือเป็นจุดเร่ิมต้นของการประกาศสงครามว่านับแต่นี้ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอธิพลทุกรูปแบบอย่างจริงจัง

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้กับประชาชน สำหรับประชาชนที่ให้ข้อมูลเบาะแสสำคัญจะได้รับความคุ้มครองและข้อมูลทุกอย่างจะเป็นความลับ