สกัดจับ “ส.อ.” เอเยนต์ยารายใหญ่ภาคอีสาน

3 ก.ค.2567 สืบจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ สืบภาค 3 นำโดย พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จว. อุบลราชธานี และ พ.ต.อ.ทศพร เพียรปรุ ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.3 สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จึงนำกำลัง ชุด ชป.ปส.ภ.จว.อุบลราชธานี ร่วมกับตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 บช.ปส.(นปส.อุบลราชธานี)

จับกุม ส.อ. วิทยา อายุ 52 ปี อดีต ทหาร สังกัด มทบ.22 นักค้ายา รายใหญ่ ภาคอีสาน พร้อม ยาบ้า 140,000 เม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก อาวุธปืนอัดลมยาว 2 กระบอก อาวุธปืนหน้าไม้ 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. 22 นัด ลูกกระสุนปืนแบลงค์กัน 7 นัด รถยนต์ 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

รวมทั้ง ตรวจยึดทรัพย์ ตาม พรบ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประกอบด้วย รถยนต์ 2 คัน แจ้งข้อหา ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)ไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย , เป็นผู้ขับขี่เสพยาบ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต  

โดย สกัดจับ ได้บริเวณ สี่แยกไฟแดงกุดลาด ต.กุดลาด อ.เมือง จ. อุบลราชธานี ต่อเนื่องบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.สส.ภ.จว. อุบลราชธานี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาบ้าเข้าในเขต อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยใช้เส้นทาง ถนนอุบล-ตระการ มุ่งหน้าเข้า อ.เมือง จึงได้ประชุมวางแผนการจับกุม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุด จับกุม เห็นรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำตาล ขับออกจากซอยหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.ไร่น้อย มุ่งหน้า อ.เมือง ลักษณะมีพิรุธ คล้ายมีสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขับรถติดตามไปจนถึงบริเวณ สี่แยกไฟแดงกุดลาด โดยรถยนต์คันดังกล่าวจอดติดไฟแดง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ

ทราบชื่อคนขับ ส.อ. วิทยา จากการตรวจค้นพบยาบ้า 47 มัด จำนวน 94,000 เม็ด

สอบสวน ส.อ.วิทยา รับว่า เป็นเจ้าของยาบ้าจริง และยังรับว่ามียาบ้าหลงเหลืออยู่ที่บ้านพักใน ต.ไร่น้อย จึงขยายผลตรวจค้นพบ ยาบ้าอีก 23 มัด จำนวน 46,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ท้ายรถเก๋งยี่ห้อ บีเอ็มดับบลิว และพบอาวุธปืนของกลาง

ส.อ. วิทยา รับด้วยว่า รับยาบ้ามาจากเครือข่ายยาเสพติดชาวลาว นำมาส่งให้กับเครือข่าย เพื่อจำหน่ายจังหวัดใน ภาคอีสาน โดยเฉพาะในพื้นที่ จ. อุบลราชธานี และ จ. ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดและขยายผลต่อไป