สาวส่งน้ำแข็ง ซิ่งกระบะตู้ทึบฝ่าสายฝน รถเสียหลักตกคลองลึก 3 เมตรดับ

3 ก.ค. 2567 เวลา 04.00 น. ร.ต.อ.ดิเรก คล้ายกองนา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หัวโทน จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกน้ำแข็ง ตกลงคลองข้างถนนลาดยาง สายบ้านตากแดด - บ้านเหม้า หมู่ 12 ต.หัวโทนอ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังรับแจ้ง จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยหลักหลักฮุกสุวรรณภูมิ

จุดเกิดเหตุ พบรถบรรทุกน้ำแข็งจมอยู่ในคลองข้างถนน เหลือเพียงส่วนบนโผล่ขึ้นมา ส่วนหัวเก๋ง คนขับ จมอยู่ในน้ำ หน่วยกู้ภัยจึงลงไปสำรวจ แต่เนื่องจากระดับน้ำลึกจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องขอนักประดาน้ำมาช่วยค้นหาใต้น้ำ จนกระทั่งสามารถลงไปดูใต้น้ำ พบว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ ออกมาไม่ได้ จนเสียชีวิต จึงนำร่างขึ้นมาจากน้ำ

ทราบชื่อ นางสาววนิดา (สงวนนามสกุล)  หรือ หนุ่ย อายุ 32 ปี ที่อยู่หมู่ 6 บ้านหนองบัวน้อย ต.ห้วยหินลาด อ.สุวรรณภูมิ จากการสอบสวน ทราบว่าก่อนเกิดเหตุนางสาววนิดาได้ขับรถบรรทุก 4 ล้อ ยี่ห้อ isuzu สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน ผข ร้อยเอ็ด ออกจากบ้านเวลา 01.00 น. ทุกวัน เพื่อเดินทางไปรับน้ำแข็งจากโรงงานผลิตน้ำแข็งหลอดแห่งหนึ่ง ในตัวอำเภอสุวรรณภูมิ ไปจำหน่ายให้กับลูกค้าตามหมู่บ้านต่างๆ

หลังจากรับน้ำแข็งเป็นที่เรียบร้อย จึงขับรถมุ่งหน้าออกมาเพื่อนำน้ำแข็ง ไปส่งให้ลูกค้าในขณะที่มีฝนตกหนัก คาดว่าขณะที่นางสาววนิดาขับรถฝ่าสายฝนมาถึงที่เกิดเหตุ ถนนลื่นรถเกิดเสียหลัก ลื่นไถลลงข้างถนนเป็นทางยาวประมาณ 30 เมตร ก่อนจะตกลงไปในคลอง ซึ่งมีความลึกประมาณ 3 เมตร จนทำให้ตนเองออกจากรถไม่ได้ จมน้ำเสียชีวิต

ด้านนายสุเวช (สงวนนามสกุล) ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า ขณะที่ตนขับรถกระบะมุ่งหน้าไปตลาด อ.สุวรรณภูมิ ท่ามกลางฝนตกหนัก ก็พบรถบรรทุกน้ำแข็งจมน้ำจนเกือบมิดหลังคาตู้น้ำแข็ง โดยไฟยังเปิดอยู่ ลงไปดู แต่ตนลงไปช่วยไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำลึก จึงโทรประสานหน่วยงานต่างๆ ให้มาช่วยเหลือแต่ก็ช่วยไม่ทัน

ส่วนนายสวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) เจ้าของรถบรรทุกน้ำแข็ง คันดังกล่าว ซึ่งทราบเหตุ และมายังที่เกิดเหตุ บอกว่านางสาววนิดา ลูกสะใภ้ของตนเอง เป็นคนขับรถส่งน้ำแข็งคนเดียวเป็นประจำ โดยในแต่ละวันจะออกจากบ้านตั้งแต่ประมาณ 01.00 น. เพื่อไปรับน้ำแข็งมาขาย ทำมานานแล้ว จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

ก่อนเกิดเหตุตนก็ไม่ได้ฝันบอกเหตุแต่อย่างใด แต่รู้สึกผิดปกติ เพียงแต่ว่าก่อนเกิดเหตุร้าย  ข้างบ้าน มีหมาเห่าหอนทั้งคืน แต่ออกไปดูก็ไม่พบอะไร ซึ่งก็ไม่เอะใจ หลังจากแพทย์ชันสูจน์ศพแล้ว จึงมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป