ข่าว

“บิ๊กโจ๊ก” ตอบชัดครั้งแรก ทุกปม “ป.ป.ช.”

"บิ๊กโจ๊ก" เปิดใจกับเนชั่นทีวี ตอบชัดทุกปมที่เกี่ยวโยง “ป.ป.ช.” เป็นครั้งแรก ทั้งบัญชีทรัพย์สิน ค่านายหน้าปล่อยเช่าพระ ทำไมถึงรู้จักกับคนในป.ป.ช. รวมถึงลูกน้องปลอมลายเซ็นพ่อตาจริงไหม

บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

4 ก.ค.2567 กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก เดินเกมกดดันผู้มีอำนาจให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่ยังไม่เป็นผล ทำให้  บิ๊กโจ๊ก เดินหน้ายื่นร้อง ป.ป.ช. เอาผิดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  เข้าข่ายความผิด ม.157 กรณีแต่งตั้ง บิ๊กต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. โดยมิชอบ 

 

โดยเมื่อวานนี้ (3 ก.ค.67)  บิ๊กโจ๊ก ได้หอบเอกสารหลายพันแผ่น เพื่อชี้แจงต่อ ป.ป.ช. กรณีที่ถูก ป.ป.ป.กล่าวหา เรื่องตบแต่ง บัญชีทรัพย์สิน ที่มีตัวละครหลายคน เข้ามาพัวพัน โดย บิ๊กโจ๊ก เปิดใจ กับเนชั่นทีวี  ย้ำว่า ตัวเขาเองอยู่ในกระบวนการที่ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงกับทาง ป.ป.ช. และยังไม่มีการชี้มูลแต่อย่างใด ดังนั้นบิ๊กโจ๊กยังอยู่ในฐานะผู้บริสุทธิ์

 

เริ่มจากประเด็นแรก คือ บัญชีทรัพย์สิน ทาง ป.ป.ป. มีข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เข้าไปมีส่วนพัวพัน ในการตบแต่ง บัญชีทรัพย์สิน เช่น การให้ เซียนพระ ชื่อดัง มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับนายหน้าค่า เช่าพระ โดย บิ๊กโจ๊ก ย้ำว่า สามารถชี้แจงได้หมดทุกประเด็น เพราะที่ผ่านมา ตนรายงานบัญชีทรัพย์สินอย่างตรงไปตรงมาตลอด ทุกครั้งที่ผมเข้า ออกจากการรับตำแหน่ง ฉะนั้นวันนี้จะไปสอบสวน เพื่อหาหลักฐานมากล่าวหา ก็ทำได้หมด แต่อยู่ที่ว่าจริงหรือไม่จริง และหากผิดจริง ป.ป.ช. ก็ต้องดำเนินคดี แต่ถ้าไม่ ก็ต้องยุติเรื่องกระบวนการมีแค่นั้น

บิ๊กโจ๊ก แจงปม อั๊ง เมืองชล ให้ค่านายหน้าเช่าพระ

 

เมื่อถามถึงกรณี เซียนพระ ที่อ้างไปถึงการขายพระให้กับอดีตผู้ว่าฯ และข้อมูลดังกล่าว เป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกกล่าวหา ทาง บิ๊กโจ๊ก ย้ำว่า ไม่ได้รู้จักอดีตผู้ว่าฯ แต่รู้จักกับ อั๊ง เมืองชล เมื่อตอนที่ซื้อขายพระเท่านั้น

 

และเมื่อ อั๊ง เมืองชล ไปติดต่อซื้อขายพระกับอดีตผู้ว่าฯ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา ว่า จะไปติดต่อใคร ส่วนตนเอง แค่ชี้ช่องว่าทางอดีตผู้ว่าฯ มีพระสะสมเยอะ เหมือนอย่างเช่น ตอนที่ดำรงตำแหน่ง เป็น ผกก.สภ.หาดใหญ่ ตนเองก็รู้ว่าซุ้มไหนใน อ.หาดใหญ่ ที่มีหลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ตนก็ชี้ช่องให้ซื้อ แล้วหาก เซียนพระ ไปเช่า แล้วได้กำไร จากการปล่อยต่ออีกทอด เขาก็ให้เปอร์เซ็นต์มา มันเป็นระบบแบบนั้น เงินที่ได้มาตนก็ให้ลูกน้องไปทำงาน

 

ผมไม่ใช่เป็นเจ้านายที่หารีดไถลูกน้อง เพราะผมเป็นเจ้านายสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมาย เพราะมันเป็นเรื่องขั้นตอนของสมาคมพระเครื่องฯ หากไปถามเซียนพระก็เป็นอย่างนี้หมดถ้าชี้ช่องก็ได้เปอร์เซ็นต์

 

บิ๊กโจ๊ก ชี้ภรรยาลูกน้อง เคยทำงานใน ป.ป.ช.

 

เมื่อถามปมประเด็นต่อไป ที่ถูกกล่าวหา นั้นคือนายตำรวจคนสนิท คือ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ที่ ป.ป.ป. ระบุว่าคือตัวกลางประสานคนใน ป.ป.ช. ให้มาช่วยตบแต่งบัญชีทรัพย์สิน

 

บิ๊กโจ๊ก กล่าวว่า ต้องเรียนว่า ภรรยาของ พ.ต.ท.คริษฐ์ เคยทำงานอยู่ที่ ป.ป.ช. แต่ปัจจุบันออกมาเพื่อรอสอบผู้พิพากษา ส่วนตัว พ.ต.ท.คริษฐ์ เคยทำงานเป็นหน้าห้อง แต่ตอนนี้ไปดำรงตำแหน่งที่สมุทรปราการ ช่วงที่เป็นนายตำรวจสำนักงานตน มอบหมายให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ช่วยทำรายงานแจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ ทาง พ.ต.ท.คริษฐ์ ก็ไปหารือกับภรรยา เพราะเคยทำงานที่ ป.ป.ช.มันจะถูกหรือผิด ก็เป็นเรื่องการไปหารือ เพราะต้องเข้าใจว่า มันเป็นหน้าที่ ป.ป.ช. ที่ต้องให้คำแนะนำ

 

มันเรียกว่า เป็นระบบการป้องปรามของ ป.ป.ช. เพราะคำว่าป้องปรามเหมือนการให้คำแนะนำ แต่ไม่ใช่ไปแนะนำให้ทำผิด เพราะฉะนั้น พ.ต.ท.คริษฐ์ ก็อาศัยภรรยาที่ทำงานใน ป.ป.ช. ให้คำแนะนำเท่านั้น ส่วนจะไปทำอะไรบ้าง ตนไม่ได้รับทราบเรื่องทั้งหมด เรื่องที่เกิด ตนย้ำว่า ไม่ได้โยนให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ต้องรับผิด ลูกน้องตนเองรู้ดี

 

ส่วนปมสุดท้ายกรณีนายตำรวจคนใกล้ชิด ไปปลอมแปลงลายเซ็นพ่อตา 

 

บิ๊กโจ๊ก ย้ำว่า ไม่มีเรื่องดังกล่าวแน่นอน เพราะว่า พ่อตา ทำธุรกิจอยู่ภาคใต้  และ พ.ต.ท.คริษฐ์ ไม่ได้สนิทกับ พ่อตา ถึงขั้นจะไปปลอมแปลงลายเซ็น ไม่ได้เป็นลูกน้องพ่อตาตนเองด้วยซ้ำ ที่สำคัญพ่อตาเป็นเจ้าของธุรกิจ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ใคร ปลอมลายเซ็น

 

บิ๊กโจ๊ก ย้ำว่า ในวันนี้เข้าสู่กระบวนการไต่สวน และทำคำชี้แจงทุกข้อกล่าวหาจาก ป.ป.ช. ยืนยันว่าตนเองสามารถชี้แจงได้ครบทุกประเด็น ไม่ได้หนักใจ แต่ถ้าพูดไปประชาชนจะบอกว่าเหมือนแก้ตัวอีก ดังนั้นขอให้รอการชี้แจง แล้วผลการตัดสินจะออกมาเป็นเช่นใด หาก ป.ป.ช.เห็นว่าเรื่องไม่มีมูล ก็จะได้ข้อยุติ