ข่าว

ประเคนฝ่ามือใส่แม่พิการหัวทิ่ม ฉุนลูกสาวไม่มีเงินใช้หนี้

ท้าทายกฎหมาย? แก๊งเจ้าหนี้ดอกโหด รุมยำแม่ลูกหนี้ที่พิการ ประเคนฝ่ามือจนหัวทิ่มหน้าโรงพัก ซ้ำขู่ทำร้ายลูกถึงหน้าโรงเรียน แจ้งความ 3 ครั้งคดีเงียบ สุดช็อกดอกโหดวันละ 454 บาท

เจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด ตามลูกหนี้ไม่เจอ บุกตบแม่ของลูกหนี้ที่พิการ ขณะนั่งขายข้าวอยู่หน้าโรงพัก แค้นหนักนำสีปาใส่บ้านชำระแค้น  ซ้ำขู่ทำร้ายถึงโรงเรียน  แจ้งความ 3 ครั้งแต่คดีไม่คืบ เจ้าแม่เงินกู้ได้ใจตามข่มขู่ซ้ำ 

 

ประเคนฝ่ามือใส่แม่พิการหัวทิ่ม ฉุนลูกสาวไม่มีเงินใช้หนี้

4 ก.ค.2567 นางสาวบี (นามสมมติ) ลูกหนี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเคยไปกู้เงินกับเจ้าแม่เงินกู้ ชื่อ หมวย เมื่อปีที่แล้ว และใช้หนี้จนหมด ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2567 ตนได้กู้เงินกับนางสาวหมวยใหม่อีกครั้ง โดยกู้เงินมา 2,000 บาท ต้องส่งดอกเบี้ยวันละ 60 บาท จนกว่าจะจ่ายเงินต้นครบทั้งหมด 

 

จากนั้นกู้เพิ่มมาอีก 4,000 บาท ส่งเงินวัน 454 บาท  15 วัน เมื่อตนส่งได้ระยะหนึ่งแล้วไม่มีเงินส่งดอกเบื้ย นางสาวหมวยจึงให้กู้เงินเพิ่มอีก 5,000 บาท เพื่อนำมาส่งดอกที่ติดไว้ จนทำให้ปัจจุบันนี้ มีหนี้สินทั้งหมด 14,900 บาท  ตนจึงส่งไม่ไหว เพราะตนตกงาน  และกำลังหางานใหม่ ตนจึงได้ขอให้นางสาวหมวยพักหนี้ให้ก่อน แต่นางสาวหมวยไม่ยอม

 

บังคับให้ตนหาเงินมาให้ 5,000 บาท ตอนนี้  ตนไม่มีเงินให้จึงไม่กล้ารับสายโทรศัพท์  หลังจากนางสาวหมวยติดต่อตนไม่ได้ 

  • วันที่ 3 มิ.ย. 2567 ที่ผ่านมา แก๊งเงินกู้ได้นำสีมาปาบ้าน ตนจึงแจ้งความไว้
  • จากนั้นวันที่ 26 มิ.ย. 2567 แก๊งเงินกู้ได้นำสีมาปาใส่บ้านอีกครั้ง ตนได้แจ้งความไว้อีก
  • และล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย. 2567 นางสาวหมวยจึงเดินทางไปร้านขายข้าวแกงของแม่ ที่เคหะร่มเกล้า แล้วทำร้ายแม่ตามในคลิปวงจรปิดเลย โดยแก๊งเจ้าหนี้ 3 คนตบแม่ตนที่เป็นคนพิการจนหัวทิ่ม  

 

ระหว่างที่พวกแก๊งเงินกู้มาทำร้ายแม่ หนึ่งในแก๊ง ชื่อ นางสาวนุช ได้โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าได้ทำร้ายแม่ตนอยู่ บอกให้ตนหาเงินมาจ่ายให้หมด ไม่งั้นจะตามไปทำร้ายลูกที่หน้าโรงเรียนอีก

ประเคนฝ่ามือใส่แม่พิการหัวทิ่ม ฉุนลูกสาวไม่มีเงินใช้หนี้

 

แม่ของลูกหนี้ เล่าว่า ตนเป็นลูกจ้างร้านขายข้าวแกง ขายอยู่บริเวณริมถนนเคหะร่มเกล้า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2567 เวลาประมาณบ่ายโมง ขณะที่ตนกำลังนั่งขายข้าวอยู่นั้น ได้มีผู้หญิง 2 คน สาวสอง 1 คน ผู้ชายอีก 1 คน เข้ามาบอกตนว่า “มึงรู้ไหม ว่าลูกมึงกู้เงินไปแล้วไม่จ่าย” แล้วก็ตบหน้าตนหลายครั้ง จนฟุบลงกับโต๊ะ

ประเคนฝ่ามือใส่แม่พิการหัวทิ่ม ฉุนลูกสาวไม่มีเงินใช้หนี้

 

ตนได้แต่ถามว่าทำร้ายตนทำไม ตนเกี่ยวอะไรด้วย พวกเงินกู้ตอบกลับมาว่า “ก็มึงเป็นแม่มันไง” ตอนนั้นตนกลัวมา ทำอะไรไม่ถูก เพราะโดยตบจนมึนไปหมด ก่อนพวกเจ้าแม่เงินกู้จะไป ได้ท้าให้ไปแจ้งความได้เลย บอกว่ารู้จักตำรวจทั้งโรงพัก ไม่กลัว

 

 

 

 

ต่อมา นายเอกภพและทีมงาน ได้พาผู้เสียหายไปตามความคืบหน้าคดีที่ สน. ร่มเกล้า เนื่องจากผู้เสียหายได้แจ้งความไว้หลายครั้งแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า ซ้ำยังถูกผู้ก่อเหตุตามมาข่มขู่  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงว่า คดีนี้ต้องแยกเป็นสองส่วน ส่วนที่ทำร้ายร่างกายโทษแค่ปรับ ส่วนอีกคดีเป็นคดีเงินกู้ ต้องสอบสวนลูกสาวก่อนว่า มีหลักฐานเอาผิดกับพวกเงินกู้ไหม

 

นายเอกภพ กล่าวว่า  ผู้ก่อเหตุก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมายเลย ที่เกิดเหตุอยู่หน้า สน. ร่มเกล้าแท้ๆ ยังกล้าก่อเหตุแบบนี้อีก หลังจากที่ตนดูเอกสารใบแจ้งความ พบว่าเป็นแค่ใบบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่ใช่ใบแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจยังไม่ไปตรวจร่างกายให้กับผู้เสียหายเลย 

 

ตนได้ประสานไปยัง พล.ต.ทอชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว ให้ช่วยเร่งให้พนักงานสอบสวนทำคดี เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากพฤติกรรมเป็นภัยคุกคามต่อสังคม และท้าทายนโยบายรัฐบาล โดยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ โดยไม่ให้เจ้าหนี้ใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นอย่างมาก

ข่าวที่น่าสนใจ