ข่าว

สอบคนขับ “รถบีเอ็ม” ซิ่งชนแหลก ยังคลำปมแรงจูงใจ

ตำรวจยังมึน เกี่ยวกับแรงจูงใจของคนขับ “รถบีเอ็ม” ซิ่งชนแหลก มีเป็นเหตุให้ รถยนต์ รถจยย. เสียหาย "6 คันรวด" บาดเจ็บ 9 ราย

สภาพรถบีเอ็มดับบลิว ซิ่งชนแหลก

5 ก.ค. 2567 จากเหตุชายขับ รถบีเอ็มดับบลิว ด้วยความเร็วสูง ซิ่งชน รถของชาวบ้าน หลายจุดบริเวณถนนสุขาภิบาล 5 เขต สายไหม กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ รถยนต์ และ รถจยย. ได้รับความ เสียหาย 6 คันรวด มีผู้ได้รับ บาดเจ็บ 9 ราย เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 4 ก.ค.2567

 

ล่าสุด พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม เปิดเผยความคืบหน้า ว่า ตำรวจได้ควบคุมตัวคนขับ รถบีเอ็ม ไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ และตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย แต่ไม่พบสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย

คนขับรถบีเอ็ม รอสอบปากคำ ที่ สน.สายไหม

จากการสอบปากคำเบื้องต้นคนขับ รถบีเอ็ม ยังให้การวกวน จึงไม่สามารถสรุปสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุได้

 

ส่วนประเด็นเรื่องที่คนขับรถบีเอ็ม อาจจะมีอาการป่วยจิตเวชนั้น ยังไม่มีความชัดเจน ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างประสานแพทย์และโรงพยาบาล เพื่อขอข้อมูลว่าเคยรักษาอาการป่วยจิตเวชหรือไม่

 

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับ บาดเจ็บ , ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับ บาดเจ็บสาหัส และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย

 

ทั้งนี้จะเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาต่างกรรมต่างวาระ เพราะผู้ต้องหาขับรถ ชน ผู้เสียหาย 4 จุด ตั้งแต่สุขาภิบาล 5 ซอย 86 ไปจนถึงตลาดวงศกร

 

อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ และจะเรียกคนขับ รถบีเอ็ม มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง

 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลำดับเหตุการณ์จากจุดแรก ผู้ก่อเหตุขับรถออกมาจากบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตรงข้ามสุขาภิบาล 5 ซอย 82 มีรายงานว่า จากจุดที่ชนแผงกั้นไม้ จากนั้นได้ขับรถยนต์ไปชนรถของผู้อื่นอีก 3 จุด ได้แก่ บริเวณปากซอย 86 , ซอย 73 และหน้าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม ระยะทางประมาณ 500 เมตร ทำให้มีผู้ได้รับ บาดเจ็บ 9 ราย

 

จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถไปจนถึงบริเวณด้านหน้าตลาดวงศกร ก่อนจะเสียหลัก ชน ต้นไม้ และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เป็นระยะทางห่างจากหมู่บ้านผู้เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร

 

อย่างไรก็ตามล่าสุดมีรายงานว่า คนขับรถบีเอ็มได้เดินทางมาที่ สน. สายไหม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ

ข่าวที่น่าสนใจ