ข่าว

เปิดสาเหตุชายคลุ้มคลั่ง ลาดกระบัง 36 มีประวัติรักษาโรคจิตเวช

เปิดสาเหตุชายคลุ้มคลั่ง ลาดกระบัง 36 มีประวัติรักษาโรคจิตเวช ภรรยา เผย ช่วงหลังขาดยา ชอบโวยวาย ด้าน ผกก.ลาดกระบัง ระบุ ดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย

จากกรณีนายอาร์ม คลุ้มคลั่งใช้มีดไล่ฟันชาวบ้าน ภายในหมู่บ้านเคหะนคร 2 ซอยลาดกระบัง 36 แยก 18 แขวง และเขตลาดกระบังกรุงเทพฯ ตำรวจใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 4 ชั่วโมง และต้องเข้าจู่โจมถึง 2 ครั้ง จึงสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้

5 ก.ค. 2567 นายนาท คู่กรณีนายอาร์ม ให้ข้อมูลว่า ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน โดยนายอาร์ม มาทำงานที่บ้านและเป็นลูกน้องของน้าตน ต่อนายอาร์มมีแฟนเป็นคนข้างบ้าน จึงย้ายไปอยู่กับแฟน และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพเป็นจำนวนมาก แสบทุกวันจนมีอาการหลอนมาเป็นระยะเวลาร่วมปี และจะมีพฤติกรรมโวยวายแต่ง จยย. เบิ้ลเครื่องเสียงดัง แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร ช่วงหลังพฤติกรรมหนักข้อขึ้น ซึ่งตำรวจเคยมาระงับเหตุหลายครั้ง

ก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกันช่วงเช้า นายอาร์มใช้จอบฟันตน ต้องเย็บ 3 เข็ม ไปหาหมอเสร็จก็เดินทางไปแจ้งความ และกลับมาขับวินจักรยานยนต์ ต่อมามีรุ่นน้องมาเยี่ยมที่บ้าน ระหว่างนั้นตนไปให้อาหารไก่ที่ท้ายสวน มาทราบภายหลังว่ารุ่นน้องไปทะเลาะ และได้ยิงนายอาร์ม จนเรื่องราวบานปลายมีการเอามีดไล่ฟันกันเกิดขึ้น

เปิดสาเหตุชายคลุ้มคลั่ง ลาดกระบัง 36 มีประวัติรักษาโรคจิตเวช

 

ด้าน พ.ต.อ.สมคิด ประเชิญสุข ผู้กำกับการ สน.ลาดกระบัง ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อพูดคุยกับภรรยานายอาร์ม หลังเข้าไปพูดคุยนานกว่า 1 ชั่วโมง พ.ต.อ.สมคิด เปิดเผยว่า วันนี้ได้เข้ามาพูดคุยหาแนวทางการดูแล หากผู้ต้องหามีภาวะทางจิตเวช

จากการพูดคุยกับภรรยา ได้นำเอกสารมายืนยันว่า นายอาร์มเคยเข้ารับการรักษาโรคทางจิตเวช ที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา โดยแพทย์ลงความเห็นว่าเป็น "โรคหวาดระแวง" ต้องกินยาต่อเนื่อง จะยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ภรรยาให้ข้อมูลว่าช่วงหลัง ผู้ต้องหาขาดยาบ่อย จึงมีการพูดเสียงดังโวยวาย

วันนี้ได้พูดคุยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภรรยา และชาวบ้านในชุมชน ซึ่งได้หารือแนวทางสรุปว่า หลังจากผู้ต้องหาออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะต้องส่งตัวไปรักษาอาการทางจิตเวชที่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาดูแลอย่างต่อเนื่อง เข้าติดตามพฤติกรรมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก

พ.ต.อ.สมคิด ประเชิญสุข ผู้กำกับการ สน.ลาดกระบัง

 

พ.ต.อ.สมคิด กล่าวอีกว่า ส่วนของการดำเนินคดีจะแยกเป็น 2 คดี คือเหตุตอนเช้าและเหตุตอนเย็น ซึ่งนายอาร์มถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนคนยิงถูกดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ

ส่วนคำให้การที่ยังขัดแย้งกันว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุก่อนนั้น ตำรวจจะต้องรวบรวมหลักฐานพยานแวดล้อม และกล้องวงจรปิดนำไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติ ไม่พบว่าผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อน

ข่าวที่น่าสนใจ