"ปุ๊กกี้" สาบาน ไม่ทะเลาะไม่มีใบสั่ง เปิดโปง "ประธานมูลนิธิ"

นายแม่ปุ๊กกี้ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง เปิดเผยกับทีมข่าวคมชัดลึกว่า ตนรู้พฤติกรรมของประธานสาว มูลนิธิแห่งหนึ่งมาสักพักแล้ว ว่าเป็นคนแบบไหน ทำงานมาอย่างไร จากนั้นตนได้สืบประวัติ เช่น จากกรณีที่โกงแชร์เพื่อนและคนใกล้ชิด ทุกอย่างเกิดจากการสนิทสนม เป็นเพื่อนกัน ส่วนตัวตนโดนมา 5 เดือน ยังไม่ได้โดน แต่เสื่อมเสียชื่อเสียง เพราะคนมองว่าเคยร่วมก่อตั้งมูลนิธิด้วยกัน เมื่อก่อนตั้งเสร็จ ตนก็ลาออก เพราะอุดมการณ์ชัดเจน 

แม่ปุ๊กกี้ ยืนยันไม่ได้ทะเลาะอะไรกับประธานสาวมูลนิธิ พร้อมยกมือไหว้ พูดว่า"ให้ตาย ให้สาบาน พี่สาบานให้ตาย พี่ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับเค้าเลย แต่ทำไม เค้าถึงไปโยงว่า พี่ไปทำร้ายคนอื่นโดยสร้างหลักฐานเท็จ" พร้อมท้าอีกฝ่าย งัดหลักฐานออกมาพิสูจน์ว่าเป็นตนไปทำร้าย ดิสเครดิต ใครหรือไม่ โดยมองว่าถ้าความผิดของตนแค่หมิ่นประมาท แต่ของประธานสาวคนนี้เป็น ความผิดระดับประเทศ ตนยอมแลก

ส่วนการออกมาในครั้งนี้ อย่าใช้คำว่าแฉ แต่ใช้คำว่าเปิดโปงขบวนการนี้ ชุบตัวขึ้นมาเป็นคนมีชื่อเสียง แต่กลับกระทำผิดเสียเอง นำชื่อเสียงมาหาผลประโยชน์ จะบอกว่า ซื้อวุฒิการศึกษา หรือ ซื้อขายตำแหน่งในรัฐสภา ทำกันเยอะแยะ ตนมองว่า ไม่ได้ เพราะถือเป็นเรื่องที่ผิด หากใครคิดแบบนี้ แสดงว่าสนับสนุนให้เขากระทำความผิดระดับประเทศ อนาคตหากเกิดการซื้อขายวุฒิการศึกษาตั้งแต่เด็กจนโต และได้เข้าไปทำงานในรัฐสภา ขอถามว่าจะเอาความรู้มาจากที่ไหน

นอกจากนี้นายแม่ปุ๊กกี้ ยังกล่าวถึงเงินบริจาคให้กับมูลนิธิ เชื่อว่าจะต้องมีการตรวจสอบ และหลังจากนี้จะมีหลักฐานต่างๆออกมาด้วย เรื่อยๆ เบื้องหน้าทำบุญ ช่วยเหลือสังคม แต่เบื้องหลังกระทำผิดกฎหมาย สมควรได้รับผิดหรือไม่ ต้องแยกกับระหว่างความดีกับความผิด 
 
นายแม่ปุ๊กกี้ ยืนยันว่า ไม่มีใบสั่งจากใครแน่นอน ไม่มีเบื้องหลัง ที่ผ่านมาประธานสาวทำกับเพื่อนและคนใกล้ชิดหลายคน 20-30 คนคนอื่นอาจจะไม่มีแรงที่จะออกมาเปิดโปง แต่วันนี้ตนพร้อมออกมาตีแผ่ให้สังคมทราบ ทำไมตนต้องแลกกับชื่อเสียง ถูกแฟนคลับประธานสาวโจมตี กล่าวหาไปดิสเครดิตและอิจฉา ทำไมตนต้องแลก แต่เพราะเรื่องนี้เรื่องใหญ่ เป็นความเสียหายระดับประเทศ หากไม่ออกมา เค้าจะกระทำความผิดไปเรื่อยๆและไม่น่าจะทำผิดแค่เรื่องนี้เรื่องแรกและเรื่องเดียว ยังสามารถไปทำผิดต่อไปได้ เพราะเค้ามีชื่อเสียง เงินที่เข้ามามูลนิธิ เกิดจากความศรัทธา ดังนั้นเราควรจะสนับสนุนหรือไม่