ข่าว

ถกร่วมแก้ปัญหา ม.2 ทำร้ายร่างกายเด็กพิเศษ ในโรงเรียนดัง

ถกร่วมแก้ปัญหา ม.2 ทำร้ายร่างกายเด็กพิเศษ ในโรงเรียนดัง

09 ก.ค. 2567

ถกร่วมแก้ไขปัญหา 3 นักเรียนหญิง ม.2 ทำร้ายร่างกายเพื่อนที่เป็นเด็กพิเศษ ในโรงเรียนดัง วางแผนปรับพฤติกรรม ส่งนักเรียนที่ก่อเหตุกับผู้ปกครอง เป็น จิตอาสา ใน รพ.

ถกแก้ปัญหา นักเรียนหญิง ม.2 ทำร้ายร่างกายเพื่อน ที่เป็นเด็กพิเศษ

9 ก.ค. 2567 จากเหตุ นักเรียนหญิง วัย 13 ปี ชั้น ม.2 ที่เป็น เด็กพิเศษ ถูก เพื่อน ร่วมชั้นและรุ่นพี่ ทำร้ายร่างกาย บังคับกราบเท้า เหตุเกิดใน โรงเรียนดัง ย่าน บางเขน 

 

ล่าสุดที่ โรงเรียนดัง ย่านบางเขน ที่เกิดเหตุ นายธัญวิชญ์ ผอ.โรงเรียน ได้ตั้งโต๊ะแถลงร่วมกับ นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา และ กัน จอมพลัง ที่เข้าช่วยเหลือ หลังได้รับการร้องเรียนการครอบครัว นักเรียนหญิง ที่ถูกทำร้ายร่างกาย

 

โดย กัน จอมพลัง กล่าวว่า ครอบครัวของ นักเรียนหญิง วัย 13 ปี ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ ส่งข้อมูลแจ้งมาขอให้ช่วยเหลือ ซึ่งนักเรียนทุกคนที่อยู่ในคลิปเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน เป็นโรงเรียนดัง ย่านบางเขน วันเกิดเหตุเพื่อนของ นักเรียนหญิง วัย 13 ปี ได้เรียกน้องไปเอาของที่ห้องเรียน ตอนแรกน้องไม่อยากไป แต่เพื่อนอ้างว่าขาเจ็บ น้องเลยต้องมาหา พอน้องเดินเข้ามาในห้อง เพื่อนน้องได้ไล่เพื่อนในห้องคนอื่นออกจากห้อง

ก่อนเปิดฉาก ทำร้ายร่างกาย ตามคลิปที่ปรากฏ หลังเกิดเหตุ ทางครอบครัว นักเรียนหญิง วัย 13 ปี ที่เป็น เด็กพิเศษ ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง แต่ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายคู่กรณี ทางญาติมีความประสงค์ให้ฝ่ายคู่กรณี เข้ามาขอโทษ จากที่ได้รับเรื่อง ตนได้ประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และทางโรงเรียน เพื่อให้ประชุมร่วมกันในการแก้ไขเรื่องดังกล่าว

 

ด้าน นายธีร์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องมีการสั่งการจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  ให้เข้ามาดูแลเรื่องนี้ ต้องบอกว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีการเรียนรู้ยังไม่สมบูรณ์ อาจตัดสินใจคลาดเคลื่อน หลังจากนี้จะมีการปรับเปลี่ยนระบบใหม่ เพื่อเปลี่ยนแนวคิดทั้งระบบ ทั้งตัวเด็กที่ก่อเหตุ และโรงเรียน เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากความรุนแรง โดยมีระยะเวลาของแผนที่วางไว้ประมาณ 3 เดือน

 

ด้าน นายธัญวิชญ์ ผอ.โรงเรียน ระบุว่า โรงเรียนมีข้อมูลว่า ผู้ถูกกระทำเป็น เด็กพิเศษ ที่มีพัฒนาการช้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน ทาง รร. มีการจัดการเรียนการสอนรวมกับเด็กคนอื่นๆ แต่มีการประเมินผลการเรียนตามศักยภาพของเด็ก

 

สำหรับ เด็กคู่กรณี ทาง รร. มีแผนที่จะปรับพฤติกรรมเด็กในการเปลี่ยนความคิด โดยจะส่งเด็กพร้อมกับผู้ปกครองไปเป็นจิตอาสา ที่ รพ. เพื่อดูแลผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ให้เรียนรู้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น ภายใต้การประเมินของนักจิตวิทยาเด็กว่าอนุญาตให้เด็กกลับมาเรียนได้ตามปกติหรือไม่ และต้องแน่ใจว่าเด็กจะไม่กลับไปประพฤติแบบเดิม ถ้าประเมินผ่านก็จะนำเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาตามเดิม ระหว่างการทำจิตอาสาจะมีการเรียนออนไลน์ควบคู่ไปด้วย

 

กัน จอมพลัง กล่าวเสริมว่า การนำเด็กเข้าสู่ระบบอีกครั้ง อยากให้พาเด็กที่ถูกกระทำกลับเข้าสู่ระบบก่อน เพื่อปรับสภาพจิตใจ แล้วค่อยให้เด็กคู่กรณีกลับเข้ามาทีหลัง เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความเครียด และกลับมาร่วมเรียนกับเพื่อนร่วมชั้นได้เหมือนเดิม