ข่าว

"ติ๊ก นาวา" ในคราบโชเฟอร์ ceo ดัง อาศัยไฟไหม้คฤหาสน์หรู ฉกภาพโบราณ 120 ปี

"ติ๊ก นาวา" ในคราบโชเฟอร์ ceo ดัง อาศัยไฟไหม้คฤหาสน์หรู ฉกภาพโบราณ 120 ปี

09 ก.ค. 2567

สืบนครบาล รวบ "ติ๊ก นาวา" กลางถนนหน้า สตช. โจรแฝงตัวเป็นพนักงานขับรถให้ ceo ดัง อาศัยไฟไหม้คฤหาสน์หรู ฉกภาพโบราณ 120 ปี 4 ภาพ ขายตลาดมืด

สืบนครบาล จับกุม นายนาวา หรือ ไดรเวอร์ติ๊ก ทำทีเป็นลูกจ้าง ขับรถให้ CEO เจ้าพ่อสื่อโฆษณาชื่อดัง ก่อนอาศัยจังหวะไฟไหม้คฤหาสน์หรู ขโมยทรัพย์สินไปขายและกลับเข้าทำงานเหมือนเดิม

 

พฤติการณ์ของนายนาวา แฝงตัวเข้ามาทำงานเมื่อปลายปี 2565 โดยสมัครงานเข้ามาเป็นพนักงานขับรถให้กับ CEO หนุ่มชื่อดัง ช่วงแรกได้เป็นเพียงคนขับรถธรรมดา ไม่ได้มีสิทธิพิเศษเข้านอกออกในคฤหาสน์หรูย่านอุดมสุขได้ แต่ด้วยทักษะความสามารถพิเศษพูดจาหวาน ใช้เวลาเพียงปีเศษ ก็สร้างความไว้ใจจากคนในบ้านจนสามารถเข้านอกออกได้ทุกพื้นที่ภายในบ้าน 

 

ระหว่างนายนาวาทำงานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว คอยสอดส่องสิ่งของมีค่า จนได้พบกับสมบัติล้ำค่าคือ "พระบรมฉายาลักษณ์" พร้อมลายพระปรมาภิไธยโบราณ อายุ 120 ปี จำนวน 4 ภาพ อันเป็นมรดกตกทอดของตระกูลดัง ของเก่าสุดล้ำค่าชนิดที่ไม่อาจประเมินมูลค่าได้ แม้จะถูกเก็บในที่ที่มีระบบความปลอดภัยที่หนาแน่น แต่ก็ไม่ลดความพยายามของนายนาวา

พนักงานขับรถขโมยทรัพย์สิน CEO ดัง

กระทั่งวันที่ 4 พ.ค.67 เวลาประมาณ 14.00 น. จู่ๆ เกิดเพลิงไหม้คฤหาสน์หรูหลังนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ต้นเพลิงมาจากห้องควบคุมไฟฟ้า ทำให้ระบบไฟฟ้าและกล้องวงจรปิดไม่ทำงาน ผู้คนภายในบ้านชุลมุนวุ่นวายหนีเอาชีวิตรอด คนร้ายไร้ความตื่นตระหนกเข้าประกบเจ้านายทำทีห่วงใย ก่อนจะพาออกจากคฤหาสน์จนหมด

 

จากนั้นอาศัยจังหวะตรงดิ่งไปฉกเอาสมบัติล้ำค่าจำนวน 4 ภาพ ยกขึ้นรถตรงดิ่งไปยังตลาดมืดทันที ซึ่งหลังเกิดเหตุคนร้าย ยังคงกลับมาทำงานปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

 

CEO หนุ่มได้ตรวจสอบความเสียหาย พบว่า สมบัติอันล้ำค่าหายไป จึงเข้าแจ้งความที่ สน.บางนา แรกเริ่มเหมือนจะจับมือใครดมไม่ได้ กระทั่งพบเบาะแสจากตลาดมืดว่า มีพ่อค้าสะสมของเก่า ในพื้นที่ จ.ชลบุรี , นครปฐม และ นนทบุรี รับซื้อของล้ำค่าดังกล่าวไว้ในราคาทั้งหมด 100,000 บาท ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้ออกหมายจับคนร้ายรายนี้

สืบนครบาล รวบ ติ๊ก นาวา หน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ในที่สุดวันที่ 8 ก.ค. 67  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบนครบาล บุกไปจับกุมตัว นายนาวา หรือติ๊ก โดยจับกุมที่กลางถนนปทุมวัน ซึ่งในขณะจับกุมคนร้ายยังคงทำงานเป็นคนขับรถให้ CEO หนุ่มอยู่ เสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สร้างความตกใจกับ CEO หนุ่มเป็นอย่างยิ่ง
      
ชั้นจับกุม นายนาวา ให้การรับสารภาพว่า ได้ลักทรัพย์ของCEO หนุ่มไปจริง โดยนำภาพถ่ายพระบรมฉายาลักษณ์ไปจำหน่ายยังร้านค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง 4 รูป มูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท แต่ที่แท้จริงแล้ว ทรัพย์ดังกล่าวของผู้เสียหายเป็นทรัพย์ที่ได้รับการตกทอดมรดกจากรุ่นสู่รุ่น กว่า 100 ปี ซึ่งมูลค่าความเสียหายนั้น ไม่สามารถประเมินราคาได้ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่หายากและมีมูลค่าแก่ทางจิตใจของครอบครัวและตระกูลของผู้เสียหายเป็นอย่างมาก 

เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร ก่อนควบคุมตัว นำส่ง ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนาเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบประวัติต้องโทษคดีอาญาจำนวนสองคดี
1. “ข้อหาเป็นเจ้ามือ หรือ จีดให้มีการเล่นพนัน” สภ.สำโรงเหนือ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2558
2. “ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนด ห้ามออกจากเคหสถานในเวลาที่กำหนด, ข้อหาขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่น”สภ.สำโรงเหนือ 18 ก.ย.2564 

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ถือเป็นการเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไป ผู้ซึ่งกำลังมองหาบุคคลากรที่จะเข้ามาทำงานไกล้ตัวหรือในบ้านของตนเอง การคัดเลือกบุคลากรที่มีประสบการณ์นั้นถือเป็นเรื่องต้องมีพิถีพิถันมาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วนั้น การเลือกบุคลากรที่มีความน่าไว้ใจและ “ซื่อสัตย์สุจริต” นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า เช่นนั้นอาจเป็นเช่นคดีนี้ ซึ่งนายนาวาฯ ประกอบอาชีพขับรถผู้บริหารมาโดยตลอดแต่มักจะเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยและเลือกสมัครงานในบริษัทที่ตนจะได้เป็นที่ไว้ใจเนื้อเชื่อใจของเจ้านาย จึงน่าเชื่อได้ว่าไม่ได้ทำหรือก่อเหตุเช่นนี้แค่เพียงคดีนี้คดีเดียว แต่อาจมีผู้เสียหายรายอื่นที่เคยตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก ดังนั้นผมจึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่าหากมีผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อของ “ไดรเวอร์ติ๊ก” รายนี้ โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB”



สืบนครบาล รวบ ติ๊ก นาวา หน้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ