สุดยื้อ เด็กหญิง 1 ขวบ 9 เดือน เหยื่อ ต้น ผัวพี่เลี้ยงเดนนรกคลั่งยา เสียชีวิต
แพทย์สุดยื้อ เด็กหญิง 1 ขวบ 9 เดือน เหยื่อผัวพี่เลี้ยงเดนนรกคลั่งยา ทำร้ายร่างกายสาหัสจนเลือดคลั่ง เสียชีวิตแล้ว
กรณี ชายวัย 50 ปี ซึ่งเป็นสามีของ พี่เลี้ยงเด็ก ทำร้ายร่างกายเด็กหญิง 1 ขวบ 9 เดือน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุญาติต้องรีบส่งตัวไปโรงพยาบาล เมื่อแพทย์ ตรวจร่างกายเด็ก พบว่ามีร่องรอยเขียวช้ำไปทั้งตัว จึงรีบนำตัวเข้าห้องไอซียู. เป็นการด่วน ก่อนจะพบว่ามีอาการเลือดคลั่งในสมอง
ล่าสุดมีรายงานว่า เด็กหญิง 1 ขวบ 9 เดือน เหยื่อ ไอ้ต้น เสพยาคลั่ง ทำร้าย-ขืนใจ เสียชีวิตแล้ว 10 ก.ค.67 เวลา 05.59 น.
โดย ครอบครัวน้องวัย 1 ขวบ 9 เดือน ที่ถูกนายพิชิต หรือต้น ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้รับแจ้งจากทาง รพ.นครนายก ว่าน้องได้เสียชีวิตแล้ว ทางครอบครัวจึงได้รีบเดินทางมา รพ.นครนายก เพื่อขอรับศพน้องไปประกอบพิธีทางศาสนา
แต่ทาง รพ.นครนายก แจ้งกับครอบครัวว่า ต้องส่งร่างน้องไปทำการชันสูตรก่อน ที่ รพ.มศว.องครักษ์ ถึงจะสามารถนำน้องไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อได้ ครอบครัวจึงได้แจ้งให้ทางทีมเพจเรื่องจริงนครนายก (มูลนิธิองค์กรทำดีสาขานครนายก) โดยมี ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นประธาน ที่ได้ดูแลช่วยเหลือเคสของน้องอยู่ตั้งแต่ในวันแรกให้ ทราบ
จากนั้นทางทีมเพจเรื่องจริงนครนายก ได้ส่งรถพยาบาลมารับร่างน้องไปส่งชันสูตรต่อที่ รพ.มศว. ในทันที
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้ง ตามรายงาน เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2567 ระบุว่า นางสาวกัญญา ป้าของ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) ได้เล่ารายละเอียดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบว่า เด็กหญิงที่ถูกทำร้ายร่างกาย เป็นหลานของตนเอง อายุ 1 ขวบ 9 เดือน ซึ่งถูกนายพิชิต หรือ (ต้น) อายุ 50 ปี ทำร้ายจนอาการสาหัส ได้ถูกนำตัวเข้าห้องไอซียู. โรงพยาบาลนครนายก เพื่อทำการรักษาอาการเป็นการด่วน ภายหลังตำรวจ ได้ข้อมูล จึงควบคุมตัว นายพิชิต มาสอบสวนที่โรงพัก สภ.องค์รักษ์
นางสาวผึ้ง (นามสมุมติ) เพื่อนบ้านในระแวกใกล้เคียง เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุนายพิชิต ได้โทรศัพท์มาบอกว่า หลานตกบันได ตนเองจึงรีบเข้าไปดู และเมื่อไปถึงก็พบเด็กหญิงเอสภาพร่างกายมีแต่รอยเขียวช้ำไปทั้งตัว ตนเองก็ตกใจมากจึงรีบนำตัวน้องส่งโรงพยาบาลนครนายกเป็นการด่วน โดยอาการของน้องขณะนั้นอยู่ในอาการโคม่า แพทย์จึงบอกว่า โอกาสของน้องรอดน้อยมาก ซึ่งเป็นไปว่า น้องจะต้องถูกทำร้ายร่างกายมาอย่างรุนแรงตนเองจึงเดินทางเข้าแจ้งความ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปควบคุมตัวนายพิชิต มาสอบสวน “ตอนแรก นายพิชิต ก็ได้รับสารภาพกับตนแล้ว ว่าเป็นผู้กระทำ แต่พอตำรวจมา ก็กลับคำ และบอกว่า ไม่ได้ทำร้ายน้อง จากนั้นตำรวจจึงนำตัวนายพิชิต ไปสอบสวนที่ สภ.องครักษ์”
นางสาวผึ้ง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา พ่อแท้ๆ ของเด็กหญิงเอ ได้เลิกลากับแม่ของเด็กไปนานแล้ว จากนั้นแม่ของเด็กจึงได้ไปจ้างคนรู้จักแถวบ้านให้มาเลี้ยงน้อง ส่วนแม่ของเด็กก็ไปทำงาน โดยปล่อยให้ เด็กหญิงเอ อยู่กับนายพิชิต (หรือต้น) ตามลำพัง และที่ผ่านมาเด็กหญิงเอ อาจจะร้องไห้โยเย ตามประสาเด็ก ขณะที่นายพิชิต หรือนายต้น ได้เสพยาบ้าทุกวัน จนทำให้ลงมือก่อเหตุจนเด็กหญิงเอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขณะที่ นางสาวกัญญา (ป้าเด็กหญิงเอ) เปิดเผยว่า เหตุกาารณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้าน ซึ่งได้โทรศัพท์มาบอกว่า เด็กตกบันได และไม่ได้สติ จึงได้นำตัวส่งตัวไปที่โรงพยาบาล โดยแพทย์ได้นำตัวเข้าห้อง ไอซียู. เพื่อทำการรักษาอาการ ด้วยความตกลง จึงรีบลางานจากจังหวัดนนทบุรี และรีบเดินทางมาดูหลาน กระทั่งได้เห็นสภาพหลาน ก็อยู่ในอาการโคม่าแล้ว ตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำไปทั้งตัว ซึ่งร่อยลอยตามร่างกายไม่น่าจะเกิดจากการตกบันได เพราะทั้งแขน ขา บริเวณหลัง ใบหน้า มีร่องรอยเขียวช้ำ สำคัญมีอาการเลือดคลั่งในสมองอีกด้วย โดยแพทย์ระบุว่า เด็กน่าจะถูกทำร้ายร่างกายมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากแพทย์ได้แจ้งว่าหลานอาจถูกทำร้ายร่างกาย ตนเองจึงได้ส่งข้อความทางแชท เพื่อไปสอบถามสาเหตุที่เกิดขึ้นจาก ลูกสาวของนายพิชิต ปรากฏว่า ลูกสาวของนายพิชิต ได้ตอบกลับมาว่า นายพิชิต เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายเด็กหญิงเอ โดยใช้ไม้ตีตามตัวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ฉันไปสอบถามนายพิชิต ก็ยอมรับว่า เป็นคนลงมือทำร้ายเด็กจริง และที่ทราบมา นายพิชิต ก็ยังเสพยาบ้าอีกด้วย ซึ่งจริงๆ แล้ว ตนได้ฝากให้แฟนของนายพิชิต เป็นคนเลี้ยงเด็ก แต่ก็มาทราบภายหลังว่า แฟนของนายพิชิต ได้เป็นคนนำเด็กไปเลี้ยงเวลาทำงานด้วย กระทั่งมามาทราบว่า น้องโดนกระทำแบบนี้” ป้าน้องเอ กล่าว