ปูดแชทปริศนาจาก “แอ๋ม” แม่บ้านรัฐสภาส่งให้เพื่อน พบผิดสังเกต | คมชัดลึก

10 ก.ค.2567 กรณีพบศพ น.ส.เขมฤทัย (สงวนนามสกุล) หรือ แอ๋ม อายุ 30 ปี แม่บ้านรัฐสภา ใน ห้องพัก อพาร์ตเมนต์ แห่งหนึ่ง ซอยวัดประชาระบือธรรม แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. โดยเจ้าหน้าที่คาดว่า เสียชีวิต มาแล้วประมาณ 7 วัน เมื่อวันที่ 9 ก.ค.2567

 

ต่อมาตำรวจออกหมายจับ และ จับกุม พลทหารสุนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี แฟนหนุ่ม ของ ผู้เสียชีวิต ได้ที่ จ.เชียงราย และถูกคุมตัวไว้ที่ สภ.แม่สาย นั้น

ล่าสุด วันนี้ เวลา 09.00 น. ที่ สน.สามเสน น.ส.ดาริกา อายุ 29 ปี น้องสาวของ แอ๋ม แม่บ้านรัฐสภา ผู้เสียชีวิต เดินทางมาติดต่อขอรับเอกสาร เพื่อไปรับศพ น.ส.เขมฤทัย ที่ รพ.วชิรพยาบาล

 

โดย น.ส.ดาริกา เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หลังรู้ว่า แฟนหนุ่ม ของพี่สาวเป็นคนร้าย รู้สึกตกใจ เพราะตลอดระยะเวลาที่เขาคบหากัน 7-8 เดือน เห็นเขารักกัน ดูแลกันดี เหมือนคู่รักตามปกติทั่วไป ไม่คิดว่าเขาโหดร้าย ทำรุนแรงกับพี่สาวเราได้ถึงขนาดนี้

 

จะไม่ให้อภัย ยอมรับว่าโกรธมาก รู้สึกแย่ อยากรู้เหตุจูงใจของฝ่ายชาย ทำไมถึงทำแบบนี้ ถ้าไม่เข้าใจอะไรกัน ทำไมถึงไม่พูดคุยกันดีๆ หรือถ้าสุดท้ายแล้วชีวิตคู่ไปด้วยกันไม่ได้ ทำไมถึงไม่แยกย้ายกันใช้ชีวิตดีกว่า ถ้าผู้หญิงเขาไม่เลือกเรา ทำไมถึงไม่ปล่อยเขาไป

 

ครั้งสุดท้ายที่เจอกับพี่สาวและฝ่ายชาย คือ ช่วงลอยกระทงปี 2566 เคยไปเที่ยวด้วยกัน เท่าที่ดูผิวเผิน เขาก็ดูรักพี่สาวเราดี ไม่มีท่าทางดูโมโหร้ายอะไร

 

ส่วนที่น่าเป็นห่วงตอนนี้ คือ สภาพจิตใจของคนทางบ้านแย่มาก โดยเฉพาะแม่ พอรู้ข่าวก็เป็นลมไปเลย เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา พี่สาวเพิ่งจะโทรไปหาแม่ว่าจะกลับบ้าน แต่ไม่คิดว่าการกลับบ้านของพี่สาว จะกลับไปแบบนี้

 

พี่สาวมีลูก 2 คน พอต้องสูญเสียกระทันหัน หลังจากนี้ก็ต้องช่วยกันดูแลกันต่อไป โดยยืนยันว่าทางคดีจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

 

ด้าน พ.ต.อ.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยว่า หลังจากแจ้งข้อกล่าวหา พลทหารสุนัย แล้ว ได้ซักถามปากคำ เบื้องต้น รับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุ โดยอ้างว่า เพราะความหึงหวง จึงเกิดการบันดาลโทสะ

 

ส่วนรายละเอียดทั้งหมด จะต้องนำตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง โดยการสอบปากคำจะต้องมีนายทหารพระธรรมนูญ ร่วมสอบปากคำด้วยตามสิทธิของผู้ต้องหา ขณะนี้อยู่ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาจาก สภ.แม่สาย จ.เชียงราย กลับมาที่ สน.สามเสน เพื่อสอบปากคำ

 

เวลา 13.30 น. ที่ตึกภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.วชิรพยาบาล น.ส.ดาริกา พร้อมด้วยญาติ ๆ และเพื่อนร่วมงาน เดินทางเข้ารับร่าง น.ส.เขมฤทัย หรือ แอ๋ม เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ภูมิลำเนา วัดบ้านโพนไฮ ต.หนองแคน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยมีการทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน ท่ามกลางความโศกเศร้า

 

ทั้งนี้ แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิต ว่า หัวใจฉีกขาด จากบาดแผลถูกแทงบริเวณหน้าอก

 

โดย น.ส.ดาริกา กล่าวว่า หลังจากที่เห็นหน้าของพี่สาว ได้บอกว่าให้กลับไปอยู่บ้านด้วยกัน และมีการแจ้งว่าจับคนร้ายได้แล้ว

 

ด้าน นางจุ้ม (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี เพื่อนร่วมงานของ ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องแอ๋ม มาทำงานเป็น แม่บ้านที่รัฐสภา ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว รู้ว่าคบหากับ พลทหารสุนัย คนก่อเหตุ เห็นน้องวิดีโอคอลคุยกันบ่อยครั้ง ราวๆก็ประมาณ 8-9 เดือน ที่รู้ว่าทั้งคู่คบหาเป็นแฟนกัน และฝ่ายชายก็มาหาน้องแอ๋ม ที่ห้องบ่อยๆ

 

น้องแอ๋ม เคยเล่าว่า ฝ่ายชายขี้หึง หนักมาก ถึงขั้นต้องมีการเชื่อมแอคเคาท์ ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊กและไลน์ไว้ในโทรศัพท์ของ พลทหารสุนัย เอง เพราะคิดไปเองว่า น้องแอ๋มจะไปคุยกับผู้ชายคนอื่น

 

จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือน มิ.ย.2567 น้องแอ๋ม มาบอกว่าจะลาออกเพราะแม่ของน้องแอ๋ม จะไปทำงานต่างจังหวัด และไม่มีใครดูแลลูกของน้องแอ๋มทั้ง 2 คน และจะกลับบ้านไปดูแลลูก ถ้าทุกอย่างลงตัว น้องแอ๋มบอกว่าจะกลับมาทำงานที่นี่อีก

 

ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับทางแฟนหนุ่มที่ทำให้ น้องแอ๋ม ต้องลาออก โดยวันสุดท้ายที่เพื่อนที่ทำงานทุกคนเห็นน้องแอ๋ม คือวันที่ 18 มิ.ย.2567 ที่น้องแอ๋มมาทำงานวันสุดท้าย หลังจากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อหา น้องแอ๋ม อีกเลย

 

 

กระทั่งวันที่ 3 ก.ค.2567 มี  แชทไลน์ ของ น้องแอ๋ม ทักมาหาเพื่อนที่ทำงานว่า “แอ๋ม จะไม่อยู่นะ แอ๋มจะเข้าป่า โทรศัพท์จะเอาไว้กับผัว จะติดต่อแอ๋มไม่ได้" พอเพื่อนทุกคนรู้เรื่องนี้ก็ไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากทั้งเฟซบุ๊ก และไลน์ของน้องแอ๋มนั้น พลทหารสุนัย มีการเชื่อมเข้าโทรศัพท์ตัวเองไว้

 

จึง คิดว่าน่าจะเป็น พลทหารสุนัย สวมรอยเป็น น้องแอ๋ม ทักมาหาเพื่อนแบบนี้  ส่วนเหตุผลที่ฆ่าน้องแอ๋มตนเองคาดว่า น่าจะมาจากเรื่องหึงหวง ซึ่งตนเองเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าถ้าคนรักกัน เขาจะไม่ฆ่ากันแบบนี้ ขอเป็นอีกเสียงหนึ่งที่ยืนยันว่าระหว่างที่ น้องแอ๋ม คบหากันอยู่ ไม่เคยคุยกับผู้ชายคนอื่น

 

อย่างไรก็ตาม น.ส.ดาริกา น้องสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยว่า ขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข่าวจนจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เร่งจับตัวคนร้าย และขอขอบคุณผู้ใจบุญที่สนับสนุนค่าเดินทางในการเคลื่อนย้ายร่างกลับไปยังภูมิลำเนาบ้านเกิด ทั้งนี้ทางครอบครัวจัดพิธีสวดอภิธรรม 1 วัน ก่อนฌาปนกิจในวันที่ 11 ก.ค.2567