เปิดคลิปนาทีพ่อแม่ "โอปอล" ร่ำไห้ กราบขอขมาพี่สาว "โค้ชเทพ" | คมชัดลึก

11 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อและแม่ของนายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง หรือ โอปอล ผู้ต้องหาชิงทอง ได้เดินทางมาที่วัดช่อแลพระงาม ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อมาขอขมาศพของว่าที่ร้อยโทสุเทพ หรือ โค้ชเทพ และญาติ ซึ่งเมื่อทั้ง 2 คนมาถึง ใช้เวลาประมาณ 1 นาทีอยู่บนรถ ก่อนที่จะเดินลงจากรถ และได้ไหว้ทักทายสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว

แต่เมื่อเดินไปในศาลาที่ตั้งศพ ไปเจอกับพี่สาวของโค้ชเทพ สีหน้าของทั้ง 2 คนเปลี่ยนไปในทันที และได้ไหว้พร้อมกับนั่งคุกเข่าขอโทษต่อหน้าพี่สาวของโค้ชเทพ โดยตัวพ่อได้ร้องไห้พร้อมพูดว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสเข้ามาขอขมา ตัวของลูกชายของตนก็รับผิดทุกอย่าง อะไรที่ล่วงเกินก็ขออภัยแทนลูกชายด้วย

ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร ขอโทษขออภัยจริงๆ ครับ จะว่ากล่าวอย่างไรผมยอมรับผิดทุกอย่าง ไม่มีคำแก้ตัวใดใดทั้งสิ้น พวกตนผิดเองที่ปล่อยประละเลยลูก ดร.กฤษณา กาเผือก นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ พี่สาวของ ว่าที่ร้อยโทสุเทพ ก็ได้รับฟัง และพูดความรู้สึกให้กับทั้งสองคนฟังว่า คำว่าอโหสิกรรม เป็นคำที่สูงส่งมาก

ในวันนี้ ตนก็ไม่แน่ใจว่าจะเข้าถึงคำนี้จริงๆ หรือไม่ ก็ขอให้ทั้งสองคนไปขออโหสิกรรมกับตัวของน้องชายของตนละกัน ตนแยกแยะได้ระหว่างผู้ปกครองกับผู้ก่อเหตุ ก็เข้าใจความรู้สึกของผู้ปกครองอยู่ เพราะต่างคนต่างก็สูญเสีย แต่คงไม่ต้องไปขอขมาแม่ของน้องชายตน ให้มันจบที่ตน เพราะตอนนี้ผู้เป็นแม่ยังทำใจไม่ได้

ขนาดงานศพยังไม่กล้าที่จะมาร่วมเลย หลังจากนั้นพ่อและแม่ของผู้ก่อเหตุ ก็ได้ไปจุดธูปและไปขอขมาศพของโค้ชเทพ ว่า วันนี้พ่อและแม่ของโอปอลมาขอกราบอโหสิกรรม อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย ตัวของโอปอล บอกว่ารับสารภาพทุกอย่าง และรู้สึกผิดกับการกระทำของตน ขอชดใช้กรรมจากการกระทำ

ต่อมาก็ได้นำเงินช่วยเหลือไปมอบให้กับพี่สาวของโค้ชเทพ พร้อมกับบอกว่าหากมีอะไรให้ช่วยเหลือก็สามารถติดต่อมาได้ หลังจากนั้นก็ได้ไปพูดคุยกับลูกชายของโค้ชเทพ บอกกล่าวว่าหากขัดสน เดือดร้อนอะไรก็ขอให้ติดต่อมา พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พ่อของนายโอปอล ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งใจที่จะมาขอขมาตั้งแต่วันก่อน แต่ยังจัดการเรื่องคดีความไม่เสร็จสิ้น วันนี้จึงได้เดินทางมาพบกับญาติและกล่าวขอขมา ตัวของโอปอลก็บอกกับพ่อมาว่า ฝากกราบศพของพี่เขาด้วย

ด้าน ดร.กฤษณา กาเผือก พี่สาวของ ว่าที่ร้อยโทสุเทพ กล่าวว่า ตอนที่เขามาขอขมาก็มีหลากหลายอารมณ์ ตนก็เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่ เพราะตนก็มีลูกสองคน แต่ถามว่าอโหสิกรรมให้ไหม ก็ได้บอกกับเขาไปว่าคำว่าอโหสิกรรมเป็นคำศัพท์ที่สูงส่งและบริสุทธิ์มาก ตนก็ไม่เคยอโหสิกรรมกับกรณีแบบนี้มาก่อนในชีวิต

เคยแค่อโหสิกรรมในตอนที่ญาติเสีย หรือ วันสงกรานต์เท่านั้น ดังนั้นในกรณีนี้ตนยังไม่เข้าใกล้คำว่าโหสิกรรม หากจะเรียกได้ว่าอโหสิกรรม 100% คงยังทำไม่ได้ หากจะเข้าถึงคำนี้จริงๆ ก็คงต้องไปบวช ซึ่งก็บอกเขาไปว่า ให้ไปขอขมากับเจ้าตัวก็คือโค้ชเทพเองเลย ขอให้ถึงแค่ตนเท่านั้นไม่ต้องไปพบแม่ของโค้ชเทพ เพราะว่าจิตใจของแม่เขายังอ่อนแอ และเจ็บปวดมากพอแล้ว ขนาดงานศพของลูกชายตัวเองยังไม่กล้าที่จะเดินทางมาร่วม วันนี้ตนคิดว่าตนได้ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว ในฐานะทั้งพี่สาวและป้า