สรุปคดี "ลุงเปี๊ยก" มีความเห็นสั่งฟ้อง 8 ตำรวจ ผิด ม.157 - พ.ร.บ.อุ้มหาย
อัยการ-ดีเอสไอ มีความเห็นคดี "ลุงเปี๊ยก" สั่งฟ้อง 8 ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ผิด ม.157 และ พ.ร.บ.อุ้มหาย จับกุมไม่แจ้งให้ทราบ ไม่ส่ง พนง.สส. เตรียมสรุปสำนวนส่งปลาย ก.ค.
นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน พร้อมด้วย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะพนักงานสอบสวนร่วมกันประชุมพิจารณาสรุปความเห็นทางคดี "ลุงเปี๊ยก" ที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว บังคับทรมานให้รับสารภาพ ฆาตกรรมฆาตกรรม "ป้าบัวผัน" แต่ต่อมาความจริงปรากฎว่า ถูกกลุ่มเยาวชนรุมทำร้ายจนเสียชีวิต
นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการประชุมครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะส่งสำนวนคดีให้องค์คณะอัยการ ที่อัยการสูงสุดแต่งตั้งมาแต่แรก พิจารณากลั่นกรองอีกครั้ง เพื่อจะส่งสำนวนให้อธิบดีอัยการ สำนักงานปราบปรามการทุจริตภาค 2 พิจารณาสั่งฟ้องต่อไป คาดว่าเมื่อองค์คณะเห็นชอบกับสำนวนการสอบสวนดังกล่าวแล้วก็จะส่งสำนวนให้กับสำนักงานอัยการปราบปรา การทุจริตภาค 2 ในปลายเดือน ก.ค. นี้
ที่ประชุมมีความเห็นว่า ตำรวจทั้ง 8 นาย ผู้ต้องหาในคดีนี้ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ ผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย พ.ศ.2565
โดยพฤติการณ์ที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้น เนื่องจากชุดจับกุมนำตัวลุงเปี๊ยกมา โดยไม่ได้แจ้งให้กับพนักงานอัยการจังหวัดสระแก้วและฝ่ายปกครองในพื้นที่ทราบตั้งแต่แรก อ้างว่าเป็นการเชิญตัวมาให้ข้อมูลเท่านั้น แต่หลักฐานจากภาพวงจรปิดและการนำเสนอข่าวของสื่อนั้นขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา เนื่องจากมีการใส่กุญแจมือลุงเปี๊ยกด้วย
ส่วนพฤติการณ์ที่เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย มาตรา 6 คือ มีการใช้ถุงดำคลุมหัวและเปิดแอร์ให้หนาวเย็น เพื่อให้ได้มาซึ่งคำรับสารภาพของลุงเปี๊ยก และมาตรา 7 การจับกุมจะต้องส่งให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ แต่กรณีนี้ไม่ได้นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้สอบสวน แต่กลับนำตัวไปที่ห้องสืบสวน ซึ่งผิดหลักขั้นตอน
ทั้งนี้คดี พ.ร.บ.อุ้มหาย ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดนั้น พนักงานสอบสวนไม่ต้องส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. เป็นผู้ชี้มูลความผิด เพียงแค่แจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบเท่านั้น ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย มาตรา 31
อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 8 คน ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยมีข้อกล่าวอ้างที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียด เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน ซึ่งก็ถือเป็นแนวทางการต่อสู้ของผู้ต้องหา
นายวัชรินทร์ ยืนยันว่า การสอบสวนเป็นไปด้วยความเป็นกลางและเป็นธรรม โดยเฉพาะที่ฝ่ายผู้ต้องหายื่นหลักฐานเพิ่มเติม ทางคณะมีการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด สอบพยานบุคคลกว่า 40 ปาก และพยานวัตถุ เช่น กล้องวงจรปิด ข่าวที่สื่อนำเสนอ รวมถึงสอบลุงเปี๊ยกด้วยตัวเอง ซึ่งล่าสุดพบว่าลุงเปี๊ยก อยู่ในความดูแลสถาบันธัญญารักษ์ มีสติสัมปชัญญะปกติ สามารถให้การได้ จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แพทย์ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง หรือ แอลกอฮอล์ลิซึ่ม เป็นแค่คนเสพเหล้า แต่ตอนนี้หายแล้ว ร่างกายสมบูรณ์ อ้วนท้วมดี
สำหรับตำรวจ 8 นาย ประกอบด้วย
พ.ต.ท.พิชิต วัฒโน รอง ผกก.สส.สภ.อรัญประเทศ
พ.ต.ท.นิติธร พิมพ์คำ สว.สส.สภ.อรัญประเทศ
ร.ต.อ.พงศภัค พลแสน รอง สว.สส.สภ.อรัญประเทศ
ร.ต.อ.พชร บุญอินราทากูร รอง สว.สส.สภ.อรัญประเทศ
ด.ต.ภิเศก พวงมาลีประดับ หรือดาบเศก ผบ.หมู่ สส.สภ.อรัญประเทศ
จ.ส.ต.ทวีศักดิ์ พูนสะสมทรัพย์ ผบ.หมู่ สส.สภ.อรัญประเทศ
ส.ต.อ.ชัยศิริ สุรโฆษิต ผบ.หมู่ สส.ส
ภ.อรัญประเทศ