ข่าว

ช่วย "ยาย" 86 ปี ผู้ป่วยติดเตียงถูกแม่บ้านทำร้าย

ช่วย "ยาย" 86 ปี ผู้ป่วยติดเตียงถูกแม่บ้านทำร้าย

12 ก.ค. 2567

บุกช่วย คุณยาย 86 ปี ผู้ป่วยติดเตียง หลังเกิดเหตุแม่บ้านทำร้ายร่างกาย แต่คุณยายหลงๆลืมๆ จึงจำคนร้ายไม่ได้ ขณะที่แม่บ้านยังปากแข็ง เปิดวงจรปิดยัน

ช่วยคุณยาย ผู้ป่วยติดเตียง ถูกแม่บ้านทำร้ายร่างกาย

12 ก.ค.2567 ทีมงาน เพจสายไหมต้องรอด นำรถพยาบาลไปรับ คุณยาย วัย 86 ปี ผู้ป่วยติดเตียง ที่บ้านพัก ย่าน มีนบุรี เพื่อเข้าแจ้งความ ที่ สน.มีนบุรี กรณีถูก แม่บ้าน ทำร้ายร่างกาย

 

โดย นายมานพ อายุ 56 ปี ลูกเขยของคุณยาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้เคยจ้างแม่บ้าน มาดูแลคุณยายแล้ว แต่แม่บ้านคนเก่าลาออกกะทันหัน จึงโพสต์หาคนดูแลแม่ในเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นพยายามเลือกคนที่อยู่ใกล้ที่สุด สามารถเดินทางไป-กลับ ได้ และเจอแต่มิจฉาชีพ รวมทั้งคนที่โทรมาปั่นป่วนตลอด จึงตัดสินใจจ้างแม่บ้านคนนี้ โดยแม่บ้านคนนี้ยังบอกอีกว่ามีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยมาแล้ว 10-20 เคส

ช่วงแรกที่ แม่บ้าน เข้ามาอยู่ด้วย ยอมรับว่าอึดอัดเพราะเป็นคนนอก แต่สุดท้ายก็รับเข้ามาดูแลคุณแม่ และให้มาอยู่กินที่บ้านด้วย ตนจึงรับเข้ามาวันที่ 11 มิ.ย.2567 ให้ค่าจ้างวันละ 500 บาท ทำหน้าที่ป้อนข้าวและเปลี่ยนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ให้คุณแม่ โดยในช่วงแรกแม่บ้านเป็นคนพูดจาค่อนข้างดี และช่วงแรกๆ คุณแม่ยังดูสดชื่น

 

แต่ ผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ คุณแม่เริ่มซึม ซึ่งปกติคุณแม่จะตอบโต้ได้นิดหน่อย ผงกหัวและขยับแขนได้ แต่ช่วงหลังกลับนอนซมอย่างเดียว และพอตนกลับมาจากที่ทำงานก็เห็นว่าคุณแม่ปากแห้ง อาจเป็นเพราะแม่บ้านให้กินน้ำน้อย ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก

 

พอวันที่ 1 ก.ค.2567 ตนกลับมาจากที่ทำงานก็ตกใจ เพราะที่ปากของคุณยายมีรอยฟกช้ำ ฟันหักไปหนึ่งซี่ พอถามก็บอกว่าฟันหัก แต่บอกไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ

 

วันที่ 2 ก.ค.2567 จึงเปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่า แม่บ้าน ทำร้ายร่างกาย คุณแม่ มีรอยช้ำที่ขาและแขน จึงพยายามถามแม่บ้าน ช่วงแรกยังไม่ยอมรับ จึงเค้นถามอีกครั้ง จนถึงวันที่ 5 ก.ค.2567 แม่บ้านก็ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายคุณแม่จริง

 

อ้างว่า สาเหตุที่ต้องทำร้ายเพราะคุณแม่ดื้อ และยังท้าให้ไปแจ้งความ ตนยอมรับว่าน้ำตาซึม เคยเห็นข่าวลักษณะแบบนี้มาเยอะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับตนเอง

 

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ บอกว่า ครอบครัวของคุณยายประสานขอความช่วยเหลือมาที่ทีมงาน เพจสายไหมต้องรอด ตนจึงรีบเข้ามาช่วยเหลือเพราะกลัวว่าถ้าปล่อยไปแบบนี้แม่บ้านคนนี้ก็จะต้องไปดูแลผู้สูงคนอื่น และอาจจะ ทำร้ายร่างกาย ผู้สูงอายุบ้านอื่นอีก ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้ตนมองว่าเป็นภัยสังคม จึงพาครอบครัวผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดี

 

ด้าน พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุิ์ ศุภพนารักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะส่งตัว คุณยาย ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพื่อนำใบรับรองแพทย์มาประกอบสำนวนทางคดี และจะเรียกผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาภายหลัง เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา

 

นอกจากนี้ทีมข่าวยังพบอีกว่า ผู้ก่อเหตุยังใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความคิดเห็น สนใจรับดูแลผู้สูงอายุ พร้อมแนบเบอร์โทรศัพท์มือถือ ซึ่งทีมข่าวพยายามโทรไปหา แต่ก็ไม่มีคนรับสาย