จับ "น้ำหอมปลอม" เลียนแบบแบรนด์เนม วางขายกลางห้าง
ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ตรวจยึดน้ำหอมปลอมแบรนด์ดังกลางห้าง อ้างรับจากช้อปฯลดพิเศษ 70 %
14ก.ค.2567กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ กรมทรัพย์สินทางปัญญา
จับกุมผู้ต้องหา น.ส.กุ้ง ฯ อายุ 38 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันเสนอจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร”
พร้อมของกลาง
1. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Dior
2. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า YSL
3. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า LANCOME
4. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า CHANEL
5. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Burberry
6. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Jo Malone
7. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Armani
8. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Bvlgari
9. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Gucci
10. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Polo
11. น้ำหอมที่ปลอมเครื่องหมายการค้า Versace
12. ป้าย QR CODE รับโอนเงิน จำนวน 1 ชิ้น
สถานที่จับกุม แผงลอยไม่มีชื่อเลขที่ ภายในศูนย์การค้า เขตพระนครกรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปอศ.ได้รับแจ้งจากบริษัทผู้เสียหายว่าที่แผงลอยดังกล่าวมีการลักลอบจำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้เสียหาย ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. พร้อมด้วยตัวแทนผู้เสียหาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบแผงลอยดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบ น.ส.กุ้ง (ผู้ต้องหา) กำลังขายสินค้าเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวให้ น.ส.กุ้ง ทราบและขอตรวจสอบสินค้าภายในแผงลอย ก่อนทำการตรวจสอบได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ น.ส.กุ้ง ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว
ผลการตรวจสอบพบสินค้าปลอม โดยผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายได้ตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าของกลางดังกล่าว เป็นสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ซึ่งเมื่อสอบถาม น.ส.กุ้ง ให้การว่าตนเป็นพนักงานขายสินค้าและเพิ่งมาทำงานได้ประมาณ 20 วัน โดยได้ค่าจ้างวันละ 400 บาท มีหน้าที่เป็นพนักงานขายและจัดสินค้าในแผง โดยมีพี่ที่รู้จักอีกคนจะนำสินค้าและ QR CODE รับเงินมามอบให้ตนจำหน่ายสินค้าทุกวัน ซึ่งจะเปิดจำหน่ายสินค้าตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึงเวลา 18.00 น. และของกลางดังกล่าวเป็นของนายจ้างทั้งสิ้น
เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบป้าย QR CODE รับโอนเงินพบว่า เป็นชื่อบัญชีผู้หญิง และถจะตรวจสอบในประเด็นนี้ต่อไป
เบื้องต้น ได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ น.ส.กุ้ง ฯ ทราบว่า “ร่วมกันเสนอจำหน่ายซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ก่อนจะนำตัวพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปอศ. ชุดปฏิบัติการที่ 4 ได้ทำการตรวจยึดของกลางอีก 1 จุด โดยสามารถตรวจยึดของกลางได้ดังนี้
1.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ ดิออร์
2.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ ชาแนล
3.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ มอสคิโน
4.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ อิซเซ่ มิยะเกะ
5.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ โจ มาลอน
6.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ เวอซาเช่
7.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ ทอมฟอร์ด
8.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ โคลเอ้
9.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ โปโล ราฟรอเร็น
10.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ พราด้า
11.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ มาร์ชจาค็อบ
12.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ อีฟส์แซงต์ โลรองต์
13.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ ลังโคม
14.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ อามานี่
15. น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ ดาวิดอฟ
16.น้ำหอม ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ยี่ห้อ บุลการี
17. ตรวจยึดแผ่นป้ายสแกนชำระราคาสินค้าโดยคิวอาร์โคด
โดยตรวจพบของกลาง วางอยู่บนชั้นวางสินค้าภายในแผงลอยไม่มีชื่อ/เลขที่ ภายในห้างสรรพสินค้า เขตทวีวัฒนา ในการตรวจยึดครั้งนี้ตำรวจ ได้รับรับแจ้งจากหนังสือกรมทรัพย์สินทางปัญญา เรื่องข้อเท็จจริงที่ได้รับแจ้งจากประชาชน ว่าสถานที่ดังกล่าวมีการจำหน่ายสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534
ต่อมาตำรวจ ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบ ร้านค้าไม่มีชื่อไม่มีเลขที่ดังกล่าว เปิดจำหน่ายสินค้าตามรายการของกลางข้างต้นแต่ไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจสอบถามร้านค้าข้างเคียง ทราบว่า ร้านค้าดังกล่าว เป็นของหญิงสาวรายหนึ่งซึ่งมีชื่อตรงกับบัญชีคิวอาร์โค้ดที่รับโอนเงินจากการซื้อขายสินค้า (ขอสงวนชื่อเนื่องจากใช้ในการสืบสวนขยายผล)
เมื่อตรวจสอบสินค้าดังกล่าวพบว่าเป็นสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดสินค้าทั้งหมด ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป